สุรัตน์ ปทุมทอง กับ จิตรีพร เสมอพงษ์ เจ้าของร้านกิฟท์ช็อป “Tommy Gift” ร้านดีไซน์เก๋ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต่างก็ทำงานประจำกันอยู่แล้ว สุรัตน์ทำงานด้านออกแบบภายใน ส่วนจิตรีพรทำกราฟิกดีไซน์ จึงได้อาศัยความรู้เหล่านั้นมาช่วยในการพัฒนาสินค้า “ตอนนั้นมีคนที่รู้จักมาจ้างให้ออกแบบกระดานแม่เหล็กในเป็นสไตล์ไทยๆ ให้กับเขา แต่ในความเห็นส่วนตัว เราความชอบงานที่ต่างออกไป จึงได้ลองออกแบบลวดลายที่ร่วมสมัย เป็นแฟชั่นที่ดูน่ารักออกมาด้วย เพื่อไปเสนอขายและจำหน่ายเอง” สุรัตน์ กล่าวถึงที่มาของไอเดีย
การออกแบบกระดานแม่เหล็ก ทั้งคู่จะเลือกใช้ผ้าที่สีสันสดใส มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวแม่เหล็กก็จะออกแบบตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ แต่ก็ล้อไปกับกระแสในช่วงนั้นๆ อย่างช่วงปีใหม่ วันวาเลนไทน์ งานรับปริญญา เป็นต้น อีกจุดเด่นสำคัญที่ต่างไปจากเจ้าอื่นๆ ในตลาดคือ การออกแบบที่ไม่สิ้นสุด เพื่อที่จะให้ลูกค้าสามารถ DIY ย้ายคำ ย้ายตำแหน่ง แปะภาพต่างๆ ได้ตามต้องการ ทำให้ลูกค้าสนุกไปกับการตกแต่งกระดาน 
ความตั้งใจแรกของสุรัตน์ จะทำเป็นงานอดิเรกเท่านั้น ทำไปวางขายตามตลาดนัด งานอีเว้นท์ต่างๆ แต่เมื่อได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า มีร้านใหญ่อย่าง B2S เข้ามาติดต่อเข้ามา ทำให้ทั้งคู่จึงหันมาทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง สินค้าของ Tommy Gift ในปัจจุบันจะเป็นแนวกิฟท์ช็อป ที่ขายดีก็มีกระดานแม่เหล็กขนาดต่างๆ ราคาเริ่มต้นที่ 180 บาท ตัวอักษรไม้พลาสวู๊ด, พวงกุญแจ 
ที่น่าสนใจคือ ตุ๊กตาแม่เหล็ก ที่สามารถออกแบบเปลี่ยนหน้าตาได้ เหมือนกับตุ๊กตากระดาษที่หลายคนเคยเล่นสมัยเด็ก จัดจำหน่ายผ่านทาง B2S ZEENZONE, Betrend หน้าร้านที่ห้างฯ Terminal21,The Promenade และตลาด The Cicada Market หัวหิน และเว็บไซต์ www.tommygift.com “เวลาที่เราไปออกบูธตามงานต่างๆ จะมีการทำของใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาเพื่อตกแต่งบูธอย่างตัวอักษรไม้พลาสวู๊ด ทำให้ลูกค้าที่เห็นต่างก็สนใจที่จะซื้อกลับไป จึงมีแนวคิดที่จะทำสินค้านี้ออกมาขายควบคู่กันไป เราก็จะแตกไลน์สินค้าอื่นๆ ตามคำเรียกร้องของลูกค้า” สุรัตน์ กล่าวเสริม นอกจากสินค้าแบรนด์ Tommy Giftแล้ว ก็ยังทำแบรนด์ “Tuesday” ออกมา เป็นกระดานแม่เหล็กสไตล์วินเทจที่สามารถห้อยเครื่องต่างหู สร้อยคอ พวงกุญแจ ซึ่งส่วนนี้ก็ได้ไอเดียมาจากลูกค้า ที่ต้องการฟังก์ชั่นที่มากขึ้น 
ภาพรวมของธุรกิจในอนาคต สุรัตน์ ตั้งเป้าจะขยายไปต่างประเทศมากขึ้น เพราะในปัจจุบันก็มีลูกค้าต่างชาติมาซื้อจากหน้าร้านมากพอสมควร ทั้งชาวสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย แต่ก็จะค่อยๆ ขยายฐานออกไป รวมไปถึงการแตกไลน์สินค้าให้มากขึ้น อย่างนาฬิกาไม้ กรอบรูป เป็นต้น 
“เราต้องรู้จักสังเกตและพูดคุยกับลูกค้าให้มากๆ แล้วดูว่า ความต้องการของเขาไปในทิศทางไหน แล้วมันตรงกับความชอบส่วนตัวของตัวเองหรือไม่ แล้วนำมาประกอบกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ ที่ถูกใจคนซื้อและคนขาย”สุรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย การที่ “Tommy Gift” สามารถทำยอดขายได้หลักแสนบาทต่อเดือนได้นั้น เกิดจากที่มีไอเดียตั้งต้นเป็นของตัวเอง แต่ก็พร้อมเปิดรับและปรับตัวกับสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจ
