เสน่หา ชูสันติ เจ้าของเค้กมะพร้าวไส้แตก เล่าว่า จุดเริ่มต้นของธุรกิจเกิดจากความชอบทำเบเกอรี่ มักจะใช้เวลาว่างหลังเลิกงานจะใช้เวลาศึกษาสูตร วิธีการ จากอินเตอร์เน็ต ฝึกทำเรื่อยมาจึงตัดสินใจซื้อเตาอบในราคา 4,000 บาท เพื่อให้ได้เบเกอรี่ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นพร้อมทั้งถ่ายรูปเบเกอรี่ชนิดต่างๆ ที่ทำขึ้นโพสต์ลงในโซเชียล และนำไปให้เพื่อร่วมงานได้ลองชิมเป็นที่ถูกใจในรสชาติของเพื่อนร่วมงาน จนมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก จึงต้องตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อทำเบเกอรี่เต็มตัวและตัดสินใจเปิดร้าน
หลังจากเปิดร้านได้ไม่นานผลกลับไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ จึงทำให้ต้องปิดกิจการลง และเดินทางไปทำธุรกิจกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดด้วยใจรักเบเกอรี่จึงได้เปิดร้านเล็กขึ้นอีกครั้งที่ จ.หนองคาย จนธุรกิจอยู่ตัวจึงกลับมา กทม. เพื่อเปิดร้านเบเกอรี่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นการสร้างความตื่นตากับเค้กมะพร้าวที่เกิดจากไอเดียของเขาได้อย่างมาก เค้กชนิดแรกที่ทำออกมาคือ เค้กกะลา เค้กมะพร้าวที่ใช้บรรจุภัณฑ์เป็นกะลามะพร้าวแทนพลาสติก สร้างความแปลกใหม่ มาพร้อมรสชาติเข้มข้นจากเนื้อมะพร้าวแท้
แต่พระเอกของร้านนี้ยังไม่ใช่เค้กกะลาแต่เป็น “เค้กมะพร้าวไส้แตก” ที่ภายในอัดแน่นไปด้วยเนื้อมะพร้าวและครีมสดล้อมรอบด้วยเนื้อเค้กนุ่มๆ พร้อมพร้อมไส้ทะลักตลอดเวลารูปทรงภายนอกทำให้เหมือนลูกมะพร้าวขนาดย่อมสีเขียวสดใสได้จากสังขยาใบเตย หลังจากเปิดตัว เค้กมะพร้าวไส้แตก ผ่านโซเชียลไม่นานเป็นที่สนใจจนมีผู้ติดตามมากกว่า 30,000 คน และมียอดจำหน่ายมากกว่า 500 ลูกต่อวัน และมีตัวแทนจำหน่ายอีก 15 จังหวัด 
สำหรับราคาจำหน่ายและเมนูอื่นๆ เค้กมะพร้าวไส้แตก ราคา 85 บาท เค้ามะพร้าวกะลา 110 บาท เครปพัฟไส้มะพร้าวครีมสด 65 บาท เสน่หา บอกว่า แผนพัฒนาต่อไปตั้งใจจะเปิดสอนหลักสูตรทำเบเกอรี่ให้กับผู้ที่สนใจ พร้อมทั้งวิธีคิด กลยุทธต่างๆ ที่ได้จากประสบการณ์จริงให้กับผู้เรียน และนำเงินส่วนที่ได้เข้ามูลนิธิ เป็นทุนการศึกษาให้แก่เด็กๆ ได้เรียนหนังสือตามโครงการที่ตั้งขึ้นว่า “พี่ได้รู้หนูได้เรียน” โดยตั้งใจมอบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กที่ไม่มีทุนในการเรียนหนังสือต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่ 06-2463-6499 หรือ facebook : bakerymind
Food Truck ที่ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมในขณะนี้ จนธุรกิจแฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่มหลากหลายค่ายให้ความสนใจ ปรับเปลี่ยนให้มาอยู่ในรูปแบบร้านมากขึ้น แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เข้าใจรูปแบบของธุรกิจมากเท่าที่ควรวันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาบอก 6 เรื่องสำคัญต้อ
ใครที่กำลังคิดจะเปิดร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้าราคาเดียว ห้ามพลาดสิ่งนี้ วันนี้ ชี้ช่องรวย มีเทคนิคดีๆ มานำเสนอกันอีกแล้ว กับ 3 รูปแบบ 9 วิธี สำหรับขายสินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้าราคาเดียว ที่จะทำให้ร้านของคุณนั้นประสบความสำเร็จ มียอดขายทะลุเป้าได้ไม่ยากหากทำ
การทำธุรกิจอะไรก็ตามแต่ การมีทำเลที่ดี ก็จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ดั่งคำที่ว่า “ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” แต่รู้หรือไม่ว่าต่อให้ทำเลดีแค่ไหน หากไม่เหมาะกับธุรกิจนั้นๆ มันก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้ ชี้ช่องรวยจึงอยากจะมาแนะนำ 6 ประเภทภาพรวมว่าควรจะเลือกทำเลแบบไหนถึงจะดีที่สุด 1.โฮมออฟฟิศ ปัจจุบันโฮมออฟฟิศเป็นที่นิยมมากของผู้ประกอบการรายใหม่ โดยการดัดแปลงห้องภายในบ้านให้กลายเป็นที่ทำงาน แน่นอนว่าการใช้ที่พักอาศัยเป็นที่ทำงานจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่ข้อเสียที่ต้องทำใจคือ อาจพักผ่อนได้ไม่เต็มที่เพราะหันไปทางไหนก็มีแต่กองงาน และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะทำให้ขาดแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจต่างๆ ดังนั้นคุณควรช่างน้ำหนักให้ดีว่าจะเลือกความเป็นส่วนตัวหรือเลือกงาน หากเลือกความเป็นส่วนตัวก็ควรเลือกทำที่สงบ ถ้าต้องการมีแรงกระตุ้นในการทำงาน ควรเลือกทำเลที่มีคนพลุกพล่าน นอกจากนี้คุณควรคำนึงถึงหลักกฎหมายด้วยว่าบ้านของคุณสามารถดัดแปลงเป็นที่ทำงานได้หรือไม่ 2. แฟรนไชส์ ร้านค้าปลีก หรือการบริการต่างๆ รูปแบบนี้เราอาจจะพบเห็นกันโดยทั่วไป ซึ่งหลักการสำหรับร้านขายปลีก และร้านบริกานั้นจะต้องเป็นจุดสังเกต ดึงดูดลูกค้า เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ตลาด ย่านชุมชน หรือเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากเปิดร้านเครื่องเขียนก็ควรตั้งอยู่ใกล้โรงเรียน ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นควรตั้งอยู่ในศูนย์การค้า ร้านอาหารตามสั่งอยู่ในแหล่งที่มีหอพัก เป็นต้น ทั้งนี้ข้อควรระวังอีกอย่างคือ อย่าตั้งร้านใกล้ร้านดังที่ขายสินค้า และบริการแบบเดียวกับคุณเด็ดขาด เพราะมีความเสี่ยงที่ลูกค้าจะไม่ใช้บริการร้านเปิดใหม่ของคุณ 3.ธุรกิจเคลื่อนที่ หรือ Food truck หากคุณจะทำธุรกิจเคลื่อนที่ คุณจำเป็นต้องมีพาหนะที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเสียก่อน ซึ่งพาหนะนี่แหละที่จะพาสินค้าและบริการของคุณไปสู่ทำเลที่ดี […]
