ธุรกิจหลักของ Pedal Pub คือการปล่อยรถผับเคลื่อนที่และคนขับให้เช่าแบบเหมาทั้งคัน วิธีเช่านั้นไม่ยาก เมื่อหาเพื่อนๆ ได้จำนวนพอประมาณแล้ว เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ของ PedalPub เพื่อดูว่าวันนี้มีรอบไหนกี่โมงและมีที่รถว่างให้จองหรือไม่ โดยราคาเช่าต่อคันสำหรับ 2 ชั่วโมง ไม่รวมค่าเบียร์นั้นตกอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท หรือราวๆ 650 บาทต่อผู้โดยสารหนึ่งท่าน (รถหนึ่งคันจุได้ 16 คนไม่นับคนขับของ Pedal Pub)
เพราะฉะนั้นยิ่งชวนเพื่อนมาได้มากก็ยิ่งมีราคาเฉลี่ยต่อหัวที่ถูกลงนอกจากนั้น Pedal Pub ยังให้เราเลือกเส้นทางในการปั่นได้อีกด้วยว่าเราต้องการเส้นทางที่มีความยากแค่ไหน อยากขึ้นรถลงรถที่ไหน หรือต้องการดูวิวมากกว่าปั่นในป่าคอนกรีตหรือไม่ 
อีกธุรกิจหนึ่งของ Pedal Pub คือการเปิดให้ลูกค้าจองเป็นที่นั่งเอา เป็นการปั่นร่วมคันเดียวกับลูกค้ากลุ่มอื่นๆ แบบ “Mixer” ไม่จำเป็นต้องเหมาเช่าทั้งคัน ราคาของการจองที่นั่งละประมาณ 900 บาท โดยการจองแบบ Mixer นั้นจะมีเส้นทางที่พิเศษกว่าปกติ เช่น เป็นเส้นทางฉลองคนที่มีวันเกิดเดือนนี้ หรือเป็นเส้นทางเฉพาะผู้ที่รักการชิมอาหาร (ก็จะมีหยุดชิมได้เป็นครั้งคราว) ตลาดของ Pedal Pub นั้นจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป (หรือ 21 ปีขึ้นไปหากมีการดื่มเบียร์บนรถ) เสียส่วนมากและจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการฉลองร่วมกับเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสต่างๆ ตลาดนี้อาจจะฟังดูแคบ แต่หากมองมุมกว้างเราจะเห็นได้ว่าทุกเมืองในโลกที่มี tourism industry และมีกฎหมายอนุญาตให้รถประเภทนี้ออกแล่นบนท้องถนนได้ โดยที่คนปั่นเป็นสิบคนดื่มเบียร์เป็นเหยือกๆ ในขณะเดียวกันก็เป็นตลาดที่ Pedal Pub สามารถบุกเข้าไปได้เช่นกัน
Pedal Pub ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากแต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคมากมายหลังจากที่ได้เปิดทำการมาราวๆ 4 ปีกว่า แม้ว่า Pedal Pub จะเป็นที่นิยมมากในหมู่ลูกค้าเป้าหมาย แต่ประชากรบนท้องถนนหรือผู้อยู่อาศัยตามแถบเส้นทางที่ Pedal Pub ปั่นผ่านนั้น มักไม่พอใจกับมลพิษทางเสียงหรือการที่ลูกค้า Pedal Pub ออกมาทิ้งกระป๋องเบียร์และปัสสาวะเรี่ยราดบนท้องถนนเมื่อเริ่มเมา ทางการจึงเริ่มออกมาตรการบีบรัด Pedal Pub มากขึ้นเช่น การบังคับให้คนขับผ่านการทดสอบเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน และการบังคับให้ Pedal Pub ทำการอบรมให้ความรู้กับและทดสอบพนักงานในเรื่องของอันตรายจากการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไปทั้งหมดนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสำหรับ Pedal Pub เอง
แต่หากมองในแง่ดี Pedal Pub ก็ทราบดีว่าตลาดของตนนั้นที่จริงแล้วใหญ่มาก จึงได้เริ่มทำการ license ไอเดียนี้ออกไปให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ทั่วประเทศที่ต้องการจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ส่วน Pedal Pub เองก็สามารถลดความปวดหัวที่จะต้องกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับกฎหมายที่แตกต่างกันในแต่ละเมืองได้แค่ต้องฝึกผู้ประกอบการหน้าใหม่และคอยเก็บเงินเท่านั้นเอง ไอเดียนี้สำหรับเมืองไทยแล้ว จะให้ปั่นออกไปถนนใหญ่ ปั่นไปกินไปไม่น่าจะรอด!! แต่ถ้าจะหยิบมาเป็นลูกเล่นเพื่อให้บริการในสถานที่ปิด และเป็นส่วนตัว ให้ลูกค้าที่มาเป็นกรุ๊ปได้มีกิจกรรมเสียเหงื่อระหว่างสังสรรค์บ้าง ก็สนุกไปอีกแบบ!!
