ณิชา สมิทธิปรีชาวงค์ เล่าถึงที่มาของธุรกิจว่า เธอและเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ชอบเดินทางท่องเที่ยวเป็นประจำ ทำให้ต้องใช้กระเป๋าเป้อยู่ตลอด แต่เวลาจะเลือกซื้อสินค้าก็มักจะเห็นว่า กระเป๋าส่วนใหญ่ที่วางขายเป็นยี่ห้อต่างประเทศและมีราคาสูง ทำให้เธอและเพื่อนอยากทำกระเป๋าแบรนด์ไทยขึ้นมาขายในราคาที่ไม่แพง แต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน ไม่ต่างจากของเมืองนอก

            เมื่อได้ไอเดียในการทำธุรกิจแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการออกแบบพัฒนาสินค้า โดยสำรวจตลาดว่า กระเป๋าในเมืองไทยมีแบบไหน ประเภทใดบ้าง เพื่อต้องการสร้างสินค้าให้แตกต่างไปจากเจ้าอื่น จนได้ออกมาเป็นกระเป๋าเป้ทรงสี่เหลี่ยมสไตล์ vintage ผสมกับความเป็นญี่ปุ่นมีสีสันฉูดฉาด เพราะส่วนใหญ่ในตลาดจะเป็นโทนสีจะเป็นสีดำหรือสีเข้ม ด้านในก็ออกแบบให้สามารถใส่ของได้เยอะ เหมาะแก่การแบ็คแพ็คไปเที่ยวได้ ส่วนวัสดุที่เลือกใช้ก็เป็นผ้าร่ม กันน้ำได้ ทำให้สามารถสะพายได้ทุกฤดู  “เราชอบใช้กระเป๋าเป้ จึงรู้ว่าออกแบบยังไงให้มันตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด คอยปรับเปลี่ยนตามประสบการณ์ที่เคยเจอ จนออกมาเป็นทรงสี่เหลี่ยมเพื่อที่จะได้จัดแจงของได้ง่ายขึ้น” ณิชา กล่าวเสริม

ณิชา เริ่มวางขายสินค้าในปี 2014 ผ่านทางออนไลน์ทั้งเฟชบุ๊กและอินสตาแกรม โดยทำการตลาดด้วยการถ่ายภาพของสินค้าเวลาใช้งานตามสถานที่ หรือแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อให้สื่อความหมายของแบรนด์ เธอมองว่า ภาพเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อของลูกค้า

     หลังจากเปิดตัวได้ไม่กี่เดือนก็มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์เริ่มใช้ Influencer หรือเหล่าวัยรุ่นคนดังในโลกออนไลน์ มาช่วยโปรโมทสินค้า เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีฐานแฟนคลับเป็นของตัวเอง ซึ่งตรงกับเป้าหมายลูกค้าก็จะสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายได้ ผ่านไปไม่ถึงปี Troopers สามารถทำยอดขายได้กว่า 5 แสนบาทต่อเดือน

   สิ่งที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ณิชา มองว่า มันเป็นจังหวะที่เทรนด์ backpack กำลังเป็นที่นิยมในเมืองไทย มีคนหันมาใช้กระเป๋าเป้กันมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ Troopers เกิดขึ้นพอดีและคู่แข่งในตลาดยังมีน้อยรวมถึงภาพลักษณ์ของสินค้าที่ค่อนข้างดูดี มีความเป็นอินเตอร์ เพราะแบรนด์เลือกใช้นางแบบต่างชาติด้วย ปัจจุบันสินค้าของ Troopers นอกเหนือจากกระเป๋าเป้ทรงออริจินอลที่ขายดี ก็มีกระเป๋าหิ้ว หมวก และเสื้อ จัดหน่ายผ่านทางออนไลน์เป็นหลัก ทั้ง Facebook, Instagram รวมไปถึง E-marketplace ต่างๆ นอกจากนี้ยังวางขายผ่านหน้าร้านที่ร้าน Happening หอศิลป์กรุงเทพฯ ร้าน Stereotype ที่ตลาดนัดจตุจักร ราคากระเป๋าเริ่มต้นที่ 1,190 บาท

แผนธุรกิจในอนาคต ณิชาตั้งเป้าขยายหน้าร้านไปตามหัวเมืองใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้มากขึ้น อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ ฯลฯ รวมไปถึงส่งไปออกไปยังต่างประเทศ ส่วนการพัฒนาสินค้าก็จะมีการดีไซน์กระเป๋าให้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์คนหลายๆ กลุ่ม สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทั้งการสะพายทำงานหรือไปออกกำลังกาย

ส่วนแผนการตลาด ก็ยังคงเน้นการทำออนไลน์แบบ Influencer Marketing ให้เหล่าคนดังรีวิวสินค้าและแชร์ต่อ รวมไปถึงการถ่ายภาพเพื่อโปรโมทสินค้าที่ต้องทำออกมาเพื่อสร้างมูลค่าให้ให้กับแบรนด์ มากกว่าการขายกระเป๋าธรรมดา เมื่อลูกค้าเห็นแล้วอยากได้ไปใส่ตาม ใครสนใจสามารถเข้าชมได้ที่ www.facebook.com/troopersofficial หรือInstagram : @troopers_official