ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

SME เตรียมไปงาน “THAIFEX 2017” อร่อยไม่พอ ต้องมีนวัตกรรม


              

  มาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอาหารเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของไทย ข้อมูลจากสถาบันอาหารระบุว่าการส่งออกอาหารของไทยในปี 2559 มีมูลค่าสูงถึง 972,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 12.8% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศ และไทยผู้ส่งออกอาหารเป็นลำดับที่ 12 ของโลกอีกด้วย สำหรับแนวโน้มในปี 2560 นี้ คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะเพิ่มสูงขึ้น ถึง 10.5 ล้านล้านบาท ปัจจุบันผู้ประกอบการ SMEs รุ่นใหม่ หันมาสร้างแบรนด์เองมากขึ้น แทนการรับจ้างผลิตเหมือนสมัยก่อน ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ธุรกิจอาหารด้วยนวัตกรรมและเป็นความหวังหลักในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมาย Thailand 4.0 พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนไป ทำให้อุตสาหกรรมอาหารต้องปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ต้องมีการพัฒนาด้วยการนำนวัตกรรมมาช่วยเพิ่มมูลค่าให้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าสูง และเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เช่น พัฒนาเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่เน้นประโยชน์เฉพาะ อาหารเสริมหรือที่ช่วยรักษาโรค ฯลฯ

           

การนำวัตถุดิบทางการเกษตรมาแปรรูปทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ทุเรียน นำมาผลิตเป็นเครื่องดื่มหรือแยมที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้คนที่ไม่รับประทานทุเรียน สามารถดื่มได้ การนำ “คางกุ้ง” ที่จากเดิมคนมองข้าม มาแปรรูปเป็นอาหารทานเล่น ซึ่งเมนูนี้สร้างรายได้ให้ SME ปีละกว่า 20 ล้านบาทหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านอย่างส้มตำ ให้เป็นส้มตำอบกรอบที่สะดวกในการพกพา สามารถรับประทานได้ง่ายก็เพียงฉีกซองเติมน้ำ  “การทำธุรกิจอาหารในปัจจุบัน ความสำคัญไม่ได้อยู่แค่เพียงรสชาติเท่านั้น หากแต่นวัตกรรมคือความจำเป็นของการพัฒนาอาหารทั้งเมนูและรูปแบบที่จะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าได้ เพื่อให้อุตสาหกรรมอาหารยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้หลักให้กับประเทศไทยต่อไป” มาลีกล่าวเสริม สำหรับผู้ประกอบการ SME และผู้บริโภค เตรียมพบกับนวัตกรรมอาหารได้ที่งาน “THAIFEX – World of Food Asia 2017” ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม –4 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

สำหรับผู้สนใจติดตามข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ www.ditp.go.th, www.worldoffoodasia.com