ปาจรีย์ จาวุธาณินทร์ เจ้าของแฟรนไชส์ เล่าว่า จุดเด่นของร้านคือการใช้ผลไม้เกรดส่งออก ทำให้ลูกค้ารับรู้ได้ถึงรสชาติของผลไม้สดใหม่ที่หารับประทานได้ยากในตลาดเมืองไทย ซึ่งพระเอกหลักที่เป็นเมนูเด่น คือ มะม่วงน้ำดอกไม้ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีผลไม้ชนิดอื่นให้เลือก เช่น ผลไม้สดตระกูลเบอร์รี่ และเครื่องดื่มอื่นๆ อย่าง ครีมมี่เมนู และอิตาเลียนโซดา ขนมหวาน เช่น ไอศกรีมมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง พุดดิ้งมะม่วง ข้าวเหนียวมะม่วงและอื่นๆ อีกกว่า 10 เมนู ราคาขายเริ่มต้นที่ 69 – 119 บาท ในส่วนการลงทุนแฟรนไชส์ มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ  1.แบบ Take a Way งบลงทุน 120,000 บาท 2.แบบ Shop งบลงทุน 180,000 บาท โดยทั้ง 2 รูปแบบจะได้รับสิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายการค้า 3 ปี พร้อมรับอุปกรณ์หลักที่ใช้สำหรับทำเมนูทั้งหมด สามารถขายได้ทันทีวัตถุดิบชุดแรกพร้อมขาย 200 แก้ว และเข้ารับการอบรมการบริหารจัดการ พร้อมทั้งเรียนรู้สูตรต่างๆ ทั้งหมดให้แก่เจ้าของแฟรนไชส์ และพนักงาน นอกจากนี้ผู้ลงทุนต้องมีเงินทุนหมุนเวียนขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือน ผลกำไรที่ได้รับ 60 เปอร์เซ็นต์ของราคาขาย ระยะเวลาคืนทุน 6 – 12 เดือน ปัจจุบัน แมงโก้ มาเนีย มีมากกว่า 26 สาขา และขยายสาขาไปยังประเทศเวียดนามด้วย ปาจรีย์ บอกว่าสิ่งสำคัญของการเปิดแฟรนไชส์นั้นผู้ลงทุนควรเลือกทำเลที่เหมาะสม อีกทั้งทาง แมงโก้ มาเนีย จะลงพื้นที่สำรวจทำเลนั้นๆ ให้อีกด้วย และจะช่วยทำการตลาด โดยการจัดกิจกรรมทางการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งสื่อนิตยสาร รายการโทรทัศน์ วิทยุ ทำการตลาดผ่าน งานแสดงสินค้า เว็บไซต์ และอื่นๆ และสำหรับสาขาใหม่บริษัทมีการสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ ทั้งโบร์ชัวร์ เว็บไซต์ และทำการตลาด CRM เช่น บัตรสะสมแต้ม เป็นต้น  “ธุรกิจเครื่องดื่มถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีการเติบโตอย่างโตเนื่อง ขอได้เปรียบของ แมงโก้ มาเนีย อยู่ที่วัตถุดิบที่เป็นผลไม้สดระดับพรีเมียมเพื่อการส่งออก ลูกค้าที่ได้ลองทางจะรับรู้ได้ถึงความสดใหม่ เพียงแค่ผู้ลงทุนมีใจรักในธุรกิจตั้งใจจริงก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้ง่าย เพราะขั้นตอนการบริการจัดการต่างๆ ทางบริษัทได้จัดวางระบบไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว” ปาจรีย์กล่าวทิ้งท้าย   สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่โทร.08-1642-4240