มาโนอิ แฟรนไชส์ชานมโตแรงกว่า 200 สาขา โดดเด่นด้วยคอนเซปต์ “อร่อยได้ ไม่ทำร้ายสุขภาพ”
ถ้าพูดถึงธุรกิจชานมไข่มุกในวันนี้ หลายคนอาจนึกถึงตลาดที่แข่งขันดุเดือด ร้านเปิดง่าย แต่ปิดไวกว่า แต่ในความวุ่นวายของตลาดที่เต็มไปด้วยตัวเลือกมากมาย กลับมีแบรนด์หนึ่งที่เติบโตขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ แต่แข็งแรง จนตอนนี้ขยายไปแล้วกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ แบรนด์นั้นคือ MANOI “มาโนอิ” ชานมเพื่อสุขภาพที่ทำให้หลายคนต้องหันกลับมามองใหม่ว่า ธุรกิจชานมยังมีช่องว่างให้เติบโตอีกมากแค่ไหน
มาโนอิไม่ได้เกิดมาจากคนที่อยากขายเครื่องดื่มเพราะเห็นว่าเป็นเทรนด์ แต่เกิดจากเจ้าของแบรนด์ที่เป็นคนออกกำลังกายเป็นประจำ และยังเป็นสายเครื่องดื่มหวานเย็นตัวยง เขาเห็นปัญหาง่าย ๆ ที่คนจำนวนมากเจอเหมือนกัน คือ รักชานม แต่ก็รู้ว่าไม่ดีต่อสุขภาพ เพราฉะนั้นถ้ามีชานมที่ “อร่อยเหมือนเดิม แต่ดีต่อร่างกายกว่า” มันจะดีแค่ไหน? จากคำถามนั้น จึงเกิดเป็นคอนเซปต์ของมาโนอิที่ชัดเจนตั้งแต่วันแรก คือ “อร่อยได้ ไม่ทำร้ายสุขภาพ”
สิ่งที่ทำให้คอนเซปต์นี้จับใจลูกค้า ไม่ใช่แค่การพูดสวยหรู เพราะเมื่อลงลึกไปถึงเบื้องหลัง จะพบว่าทุกแก้วของมาโนอิถูกออกแบบโดยยึดสุขภาพเป็นหลักจริง ๆ ตั้งแต่วัตถุดิบที่ใช้ น้ำตาลธรรมชาติ ไม่ใช้น้ำเชื่อมไฮฟรุกโตส ไปจนถึงส่วนผสมทั้งหมดที่ ไม่มีไขมันทรานส์ และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการเลือกใช้ หญ้าหวาน ที่หวานกว่า 200–300 เท่า แต่แทบไม่มีพลังงาน คนที่เป็นเบาหวาน ความดัน หรือกำลังลดน้ำหนักสามารถดื่มได้อย่างสบายใจ
แน่นอนว่าการทำเครื่องดื่มสุขภาพไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำให้มัน “อร่อย” ในระดับที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำ นั่นต่างหากคือความท้าทาย ทีม R&D ของมาโนอิจึงต้องทดลองสูตรครั้งแล้วครั้งเล่า ปรับปริมาณ ปรับระดับความหวาน เพื่อให้ได้รสชาติที่ไม่ใช่แค่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังถูกปากคนไทยทุกช่วงวัย และผลลัพธ์คือเสียงตอบรับที่ชัดเจน ลูกค้ากว่า 88% บอกว่าชอบรสชาติ และกว่า 90% ชอบคอนเซปต์แบรนด์
สิ่งที่ตามมา คือ ยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในหลายทำเล มาโนอิสามารถขายได้ถึง 150–200 แก้วต่อวัน โดยเฉพาะพื้นที่หน้าโรงเรียน ออฟฟิศ หรือสถานศึกษา ส่วนทำเลชุมชนทั่วไปก็ยังทำได้เฉลี่ย 100–120 แก้วต่อวัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สวยงามสำหรับร้านเครื่องดื่มในยุคนี้
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้แฟรนไชส์มาโนอิโดนใจผู้ลงทุนจำนวนมาก คือ ความยืดหยุ่นของโมเดลธุรกิจ ร้านสามารถขายทั้งเครื่องดื่มและอาหารควบคู่กันได้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสร้างรายได้เพิ่มโดยไม่จำกัดแค่เมนูชานมเท่านั้น นอกจากนี้ดีไซน์ร้านแบบซุ้มโค้งสีขาว คลีน มินิมอล ยังทำให้แบรนด์จดจำง่ายและเข้ากับทุกทำเล ทั้งห้าง ชุมชน ฟู้ดคอร์ท หรือแม้แต่พื้นที่ด้านหน้าร้านที่มีอยู่แล้ว
แม้จะเติบโตเร็ว แต่สิ่งที่ทำให้มาโนอิแตกต่างคือความตั้งใจที่จะทำธุรกิจอย่างยั่งยืน วิสัยทัศน์ของแบรนด์ คือ การขยายให้แข็งแรงในประเทศไทย และก้าวสู่ตลาดระดับภูมิภาค พร้อมกับสร้างโอกาสทางอาชีพให้ผู้ประกอบการไทยทุกคนที่อยากมีธุรกิจของตัวเอง
ในวันที่หลายคนยังมองว่าตลาดชานมเริ่มอิ่มตัว มาโนอิกลับพิสูจน์ว่าหากแบรนด์มีจุดยืนชัดเจน มีคุณภาพจริง และตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพที่กำลังเติบโต ธุรกิจก็ยังมีพื้นที่ให้ไปต่อเสมอ และบางครั้ง การเติบโตที่แข็งแรงที่สุด อาจไม่ใช่การดังแบบฉาบฉวย แต่คือการสร้างฐานลูกค้าจริงที่รักแบรนด์อย่างยั่งยืน ซึ่งมาโนอิกำลังทำสิ่งนั้นอยู่
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่มด้วยแบรนด์ที่มีทิศทางชัดเจน มีฐานลูกค้ากว้าง และมีจุดขายที่แตกต่างจากท้องตลาด มาโนอิอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าศึกษาที่สุดในช่วงเวลานี้
ติดตามความเคลื่อนไหวและโอกาสลงทุนกับ แฟรนไชส์ มาโนอิ (MANOI) ได้ที่
Facebook: MANOI Thailand https://manoithailand.com/
ค้นหาแฟรนไชส์ที่ใช่สำหรับคุณได้เลยที่ 👉 ชี้ช่องรวย