โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

บสย.ขยายเวลา ค้ำสินเชื่อ Micro Entrepreneurs ถึง 30 มิ.ย.61

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น สามารถปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยได้มากขึ้นและเปิดโครงการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ รวมทั้งมีกลไกในการติดตามผลการดำเนินโครงการฯ อย่างเป็นรูปธรรม เห็นควรให้ กระทรวงการคลัง โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ประการแรก เร่งประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายได้ทราบถึงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและสิทธิพิเศษต่างๆของโครงการ เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการรายย่อยมาเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น 2.จัดทำรายงานผลการดำเนินโครงการฯ และผลสัมฤทธิ์รวมถึงปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น เสนอต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ เพื่อช่วยเร่งรัดติดตามและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อไป ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่น ๆ ของโครงการ รวมถึงกรอบวงเงินงบประมาณยังคงให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 โดยคุณสมบัติของผู้ค้ำประกัน เป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ดำเนินธุรกิจโดยมีสถานประกอบการที่ชัดเจน มีเอกสาร หลักฐานรับรองว่าประกอบธุรกิจจริง และมีทรัพย์สินถาวร (ไม่รวมที่ดิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท ส่วนวงเงินค้ำประกันต่อราย10,000 - 200,000 บาท รวมทุกสถาบันการเงิน ระยะเวลาค้ำประกัน ไม่เกิน 10 ปี ค่าธรรมเนียมค้ำประกันร้อยละ 1-3 ต่อปี ของวงเงินค้ำประกัน โดยพิจารณาตามความเสี่ยงของลูกค้า ทั้งนี้ รัฐบาลจ่ายค่าธรรมเนียมแทนผู้ประกอบการ สำหรับ ในปีแรกการจ่ายค่าประกันชดเชย ของ บสย.จ่ายค่าประกันชดเชยตลอดโครงการไม่เกินค่าธรรมเนียมที่ได้รับบวกเงินสมทบจากรัฐบาล ร้อยละ 20 ของวงเงินอนุมัติค้ำประกัน โดยรัฐบาลชดเชยตามภาระที่เกิดขึ้นจริงเป็นเงิน จำนวน 3,105 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ชดเชยค่าธรรมเนียมค้ำประกันอัตราร้อยละ 3 ต่อปีในปีแรกเป็นเงินจำนวน 405 ล้านบาท (ร้อยละ 3 x 13,500 ล้านบาท)

2 .ชดเชยการจ่ายค่าประกันชดเชยอัตราร้อยละ 20 ของวงเงินอนุมัติค้ำประกัน เป็นเงินจำนวน 2,700 ล้านบาท (ร้อยละ 20 x 13,500 ล้านบาท) โดยแบ่งจ่ายเป็นรายปีในช่วง 5 ปีแรก (ปีที่ 1 - 2 ในอัตราร้อยละ 7 และปีที่ 3 - 5 ในอัตราร้อยละ 2) ทั้งนี้ ให้ บสย. ให้เงินรายได้จากค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อของโครงการก่อน หากไม่เพียงพอจึงขอรับการจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นเหมาะสมต่อไป