ในวันที่เทคโนโลยีเกษตรเปลี่ยนเร็ว และความท้าทายของชุมชนชนบทสูงขึ้น “บุญยวง อินดัสทรี” จากอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย คือหนึ่งในตัวอย่างธุรกิจไทยที่พิสูจน์ว่า เอสเอ็มอีไม่ได้โตเฉพาะในโรงงาน แต่โตไปพร้อมผู้คนรอบตัวได้จริง

จากรากเกษตรดั้งเดิมของครอบครัว สู่การออกแบบนวัตกรรมเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ตอบโจทย์ยุคใหม่ ทั้งเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก เครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ไปจนถึงเครื่องแยกน้ำจากมูลสุกรเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับบริการหลังการขาย และการจ้างงานคนในชุมชน 100% ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชน เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของ “ลำยอง สอนโต” ผู้ก่อตั้งที่ยึด “ชุมชน” เป็นศูนย์กลางของการเติบโต
ธุรกิจแห่งนี้จึงกลายเป็น เอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ ปี 2568 สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างคุณค่าทั้งต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นและสังคมโดยรอบอย่างแท้จริง

“ลำยอง สอนโต” ผู้ก่อตั้งบุญยวง อินดัสทรี โดยตั้งโรงงานอยู่ที่ ต.สามพวง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย เล่าว่า บริษัทแห่งนี้จัดตั้งเมื่อปี 2559 โดยทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรกลทางการเกษตร ถือเป็นการผสานความชำนาญในการผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษเข้ากับประสบการณ์จากการเป็นนักขายตัวยงของเขา ทำให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าเป็นลำดับ โดยปัจจุบันมียอดขายกว่า 10 ล้านบาทต่อปี
“ถ้าพูดถึงเรื่องสีข้าว ตาผม ปู่ผม เป็นคนทำเครื่องสีข้าวโบราณ ครกมอง (ครกกระเดื่อง) สากตำข้าว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อน ส่วนผมเมื่อก่อนเป็นพนักงานบริษัทขายตรง แต่ลาออกตอนอายุ 33 ปีเพราะอยากเป็นผู้ประกอบการ จึงสิ่งที่มีความชำนาญเดิมมาต่อยอดเป็นการค้า ทำไปได้ 1-2 ปีก็เริ่มเห็นหน้าเห็นหลัง” ลำยอง เล่า
“เครื่องสีข้าวกล้องขนาดเล็ก” คือเครื่องจักรกลทางการเกษตรแรกที่เขาผลิตและจำหน่าย และด้วยเหตุที่เขาเป็นคนไม่หยุดนิ่ง ทันยุคทันสมัย เครื่องสีข้าวขนาดเล็กจึงถูกพัฒนาต่อเนื่อง จนปัจจุบันสามารถสีได้ทั้งข้าวกล้องและข้าวขาวกลายเป็นนวัตกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตรที่ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น รางวัลชนะเลิศการประกวดเครื่องสีข้าวกล้องสำหรับครัวเรือนในงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2557, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 การประกวดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมโครงการพัฒนาศักยภาพสินค้าสู่ตลาดนวัตกรรมและ IP (INTELLECTUAL PROPERTY) เศรษฐกิจไทย ก้าวไกลด้วยนวัตกรรม) ประเภทสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมอื่นๆ, ภาพรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรตินักประดิษฐ์ เครื่องสีข้าวกล้อง เป็นต้น
“เครื่องจักรกลทางการเกษตรของผมทำไม่เหมือนใคร ไม่ได้ก๊อปปี้ใคร ทำเพราะใจรัก เพื่อนฝูง ลูกค้าอยากให้ช่วยทำ อย่างเครื่องสีข้าวขนาดเล็กจะโดดเด่นที่ตัวเครื่องจะเปิดข้าวเอง โดยใช้ภูมิปัญญาการทำลิ้นเปิด-ปิด เมล็ดข้าวจะถูกดูดเข้าไปในเครื่อง เมื่อสีออกมาแล้วเมล็ดข้าวไม่หัก” ลำยอง เล่า
นอกจากนวัตกรรมเครื่องสีข้าวขนาดเล็กแล้ว ยังมีนวัตกรรมล่าสุด คือ เครื่องแยกน้ำออกจากมูลสุกรเพื่อนำมาอัดทำปุ๋ย ใช้ในฟาร์มเลี้ยงสุกรเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และยังสร้างมูลค่าเพิ่มจากมูลสุกร

นอกจากนี้บริษัทยังผลิตเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องจักรกลทางการเกษตรที่มีส่วนลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ลำยองเล่าว่า ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้สามารถผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรได้กว่าร้อยรายการ ทั้งการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายเอง ผ่านการออกบูธ ลูกค้ามาซื้อสินค้าหน้าโรงงาน และการผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยมีลูกค้ากระจายไปในหลายจังหวัด อาทิ ชลบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา ส่งออกไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา และแอฟริกา
ในแง่ของบริการหลังการขาย บริษัทจะให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะยึดหลักการประกอบอาชีพซื่อสัตย์ สุจริต มีธรรมาภิบาล โดยจะรับประกันการผลิตสินค้า 1 ปี หากพบว่าสินค้าเสียหายจากกระบวนการผลิตจะส่งทีมงานไปให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้หมดระยะประกันแล้ว บริษัทยังบริการให้คำปรึกษาตลอดการใช้งานสินค้า
ในส่วนของพนักงาน บริษัทจะใช้คนในพื้นที่ทั้งหมด โดยปัจจุบันมีพนักงานไม่ต่ำกว่า 10-20 ครอบครัว เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น โดยจะดูแลพนักงานเหมือนคนในครอบครัว มีการสอนงาน ถ่ายทอดงานให้พนักงานมีความรู้ ความสามารถในการทำงาน เพื่อให้พนักงานเหล่านั้นไปเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้ลูกค้า เกษตรกร ต่อไป
นอกจากนี้ยังใช้โรงงานเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ ให้คำปรึกษา และดูงานการผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรเพื่อพัฒนาอาชีพ เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงานส่งคนมาพัฒนาฝีมือแรงงานที่โรงงาน, กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ ขอให้โรงงานเป็นศูนย์ฝึกให้กับเด็กนักเรียน เป็นต้น
“สำหรับผม บริษัทบุญยวงฯ เป็นต้นแบบสัมมาชีพตรงที่เราเป็นเอสเอ็มอี แต่ไม่ได้หยุดแค่ทำงานในโรงงานของเราเท่านั้น หากยังนำความรู้ ความสามารถ ไปเป็นต้นแบบให้ผู้ที่ต้องการความรู้ เพื่อนำไปสร้างรายได้ สร้างอาชีพ”
ผู้ก่อตั้งบุญยวง อินดัสทรี ยังกล่าวถึงหลักคิดในการทำธุรกิจ นำไปสู่ความสำเร็จว่า ต้องปรับตัวให้ทันยุคสมัย “ไม่ย่ำอยู่กับที่” ทำให้การผลิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรของเขาสามารถประยุกต์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้เสมอ
ทั้งต้องทำงานอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาทักษะของตนเองและพนักงาน พร้อมกับการยึดหลักสัมมาชีพ ดำเนินธุรกิจไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนสังคม ชุมชน และไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม มีรายจ่ายน้อยกว่ารายได้
“เราต้องคิดตามโลกให้ทันยุคสมัย ตามการเปลี่ยนแปลงให้ทัน ผมตอนนี้อายุ 61 ปี (ปี2568) ยังเล่นโซเซียล ทำให้เรามีมุมมองใหม่มาพัฒนาเครื่องจักรฯ มองเห็นเทรนด์เรื่องการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องแยกน้ำจากมูลสุกร ลูกหลานยังถามว่า พ่อคิดได้ยังไง” ผู้ก่อตั้ง บุญยวง อินดัสทรี เล่า
นวัตกรรม ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีล้ำสมัยเท่านั้น แต่ความตั้งใจที่จะพาธุรกิจและชุมชนก้าวไปด้วยกัน คือนวัตกรรมที่สามารถเป็นต้นแบบให้ประเทศทั้งระบบได้เช่นกันTop of Form