ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ประกันสังคม ช่วยผู้ประกันตนพื้นที่ประสบอุทกภัย 42 จังหวัด ลดอัตราเงินสมทบ 6 เดือน

รมว.แรงงาน แจงมาตรการลดเงินสมทบและขยายระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบ ช่วยเหลือนายจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ในพื้นที่ประสบอุทกภัย

ผู้ประกันตน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง ผู้ประกันตนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดคณะกรรมการประกันสังคมได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการ เพื่อให้การช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้าง ม.33 และ ม.39 ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 42 จังหวัด โดยเร่งด่วน รายละเอียดดังนี้

ผู้ประกันตน

  1. ลดอัตราเงินสมทบช่วงระยะเวลา 6 งวดเดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568 รายละเอียดดังนี้

  • อัตราเงินสมทบนายจ้างและ ม.33 จากเดิมอัตราร้อยละ 5 ลดเหลืออัตราร้อยละ 3 เช่น ค่าจ้าง 15,000 เดิมต้องจ่าย 750 บาทต่อเดือน ในงวดที่ได้รับการลดหย่อนจ่ายเพียง 450 บาทต่อเดือน
  • อัตราเงินสมทบ ม.39 จากเดิมอัตราร้อยละ 9 จ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาทต่อเดือน ลดลงเหลืออัตราเงินสมทบร้อยละ 5.9 เท่ากับจ่ายเงินสมทบ 283 บาทต่อเดือน
  1. ขยายระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบประกันสังคม โดยขยายกำหนดเวลาการนำส่งเงินสมทบของนายจ้าง ม.33 และ  ม.39 ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับงวดการส่งเงินสมทบ 4 งวดของเดือนกันยายน – ธันวาคม 2567 ดังนี้
  • ค่าจ้างงวดเดือนกันยายน 2567 เดิมกำหนดส่งเงินสมทบภายใน 15 ตุลาคม 2567 ขยายระยะเวลาให้ส่งเงินสมทบภายในวันที่ 15 มกราคม 2568
  • ค่าจ้างงวดเดือนตุลาคม 2567 เดิมกำหนดส่งเงินสมทบภายใน 15 พฤศจิกายน 2567 ขยายระยะเวลาให้ส่งเงินสมทบภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568
  • ค่าจ้างงวดเดือนพฤศจิกายน 2567 เดิมกำหนดส่งเงินสมทบภายใน 15 ธันวาคม 2567 ขยายระยะเวลาให้ส่งเงินสมทบภายในวันที่ 15 มีนาคม 2568
  • ค่าจ้างงวดเดือนธันวาคม 2567 เดิมกำหนดส่งเงินสมทบภายใน 15 มกราคม 2568 ขยายระยะเวลาให้ส่งเงินสมทบภายในวันที่ 15 เมษายน 2568

นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า การลดหย่อนเงินสมทบในครั้งนี้ สามารถลดภาระนายจ้างและลูกจ้างได้เป็นจำนวนกว่า 7 พันล้านบาท จำแนกเป็นเงินสมทบฝ่ายนายจ้างจำนวนประมาณ 3,400 ล้านบาท และ ม.33 และ ม.39 จำนวนประมาณ 3,700 ล้านบาท

สำหรับขั้นตอนการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม จะเร่งดำเนินการเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชำระเงินสมทบล่าช้าจากการขยายเวลาการนำส่ง ขอให้นายจ้างจัดทำแบบนำส่งเงินสมทบตามอัตราที่สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดลดหย่อน

สำนักงานประกันสังคมขอให้มั่นใจในการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม ภายใต้นโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน จะช่วยแก้ไขปัญหาของนายจ้างและลูกจ้าง เพื่อสร้างหลักประกันที่มั่นคงและเป็นที่พึ่งอยู่เคียงข้างผู้ประกันตนตลอดไป

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิก


อ่านข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ คลิก