ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

“เบอเร่อ” เสื้อผ้าผู้ชายหุ่นหมี ฟันรายได้หลักล้าน!!


   

ด้วยความที่เป็นหนุ่มหุ่นโอเวอร์ไซส์ ทำให้ “ธัชวัฒน์ เชาวลิต” มีความลำบากทุกครั้งที่จะหาซื้อเสื้อผ้าใส่ให้พอดีกับรูปร่างแถมที่วางขายตามท้องตลาดก็ไม่ได้มีลายให้เลือกหลากหลาย นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาอยากจะทำแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับคนอ้วนขึ้นมา เพื่อสนองความต้องการตัวเองและเหล่าผู้ชาย “หุ่นหมี” ที่มีหัวอกเดียวกัน จากนั้นเขาจึงไปชักชวน “ปาริชาติ เดชพิพัฒนกุล”กับ “ยศพล พองประพันธ์” มาร่วมกันทำแบรนด์ BERRER” (เบอเร่อ) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “TURN FAT TO FAB” อ้วนแค่ไหนก็เท่ได้

“เมืองไทยมีผู้ชายอ้วนกว่า 4 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับคนผอม ทำให้แบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ เลือกที่จะทำสินค้ามาซัพพอร์ตคนผอมมากกว่า ขณะที่คนอ้วนมีเสื่อผ้าที่เป็นตัวเลือกน้อย ทั้งที่รสนิยมด้านแฟชั่นก็ไม่ต่างจากกลุ่มแรกเลย ผมทำแบรนด์เสื้อผ้าคนอ้วนขึ้นมา ขอลูกค้าแค่ 2 ล้านคน ก็เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้แล้ว” ธัชวัฒน์กล่าว ด้วยความที่ทั้งสามคนไม่มีความรู้ด้านการผลิตเสื้อผ้าเลย ทำให้ช่วงแรกจะต้องออกไปติดต่อ พูดคุย สอบถามข้อมูลกับโรงงานอยู่หลายแห่ง เพื่อเลือกหาเนื้อผ้าให้เหมาะสมกับคนอ้วนให้มากที่สุด ซึ่งใช้ระยะเวลาร่วมครึ่งปี จนกระทั่งปลายปี 2558 ก็ได้สินค้าตัวแรก คือ “เสื้อเชิ้ตแขนสั้น สีพื้น ผ้าอ็อกซ์ฟอร์ด” ออกมาวางขาย โดยก่อนหน้าที่จะวางขายสินค้า 2 เดือน พวกเขาก็ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านเปิดเฟซบุ๊กเพื่อสร้างแบรนด์ให้คนรู้จักก่อน นำเสนอคอนเท็นต์ที่เกี่ยวข้องเพื่อบ่งบอก “ตัวตน” ของแบรนด์ว่าคือใคร ต้องการขายอะไร สินค้ามีดีอย่างไร และเมื่อถึงวันปล่อยสินค้าตัวแรกออกมา ทำให้ “เบอเร่อ” มียอดสั่งซื้อผ่านเฟซบุ๊กอย่างถล่มทลาย มีทั้งที่ซื้อไปใส่เองและซื้อไปขายต่อ รวมถึงการขอใช้ชื่อแบรนด์เพื่อเปิดหน้าร้านด้วย

ยศพล อธิบายถึงจุดเด่นของสินค้าแบรนด์เบอเร่อว่า อยู่ที่รูปทรงของเสื้อที่เข้ารูป มีความโค้งรับกับสัดส่วนมากกว่าเจ้าอื่นที่จะทำแบบตรงๆ ที่เมื่อสวมใส่แล้วจะแลดูตัวใหญ่ขึ้นไปอีก รวมไปถึงลวดลายต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ทั้งแบบเรียบง่ายใส่ทำงานได้ แบบแฟชั่นสีสันสดใสใส่ได้ทุกเทศกาล มีทั้งเสื้อและกางเกงรวมกว่า 15 แบบ เช่น เสื้อเชิ้ตแขนยาว เสื้อยืด เสื้อโปโล กางเกงขาสั้น ขายาว กางเกงบ็อกเซอร์ เป็นต้น สำหรับเสื้อที่มีขนาดตั้งแต่ XL จนไปถึง 8XL ราคาเริ่มต้นที่ 390 บาท ส่วนกางเกงมีรอบเอว 40-54 นิ้ว ราคาขายเริ่มต้นที่ 790 บาท จำหน่ายผ่านทาง เฟซบุ๊ก: BERRER และเว็บไซต์ www.berrerbrand.com  

ส่วนใครที่สนใจอยากเปิดร้านขายเสื้อผ้า “เบอเร่อ” เปิดขายส่ง 50 ตัวขึ้นไปคละแบบได้ ถ้านำขายจะได้กำไรตัวละ 150 บาท สำหรับลูกค้าขอใช้ชื่อแบรนด์ไปเปิดตามห้างสรรพสินค้าและขายเฉพาะสินค้าของเบอเร่อ นอกจากส่วนลดเสื้อผ้าที่ได้เรตค่าดีกว่าขายส่งปกติแล้ว ทางแบรนด์จะช่วยในการติดต่อกับทางห้างฯ เพื่อเสนอขอเช่าพื้นที่ รวมไปถึงช่วยออกแบบตกแต่งร้านโดยไม่มีใช้จ่ายเพิ่ม ปัจจุบันร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด 15 สาขา อาทิ เซ็นทรัลพระราม 2, เซ็นทรัลเวสเกตท์, เมกะบางนา ฯลฯ นอกจากนี้ยังเปิดรับตัวแทนจำหน่าย “แบบไม่สต็อคสินค้า” ซึ่งตัวแทนฯ จะได้กำไรอยู่ที่ตัวละ 100 บาท สำหรับผู้ที่มีทุนน้อยและอยากมีรายได้เสริม

ปัจจุบันเบอเร่อ มียอดขายเดือนละ 2 ล้านบาท สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต จะขยายไลน์การผลิตอื่นๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อสร้างตัวเองเป็นแบรนด์แฟชั่นสำหรับผู้ชายอ้วนอย่างครบวงจร อาทิ รองเท้า หมวก เข็มขัด ฯลฯ แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากลูกค้าที่อยากจะให้ทำเสื้อผ้าคนผอมออกมาบ้าง รวมทั้งให้กับผู้หญิงอ้วนด้วย แต่ปาริชาติ มองว่า ถ้าทำสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่สำหรับผู้ชายอ้วนจะทำให้แบรนด์สูญเสียตัวตน ส่งผลให้ลูกค้าหลักลดลง เพราะมองว่าขาดเอกลักษณ์ความเป็นเสื้อผ้าที่ใส่แล้วเท่ได้เฉพาะผู้ชายอ้วนเท่านั้น

“สิ่งที่ทำให้ธุรกิจมาถึงจุดนี้ได้ คือ การที่เรามีจุดยืนชัดเจน โฟกัสและทุ่มเททำไปทีละอย่าง เช่น ตอนทำเสื้อ เราก็จะให้ความสำคัญแค่เสื้อ แล้วทำมันออกมาให้ดีที่สุด แล้วค่อยมองไปถึงสินค้าตัวอื่นๆ เพราะ การทำธุรกิจมันต้องการความหมกมุ่น การจดจ่อเพื่อแก้ปัญหา ถ้าทำทีละหลายๆ อย่างมันจะออกมาได้ไม่ดี” ปาริชาติ กล่าวทิ้งท้าย   สำหรับผู้สนใจธุรกิจ ติดต่อได้ที่ www.facebook.com/berrershop หรือโทร 061-4146444