เชื่อว่าความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนต้องการแค่มีงานทำมีรายได้ที่มั่นคงหรือที่เราเรียกกันว่า “มนุษย์เงินเดือน” แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องการออกจากกรอบมาทำตามความฝัน หรือเป็น “นายตัวเอง” วันนี้ ชี้ช่องรวยจะมาบอกให้ทราบถึง ข้อดี – ข้อเสีย ของแต่ละแบบที่เลือกว่ามีอะไรบ้าง
ข้อดี ลูกจ้าง
ข้อดีที่ถือเป็นจุดเด่นของการทำงานประจำที่เหนือกว่าการทำงานในรูปแบบอื่น ๆ ก็คือเรื่องความมั่นคงของรายได้นั่นเอง ทุก ๆ เดือนเมื่อถึงสิ้นเดือนพนักงานประจำก็จะได้รับเงินเดือนแน่นอนตามความเกณฑ์เงินเดือนของตำแหน่งเรา ไม่ว่าบริษัทที่เราทำงานอยู่ด้วยนั้นจะมีกำไรมากน้อยหรือขาดทุนในบางเดือนก็ไม่ได้กระทบกับรายได้ของเรา
การทำงานประจำกับองค์กรใหญ่นอกจากเงินเดือนที่ได้รับแล้ว หากบริษัททำกำไรได้มาก พนักงานก็มีสิทธิ์ได้รับส่วนเพิ่มเป็นโบนัสด้วย นอกจากนั้นบางบริษัทยังมีสวัสดิการต่าง ๆ เช่น เรื่องของการรักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนลูก ประกันชีวิต ฯลฯ ช่วยให้พนักงานอุ่นใจตลอดเวลาที่ทำงานอยู่กับบริษัท
- มีวันเวลาการทำงานที่แน่นอน
คนที่ทำงานประจำส่วนใหญ่จะทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง มีวันหยุด 2 วันคือวันเสาร์และอาทิตย์ ยกเว้นบางบริษัทหรือบางตำแหน่งที่อาจมีวันเวลาทำงานที่นอกเหนือไปจากนี้แต่เราก็จะทราบล่วงหน้าว่าวันเวลาทำงานของเราคือตอนไหน ทำให้เราสามารถวางแผนชีวิตส่วนตัวเพื่อพักผ่อนหรือท่องเที่ยวได้แบบสบายใจ
การเป็นพนักงานประจำในบริษัทเราเพียงแต่รับผิดชอบในส่วนของหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายให้สำเร็จเท่านั้น ส่วนอื่น ๆ ก็เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคนอื่น เราไม่ต้องแบกความรับผิดชอบของทั้งบริษัทไว้กับตัวเรา
การทำงานเป็นพนักงานประจำทำให้เรามีสังคมเพื่อนร่วมงานที่บางคนสนิทสนมกันจนกลายไปเป็นเพื่อนรู้ใจกันก็มี มีการนัดกันนอกรอบเพื่อทานข้าว สังสรรค์ เฮฮา ทำให้เรามีเพื่อนมากขึ้น
ข้อเสีย ลูกจ้าง
ด้วยขอบเขตของการทำงานที่ถูกจำกัดหน้าที่เวลารับผิดชอบ นั่นทำให้การทำตามความฝันจึงเป็นเรื่องยากกว่าคนที่ทำงานอิสระอีกทั้งพลังงานก็จะหมดไปกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวันแล้ว ฉะนั้นก็เหมือนกับการใช้ชีวิตอยู่แต่ในกรอบไม่ได้ออกมาเห็นโลกกว่างมากเท่าไหร่นัก
การเป็นพนักงานประจำแม้จะมีความมั่นคงในเรื่องการงานและรายได้ รวมถึงมีโอกาสได้รับโบนัสเมื่อบริษัททำกำไรได้มาก แต่โอกาสที่จะรวยแบบฟลุ้คเหมือนทำธุรกิจน่าจะยาก ไม่ใช่ไม่มีโอกาสรวย หากเลือกเก็บเงินวางแผนลงทุนเงินเก็บดีก็รวยได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องอาศัยระยะเวลาที่นานพอสมควรกว่าจะเห็นความรวย
ทั้งเรื่องของเวลาและการตัดสินใจ วันและเวลาการทำงานได้ถูกกำหนดไว้ว่าต้องเป็นไปตามนั้น ทุกเช้าพนักงานประจำจะต้องเข้างานตรงเวลาและไม่สามารถไปไหนทำธุระได้ในระหว่างเวลางานจนกว่าจะถึงเวลาเลิกงานแล้วเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ต้องลากิจกับเจ้านายเพื่อไปทำธุระ แต่ละบริษัทก็จะกำหนดไว้ว่าในแต่ละปีพนักงานจะสามารถลากิจได้ปีละกี่วัน
——————-
ข้อดี นายตัวเอง
- มีอิสระเลือกเวลาทำงานเองได้
เพราะไม่มีใครมากำหนดเวลาเข้างานออกงานของเรา ไม่ต้องเบียดเสียดผู้คนและรถราที่ติดขัดเพื่อไปทำงานในตอนเช้าและเช่นกันในเวลากลับบ้านตอนเย็น วันเวลาทำงานจึงมีความยืดหยุ่น งานบางอย่างสามารถทำที่บ้านได้ นายตัวเองในที่นี้อาจรวมถึงทั้งคนที่เลือกทำธุรกิจส่วนตัวและคนที่ทำงานแบบอิสระเป็นฟรีแลนซ์ด้วย
การเป็นนายตัวเองทำให้มีโอกาสในการตัดสินใจทุกเรื่องได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีเจ้านายมานั่งสั่งให้เราทำอะไรต่อมิอะไร คนที่ชอบความท้าทายและอยากร่ำรวยจึงชอบเป็นนายตัวเองมากกว่าทำงานประจำ
- โอกาสร่ำรวยมีอิสรภาพทางการเงิน
การเลือกทำธุรกิจเองมีโอกาสที่จะฟลุ้คหากเราจับธุรกิจได้ถูกทาง มีโอกาสพลิกมากลายเป็นคนรวยได้ทันที การทำงานอิสระที่เช่นกันหากเป็นงานที่เราถนัดและเรามีความขยันมากพอ ก็มีโอกาสร่ำรวยได้เช่นกัน
ข้อเสีย นายตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจของตัวเองหรือฟรีแลนซ์ รายได้จะไม่มั่นคงเหมือนกับการทำงานประจำ รายได้ของธุรกิจอาจขึ้นลงได้ตามภาวะเศรษฐกิจ ช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีบางเดือนอาจขาดทุนได้เหมือนกัน ส่วนงานฟรีแลนซ์ก็ไม่ได้เป็นงานประจำที่แน่นอน รายได้ก็จึงมีโอกาสขึ้นลงด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าการจะมีสวัสดิการดี ๆ เหมือนพนักงานประจำแทบจะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีโบนัสอย่างใครเขา จะมีแต่เพียงการสมัครเป็นผู้ประกันตน ม.39 ม.40 เท่านั้น
- โอกาสที่มาพร้อมกับความเสี่ยง
แม้การเป็นนายตัวเองจะเป็นการสร้างโอกาสร่ำรวยและมีอิสรภาพทางการเงินได้มากกว่าทำงานประจำ แต่นั่นก็ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนสามารถทำได้ โอกาสมาพร้อมความเสี่ยง หากทำธุรกิจเกิดความผิดพลาดไม่เพียงแต่ไม่รวยแต่อาจต้องสูญเสียเงินลงทุนไปได้ด้วย
แต่ทั้งหมดนี้ ชี้ช่องรวย อยากจะบอกกับทุกคนว่า ไม่มีอะไรดีไปทั้งหมด และไม่มีอะไรแย่ไปทั้งหมดเช่นกัน เราสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้ หรือเลือกทางที่ทำแล้วมีความสุขมากที่สุดได้