ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

แตกต่างเพื่ออยู่รอด!! “Tint Bicycle” จักรยานดีไซน์เองได้


                        

ปูม เชษฐ์โชติศักดิ์ เจ้าของธุรกิจ เล่าว่า ก่อนที่จะมาทำธุรกิจนี้ ตนมีความชื่นชอบการปั่นจักรยานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่นักปั่นมืออาชีพปั่นเป็นงานอดิเรกมากกว่า ทำให้พบกับปัญหาที่ว่า ในท้องตลาดช่วงเวลานั้น เต็มไปด้วยจักรยานสำเร็จรูปที่ถูกออกแบบเพื่อการปั่นอย่างจริงจัง ทำให้กลุ่มที่ปั่นเป็นไลฟ์สไตล์ไม่มีตัวเลือกในการซื้อจักรยานมากนัก “จักรยานเปรียบเสมือนเครื่องแต่งกายชิ้นหนึ่ง ที่จะต้องเข้ากับสไตล์ของผู้ใช้ ในตลาดมีจักรยานที่สวยอยู่มาก แต่มักจะมีราคาสูง มีฟังก์ชั่นการใช้งานเยอะเกินความจำเป็นสำหรับกลุ่มคนที่ไม่ใช้นักปั่นที่เขาต้องการความสวยงามเข้ากับลุคของผู้ใช้มีฟังก์ชั่นที่เหมาะกับชีวิตประจำวันและจะยิ่งดีถ้าสามารถออกแบบเองได้ แถมยังราคาไม่แพง” ปูม กล่าวเสริม

         

เมื่อได้ไอเดียธุรกิจปูมก็เริ่มศึกษาตัวจักรยานอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องการหาชิ้นส่วนที่จะนำประกอบ ทั้งเฟรม ล้อ เบาะ แฮนด์ และสี ซึ่งอะไหล่ส่วนใหญ่ก็จะก็นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพ แต่ก็เลือกที่ราคาไม่แพงจนเกินไป เพื่อลดต้นทุน ทำให้สามารถขายนราคาที่จับต้องได้ โดยกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาร่วมปี ก่อนที่จะได้ฤกษ์เปิดร้านในช่วงต้นปี 2558 ที่ระหว่างลาดพร้าวซอย 8 กับลาดพร้าว ซอย 10 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพหลโยธิน ในช่วงเดียวกันนั้น ปูมก็ได้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการออกแบบจักรยานผ่านเว็บไซต์ www.tintbicycle.com เพื่อที่จะให้ลูกค้าเข้าใจและเห็นหน้าตาของจักรยานก่อนทำให้ง่ายต่อการสื่อสาร สำหรับการดีไซน์จักรยาน จะมีทั้งหมด 2 แบบ คือทรง Signature มีความสปอร์ต กระฉับกระเฉง เหมาะสำหรับทุกกิจกรรม และทรง Mellow ออกแบบมาสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะ มีความอ่อนหวานเรียบร้อย เหมาะกับโทนสีพาสเทล นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นลงได้ง่าย โดยทั้ง 2 แบบจะมี 3 ขนาดได้แก่ Size S เหมาะสำหรับผู้ที่มีความสูงตั้งแต่ 150-165 ซม.Size M สูง 165-175 และ Size L ความสูงตั้งแต่ 175-185 ซม.

          

จักรยานทุกแบบสามารถดีไซน์ได้แทบทุกส่วนของจักรยาน ทั้งเฟรม ล้อ ยาง กันโคลน แฮนด์จับ เบาะ และลายสติ๊กเกอร์มีสีให้เลือกกว่า 20 เฉด สร้างสรรค์ได้ไม่ซ้ำกันกว่า 200 ล้านรูปแบบ เมื่อกดสั่งผลิตจากทางเว็บไซต์สามารถรอรับได้ใน 1 ชั่วโมง (กรณีไม่มีคิว) หรือไม่เกิน 7 วัน สามารถมารับที่ร้านได้หรือจัดส่งให้ถึงบ้าน ราคาเริ่มต้นที่ 7,500 บาทต่อคัน นอกจากนี้ยังขายแยกอุปกรณ์อะไหล่จักรยานอื่นๆ อีกด้วย กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ที่ไม่จริงจังกับการปั่นเพื่อแข่งขัน แต่จะใช้สำหรับปั่นเที่ยวพักผ่อน แม้ในระยะหลังกระแสคนปั่นอาจจะซบเซาลงไปบ้าง แต่ปูมเชื่อว่าในอนาคตการปั่นจักรยานจะกลับมาเป็นที่นิยมอีก เพราะด้วยปัจจัยใจหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม อย่างเลนปั่นจักรยานที่เริ่มดีขึ้น ทำให้การปั่นในชีวิตประจำวันมีความคล่องตัว และอีกอย่างคือ จักรยานของทางร้านเป็นสินค้าแฟชั่นที่ไม่มีวันตกยุค ก็จะมีกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ

                     

สำหรับด้านแผนธุรกิจในอนาคต ปูมจะเพิ่มฟังก์ชั่นการออกแบบให้มากขึ้น เช่น จักรยานพับได้ เพื่อขยายฐานลูกค้า มุ่งไปที่การควบคุมต้นทุนการผลิต เพื่อให้ธุรกิจยังคงแข่งขันในตลาดได้ในส่วนของการทำการตลาด ก็จะใช้สื่อออนไลน์เป็นหลัก เพราะใช้งบไม่สูง โดยจะเน้นกลุ่มนิชมาร์เก็ต เพราะมองว่า

        ตลาดจักรยานมีลูกค้าเฉพาะกลุ่มและเป็นของที่มีการซื้อซ้ำน้อยมาก กว่าจะเปลี่ยนแต่ละคันใช้เวลาหลายปี ทำให้ต้องดึงกลุ่มผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเป็นลูกค้าให้ไดh“ ในโลกธุรกิจ ถ้าคุณไม่สามารถสร้างอะไรที่แปลกใหม่ออกมาได้ คุณก็จะไม่มีจุดยืนในตลาดไม่แค่กับธุรกิจจักรยาน แต่ทุกธุรกิจก็ต้องแตกต่าง เพราะไม่อย่างนั้น ก็ไปไม่รอด” ปูม กล่าวทิ้งท้าย ปัจจุบัน Tint Bicycle ถือว่าเป็นร้านจักรยานเจ้าเดียวในเมืองไทยที่สามารถออกแบบเองได้ ที่ถึงแม้ว่า กลุ่มลูกค้าจะไม่เติบโตมากนัก แต่ร้านก็ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ เพราะไอเดียที่กล้าแหวกตลาด นำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคต่างจากร้านทั่วไปที่มักจะขายแบบเดียวกัน สีเดียวกัน จนสุดท้ายต้องหันแข่งกันเองในสงครามราคา