ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

พลิกหนี้ 30 ล้าน!! สู่อาณาจักร 100 ล้าน!  “บ้านขนมคุณภัทรา”


         

กฤษณภัทร มหาปิติ เจ้าของธุรกิจ “บ้านขนมคุณภัทรา” ร้านขนมของฝากชื่อดังประจำเมืองขอนแก่น เล่าว่า เมื่อก่อนครอบครัวทำธุรกิจโรงงานเย็บผ้าที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น มีพนักงานกว่าร้อยคน แต่ทว่าต้องเจอปัญหาเรื่องรายได้ที่ลดลงและปัจจัยหลายๆ ด้าน ทำให้ธุรกิจไปไม่รอดต้องปิดกิจการในที่สุด นั่นก็นำมาซึ่งหนี้ธนาคารกว่า 30 ล้านบาท หลังจากปิดโรงงานเขาได้พาพนักงานเก่าแก่ที่เหลือประมาณ 10 คน ไปอบรมการประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อมาเปิดโรงงานเล็กๆ รับจ้างประกอบชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ธุรกิจนี้ก็ไม่สามารถทำเงินได้มาก ยังหักล้างหนี้ไม่ได้ จากลูกเจ้าของโรงงาน ต้องกลายเป็น “ลูกจ้าง” เมื่อ กฤษณภัทร ตัดสินใจเข้าสู่ตัวเมืองขอนแก่น เพื่อมองหาธุรกิจใหม่ๆ จนได้พบว่า “ร้านอาหาร’ เป็นธุรกิจที่มีเงินสดหมุนเวียน จึงอยากเปิดร้านเป็นของตัวเอง จากนั้นได้ไปขอฝึกงานทำอาหารกับคนรู้จักเพื่อที่จะเรียนรู้ให้เข้าใจและสามารถนำไปบอกต่อกับลูกน้องได้ในอนาคต ทำให้เขาต้องทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หั่นผัก หั่นหมูเตรียมวัตถุดิบต่างๆ โดยที่ไม่ได้เงินเดือนสักบาท ขอแค่อาศัยอยู่พักอยู่ฟรีกินฟรี ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาร่วมปีก่อนที่เขาจะออกมาเปิดร้านตัวเอง

            

แต่ด้วยมีเงินทุนไม่มาก จึงเปิดได้แค่ร้านกาแฟเล็กๆ ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย ขายได้วันละ 300 บาท นั่นจึงเป็นจุดเริ่มของไอเดีย นำเอาขนมบัวหิมะของแม่ที่ปกติก็ทำกินกันที่บ้านมาขายที่ร้านเพิ่มเติม ด้วยรสชาติที่อร่อยก็ทำให้เป็นที่ถูกใจของลูกค้า สามารถเพิ่มยอดขายให้ร้านเป็นวันละ 1,000 บาท “ขนมบัวหิมะมีอายุสั้น ถ้าจะขายเฉพาะร้านตัวเองก็คงจะขายไม่ทัน เลยเอาไปฝากขายร้านกาแฟอื่นๆ ที่มีลูกค้าเยอะ มีทั้งยอมรับบ้าง ปฏิเสธบ้าง แต่เราก็ไม่ถอย ยอมขับรถหลายร้อยกิโลเพื่อไปฝากขายตามร้านต่างๆทั้งร้านอาหาร ร้านของฝาก ที่อยู่นอกเมืองและต่างจังหวัด เพราะถ้าขายไม่หมด ขนมเราก็ต้องทิ้ง” กฤษณภัทร กล่าวเสริม

           

ด้วยความที่ขนมบัวหิมะเก็บได้ประมาณ 20 วัน ซึ่งถือว่ามีอายุสั้นกว่าขนมชนิดอื่นๆ และมีต้นทุนวัตถุดิบสูง ทำให้ไม่มีเจ้าไหนอยากทำออกมาขาย ซึ่งตรงนี้เอง กฤษณภัทร มองว่ามันเป็นโอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตได้ เพราะคู่แข่งในตลาดมีน้อย เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ กฤษณภัทร ตะเวนนำขนมไปฝากขายตามร้านต่างๆ เมื่อมียอดขายดีขึ้น มีขนมหลายชนิดมากขึ้น ลูกค้ามีการถามหาถึงหน้าร้าน ทำให้เขาตัดสินใจเปิดร้าน “บ้านขนมคุณภัทรา” ขึ้นในปีพ.ศ. 2553 โดยในตอนแรกตั้งเป้ายอดขายเพียงวันละ 10,000 บาท แต่ผลที่ได้เกินคาด ทำยอดขายได้ถึงวันละ 100,000 บาท จากนั้นธุรกิจก็โตขึ้นเรื่อยๆ มีการส่งขายไปยังร้านของฝาก ร้านกาแฟและวางขายในห้างโมเดิร์นเทรด รวมแล้วกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ นำมาสู่ยอดขาย 1 ล้านกล่องต่อปี รายได้ปีละ 100 ล้านบาท

           

ปัจจุบัน “บ้านขนมคุณภัทรา” มีขนมอยู่มากมายหลายชนิด ที่ขายดีก็จะเป็นขนมบัวหิมะ ไดฟูกุ คุกกี้สับปะรดแฟนซีขนมเปี๊ยะนมสดไข่เค็ม ขนมกล้วยสอดไส้ Monkey Banana และ ภัทราบานาน่า จัดจำหน่ายผ่านทางหน้าร้านที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และสาขาที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ร้านของฝาก ร้านกาแฟทั่วประเทศ รวมไปถึงห้างฯ Tesco Lotus และ TOP Supermarket และออนไลน์ผ่าน Facebook: www.facebook.com/patrasweethousekhonkaen

                   

“กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ผมไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยท้อ เพราะเห็นพ่อแม่ทำงานหนักกว่าเรามาก ผมทำงานมาไม่กี่ปี มันเทียบไม่ได้กับที่ท่านดูแลเรามาตั้งแต่เด็กๆ วันที่สามารถปลดหนี้ได้ มันรู้สึกว่าเราเป็นอิสระ อยากทำอะไรก็ทำได้ ครอบครัวก็มีความสุขมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ถือว่าเรามาไกลเกินฝันแล้ว” กฤษณภัทร กล่าวทิ้งท้าย บทสรุปความสำเร็จของร้านบ้านขนมคุณภัทรา ก็น่าจะเป็นเรื่องของ ความกตัญญูต่อพ่อแม่และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เจอ ไม่ว่าจะล้มเหลวกี่ครั้ง ก็ยังลุกขึ้นมาเดินหน้าต่อไปได้…ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่อาจจะเริ่มต้นธุรกิจด้วยความล้มเหลว แต่ถ้าไม่ยอมแพ้ แล้วก้าวต่อไป เชื่อว่าก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน  

ภาพจาก Facebook “บ้านขนมคุณภัทรา the Sweet Factory”