Year: 2014

“Watch Me” นาฬิกาแฮนด์เมด ขายความต่าง จับภาพใส่หน้าปัด

เดิมที คุณชวโรจน์ เป็นคนชอบทำงานฝีมือและทำงานประดิษฐ์ขาย หารายได้เสริมตั้งแต่สมัยเรียน เริ่มจากการสกรีนเสื้อ พวงกุญแจ จนเรียนจบด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ และได้ทำงานประจำแล้ว ก็ยังไม่หยุดที่จะทำสินค้าแฮนด์เมดมาจำหน่าย แต่จะเปลี่ยนไปก็ตรงที่ตอนนี้เขาเน้นทำนาฬิกาแฮนด์เมดเพียงอย่างเดียว “ผมตั้งโจทย์ขึ้นมาว่า จะทำอย่างไรให้สินค้ามีความต่าง ซึ่งในท้องตลาดก็มีการนำนาฬิกามาดัดแปลงแล้วขายอยู่มาก แต่เป็นการถักสายนาฬิกาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อถามถึงความแตกต่าง ผมได้ข้อสรุปว่า จะทำนาฬิกาที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ซึ่งจะใช้หน้าปัดนาฬิกาเป็นกรอบรูป ที่สามารถบอกเวลาและพกพาได้ เพราะยังไม่มีใครทำมาก่อน และมองว่าลูกค้าจะต้องชอบ หากมีนาฬิกาที่หน้าปัดเป็นรูปของตัวเองหรือคนที่รัก” คุณชวโรจน์ เล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่เลือกใช้หน้าปัดนาฬิกาเป็นจุดเด่นสร้างมูลค่าเพิ่ม ในช่วงเริ่มต้น เขาใช้เวลาศึกษาเกี่ยวกับส่วนประกอบต่างๆ ของนาฬิกา กับต้องฝึกการถอดและประกอบตัวนาฬิกาอยู่นานเกือบเดือน ก่อนจะเริ่มชำนาญมากขึ้น และเริ่มรับทำนาฬิกาด้วยเงินลงทุน เพียง 4,000 บาท วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ประกอบด้วย นาฬิกาข้อมือ โดยเลือกใช้นาฬิกาที่มีหน้าปัดทรงกลมที่สามารถแกะได้ เครื่องพรินเตอร์ กระดาษสติ๊กเกอร์ มีดสำหรับการตัดสติ๊กเกอร์ กรรไกร และอุปกรณ์สำหรับแกะนาฬิกา ที่เขาประดิษฐ์และคิดขึ้นมาเพื่อใช้งานเอง และลองขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต ปรากฏว่าไอเดียนี้มีคนซื้อ ลูกค้าติดต่อเข้ามาเพื่อให้ทำนาฬิกาโดยตลอด ตั้งราคาขายอยู่ที่เรือนละ 360 บาท คิดกำไรจากต้นทุนวัสดุและฝีมือ 50% ของราคาขาย […]

“TIME-LINE Clock” บอกเวลาแค่เข็มเดียว

นาฬิกาติดผนังชิ้นนี้ออกแบบโดย You Haeyonความโดดเด่นอยู่ที่ความเรียบง่าย บอกเวลาเพียงแค่เข็มเดียวเท่านั้น TIME-LINE Clock สร้างขึ้นจากวัสดุอย่างดี มีเข็มเพียงอันเดียว ไม่มีพื้นหลัง ไม่มีกรอบ ไม่มีตัวเลข ไฟดวงเล็กๆ จากหลอด LED ทำหน้าที่บอกนาที ภายในมี GPS Timer ติดตั้ง ซึ่งจะปรับเวลาอัตโนมัติทั้งเข็มบอกชั่วโมงและนาที เพื่อบอกเวลาปัจจุบันของสถานที่นั้นๆ สามารถติดตั้งได้ทุกพื้นผิวผนังไม่ว่าจะเป็น กระจก ปูน กระเบื้อง ก็สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย อีกหนึ่งอุปกรณ์บอกเวลาที่ดูไม่มีอะไรเลย เล่นกับความเรียบง่าย แต่ได้ฟังก์ชั่นการใช้งาน แบบผ่านกระบวนการคิดมาอย่างหนัก เพื่อความต่างไม่เหมือนใครจริงๆ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tuvie.com/time-line-clock-by-you-haeyon ที่มา www.iurban.in.th

“Sprout” ดินสอหมดสภาพ กลายร่างเป็นต้นไม้

ดินสอที่กลายเป็นต้นไม้ได้นี้ เกิดจากห้องเรียนในวิชา Product Design ที่ MIT นักศึกษาได้รับโจทย์ให้คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับสำนักงานในอนาคต ผู้ที่ประดิษฐ์ดินสอแบบนี้ต้องการให้การรีไซเคิล และการปลูกต้นไม้ เป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับเด็กๆ Mario Bolliniหนึ่งในทีมที่ออกแบบ Sprout กล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบของพวกเขาว่า ยางลบที่มีอยู่ที่ปลายแท่งดินสอโดยทั่วไป มันแทบไม่ได้ช่วยอะไร มีขนาดเล็กมากและคุณภาพก็ไม่ดี ไม่มีประโยชน์อะไร แต่เพิ่มงานในกระบวนการผลิตดินสอแบบไม่จำเป็น พวกเขาก็เลยเปลี่ยนส่วนปลายของดินสอที่เป็นยางลบให้กลายเป็นแคปซูลเมล็ดพันธุ์ ที่เมื่อโดนน้ำก็จะงอกต้นอ่อนออกมา ปัจจุบันมีวางจำหน่ายแล้วในราคา $19.95 หรือประมาณ 600 บาท ราคาอาจจะดูสูงไปสักนิด แต่ก็สามารถทำให้คิดได้ว่าธรรมชาติที่เสียไปการสร้างขึ้นมาใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่มา www.iurban.in.th

“Semester Bicycle” จักรยานไม้ไผ่ ดีไซน์เพรียว

ความโดดเด่นของ “Semester Bicycle” เป็นจักรยานดีไซน์เพรียวลมบางเฉียบคันนี้ ใช้ไม้ไผ่ที่นำมาทำให้เป็นแผ่นเรียบแนบกับคาร์บอนไฟเบอร์ แล้วนำมาประกอบกันเป็นท่อรูปทรงหกเหลี่ยม ก่อนจะเคลือบด้วยสารอีพอกซี่ ส่วนเฟรมด้านหัวและด้านท้ายของจักรยานทำจากเหล็กที่มีน้ำหนักเบา น้ำหนักรวมทั้งคันอยู่ที่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น ด้วยตัวเนื้อไม้ที่มีความยืดหยุ่นสูงทำให้ Semester Bicycle มีความทนทานในการใช้งาน Semester Bicycle มีให้เลือก 2 รุ่น คือ Commuterที่เป็นจักรยานมาตรฐานความเร็วระดับเดียว ราคา 799 เหรียญสหรัฐฯ และ CityBike ที่โดดเด่นด้วยบังโคลนจากเยื่อไผ่ถัก และมีตะแกรงวางของทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ราคา 1,299 เหรียญสหรัฐฯ การที่กลุ่ม HEROBike นำไม้ไผ่มาสร้างเป็นจักรยานนั้นถือได้ว่าเป็นการสร้างอาชีพให้กับชุมชน กรีนส์โบโร เพราะโดยรอบโรงงานนั้น มีไม้ไผ่เป็นจำนวนมาก เป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนมีอาชีพและมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการตัดไม้ไผ่ธรรมชาติที่มีจำนวนมากอีกด้วย ที่มา www.tcdc.or.th

“POCKET SHOWER” ฝักบัวอาบน้ำแบบพกพา

อุปกรณ์ชิ้นนี้มีชื่อว่า “POCKET SHOWER” สำหรับอาบน้ำในป่าเขา การหาที่อาบน้ำแบบสะดวกสบายคงมีไม่มากนัก ทำได้อย่างมากเพียงแค่กระโดดลงลำธาร ว่ายน้ำในคลองเท่านั้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็น เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า แหล่งน้ำเหล่านั้นมีความตื้นหรือลึกมากน้อยเท่าใด แต่ POCKET SHOWER จะทำหน้าที่เหมือนฝักบัวที่ใช้ในห้องน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นมีอุปกรณ์เสริม ถังใส่น้ำขนาด 10 ลิตร หรือ 2.6 แกลลอน สามารถอาบได้นานถึง 7 นาที มีกระเป๋าฉนวนเก็บความร้อน สามารถเก็บน้ำที่ได้รับความร้อนจากแสงแดดไว้อาบยามเย็น พกพาสะดวก กะทัดรัด พับเก็บได้ น้ำหนักเบา เมื่อพับเก็บจะเหลือขนาดเพียงแค่ก้อนสบู่เท่านั้น นอกจากนี้ POCKET SHOWER ใช้อาบน้ำล้างความเค็มจากน้ำทะเลได้เช่นเดียวกัน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปสั่งซื้อกันได้ที่ www.amazon.co.uk ราคา £18.99 หรือประมาณ 500 กว่าบาท ที่มา www.iurban.in.th

“LEGO ยังชีพ”ใส่อาหารต่อตัวเป็นที่พักได้

LEGO ยังชีพมันทำงานอย่างไร UNICEF ได้นำเอาเจ้าบล็อกลักษณะเหมือน LEGO นี้แต่มีขนาดใหญ่ ข้างในกลวงซึ่ง Psychic Factory เป็นผู้ออกแบบให้ภายในสามารถบรรจุข้าวและน้ำ ปุ่มด้านหนึ่งเปิดออกเป็นที่บรรจุข้าวอีกปุ่มบรรจุน้ำ สามารถขนส่งให้กับผู้ประสบภัยได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และไม่ทิ้งขยะเอาไว้ให้เป็นภาระในภายหลัง ผู้ประสบภัยสามารถนำข้าว และน้ำออกมาใช้ เมื่ออาหารหมดสามารถเติมดินหรือทรายกลับเข้าไปในช่องภายในแทน เพื่อให้มีน้ำหนักแล้วนำก้อน LEGO ยักษ์ไปต่อเป็นที่พักพิงชั่วคราว เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจก็สามารถส่งคืน เพื่อนำไปเก็บและนำไปใช้ใหม่เมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติขึ้นอีก นับเป็นการออกแบบที่ฉลาดมาก ไม่มีอะไรสูญเปล่า ไม่ทิ้งขยะถุงพลาสติก โฟม หรือกล่องกระดาษ นำไปสร้างที่พักอาศัยได้ และนำกลับไปใช้ซ้ำได้อีก ที่มา http://inhabitat.com

ร้านอาหารไทย สดใสในแดนมังกร

“ธุรกิจบริการอาหาร” ในจีนมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเติบโตสูงมาก โดยมูลค่าตลาดเกินกว่า 333,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี แนวโน้มขยายตัวด้วยอัตราร้อยละ 8.2 จนถึงปี 2558 สำหรับธุรกิจบริการอาหารในจีน สามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่ร้านอาหารเต็มรูปแบบ ร้านอาหารจานด่วน ร้านคาเฟ่/บาร์ ร้านบริการจัดส่งอาหารถึงบ้าน และร้านอาหารริมทาง ปัจจุบันพบว่า ลูกค้าที่มากินอาหารที่ร้านอาหารไทยส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีระดับรายได้ปานกลาง-สูง และเป็นลูกค้าประจำ แต่ปัญหาคือ ผู้บริโภคชาวจีนยังไม่สามารถแยกได้ถึงคุณลักษณะเฉพาะของอาหารไทย ซึ่งต้องเร่งสร้างอัตลักษณ์ให้โดดเด่นเฉพาะให้มากขึ้น ในอนาคตร้านอาหารไทยในจีน มีโอกาสเติบโตสูง หากผู้ประกอบการสามารถที่จะรักษาคุณภาพมาตรฐานรสชาติอาหารไทยไว้ได้ อย่างไรก็ตาม พบว่า ในการประกอบธุรกิจร้านอาหารในจีน ยังมีอุปสรรคที่สำคัญคือ ขั้นตอนการนำพ่อครัวมาทำงานที่เข้มงวดของจีน โดยเฉพาะเรื่องวุฒิการศึกษา ใบรับรองความรู้พื้นฐานในการปรุงอาหารหรือผสมอาหาร การตรวจสอบทางด้านสุขอนามัยครัวที่เข้มงวดปีละ 2 ครั้ง และจะไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ขาดแคลนบุคลากร และขาดการรวมกลุ่มกัน ระหว่างร้านอาหารไทยในจีน ซึ่งต้องมีการบูรณาการแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว เชื่อว่าธุรกิจร้านอาหารไทยจะสามารถครองใจผู้บริโภคชาวจีนได้ในระยะยาวแน่นอน

SME แดนผู้ดีเล็ง ค้าตลาดจีน

อย่างไรก็ตาม กว่า 1 ใน 4 (หรือ 28%) ของการสำรวจสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมกว่า 1,000 แห่ง พบว่าตลาดเกิดใหม่และประเทศในกลุ่ม BRIC จะผลักดันการค้าได้มากกว่าตลาดตะวันตกตอนใต้ (18%) Christina Hamilton กรรมการผู้จัดการของ Western Union Business Solution ประจำประเทศอังกฤษกล่าวว่า “ดังที่คาดการณ์ไว้ ยุโรปและอเมริกาเหนือยังคงเป็นคู่ค้าสำคัญของธุรกิจอังกฤษ แต่ผลการวิจัยก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า SME ของอังกฤษก็ต้องมองหาความร่วมมือจากประเทศที่มีเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างจีนเช่นกันเพื่อที่จะรักษาและสร้างรายได้ให้ธุรกิจส่งออกให้ได้” ตามด้วยประเทศในยุโรป (22%) และอเมริกาเหนือ (18%) ข้อมูลตัวเลขจาก International Trade Monitor ของ Western Union Business Solutions ชี้ให้เห็นว่า โอกาสการทำตลาดส่งออกในประเทศจีนชนะประเทศในกลุ่ม BRIC ไป 4% ส่งผลให้ประเทศอินเดีย ขึ้นเป็นอันดับสูงสุด ตามด้วยบราซิล 2% และรัสเซีย (1%) ตามลำดับ

“Epiphany onE Puck” จานรองถ้วยกาแฟชาร์จมือถือ

จานรองแก้วชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้รองแก้วทั้งร้อนและเย็น แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น ภายในมีตัวแปรผันพลังงานจากความร้อน ความเย็น ของเครื่องดื่มที่ใส่ในแก้ว ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ น้ำดื่มเย็นๆ เหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานที่มีไฟฟ้าเพียงพอ ที่จะสามารถชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือได้ทั้ง iPhone Tablet และ iPod ผ่านสาย USB ปัจจุบัน Epiphany onE Puck ยังอยู่ในขั้นของการพัฒนาและระดมเงินทุนเพื่อสร้างให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น และคาดว่าจานรองแก้วใบนี้จะออกสู่ตลาดได้ภายในสิ้นปี 2014 นี่เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไอเดียที่สร้างขึ้นเพื่อนำพลังงานที่หลายคนคาดไม่ถึง และไม่ใส่ใจ กลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ที่มา www.iurban.in.th

อิมพอร์ต “แมงดา” ธุรกิจทำเงินของชาวแม่สอด

คุณปิยนาถ พรหมสมบัติ ผู้ประกอบการที่นำเข้าแมงดาจากพม่ารายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มานานกว่า 10 ปี กล่าวว่า อาชีพรับซื้อแมงดา เริ่มจากการได้รับคำแนะนำจากญาติๆ ให้ลองขายแมลงทอดโดยไปซื้อแมลงต่างๆ มาจากประเทศกัมพูชา ธุรกิจไปได้ดีมาก จากนั้นก็เริ่มมีลูกค้าหลายรายถามถึงเพราะต้องการบริโภค จึงต้องทำการเสาะหาถึงแหล่งค้าส่งแมงดาที่ได้คุณภาพที่สุด เมื่อรู้ว่าประเทศพม่าคือแหล่งธรรมชาติที่มีแมงดาอาศัยอยู่ตามท้องไร่ท้องนาจำนวนมาก และประชากรในประเทศพม่าก็ไม่นิยมบริโภคแม้แต่น้อย จึงสั่งนำเข้ามาทอดจำหน่าย “เราเองก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าประเทศพม่าซึ่งมีเขตชายแดนอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ จะเป็นแหล่งที่มีแมงดาอยู่เป็นจำนวนมากมายมหาศาล และเป็นสัตว์ปีกที่ไม่มีผลต่อการดำรงชีวิตของชาวพม่า เราจึงเกิดไอเดียในการรับซื้อแมงดาเพื่อนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ.2542 ใช้เงินลงทุนก้อนแรก 3 – 4 หมื่นบาท” คุณปิยนาถกล่าวถึง เส้นทางการเริ่มต้นธุรกิจ วิธีการรับซื้อแมงดา เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ชาวพม่าจะเป็นผู้รวบรวมแมงดาไว้ให้ได้มากที่สุดแล้วจะนำมาส่งในราคารับซื้อตัวละ 1 – 2 บาท เท่านั้น ในช่วงแรกเริ่มทำการกระจายแมงดาไปยังกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่แรกจนกระทั่งต่อมา แมงดาได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมีชื่อเสียงว่าเป็นแหล่งขายแมงดาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จนปัจจุบันมีผู้ประกอบการสั่งซื้อแมงดามาจากทุกภาคของประเทศไทย ปัจจุบันความต้องการแมงดาในตลาดเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันจำนวนแมงดาก็ลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน เพราะแมงดาที่นำเข้านั้นเป็นแมงดาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ซึ่งเกิดจากเกษตรกรชาวพม่าหันมาพึ่งพา สารเคมีในการทำเกษตรกรรมมากขึ้น […]

ส่องตลาดไทย-ลาว “ช่องเม็ก” ปีหน้าความงามรุ่ง รับเปิดอาเซียน

“ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ด่านช่องเม็กจะเต็มไปด้วยชาวลาวที่เดินทางข้ามฝั่งมายังประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาเพื่อช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า อุบลราชธานี มารับประทานอาหาร โดยเฉพาะร้านสุกี้ MK และ แมคโดนัลด์ ซึ่งโต๊ะเต็มไปด้วยชาวลาวตลอดทั้งวัน เห็นได้ว่ารสนิยมชาวลาวมีความทันสมัยขึ้น” คุณรังสฤษฎ์พัฒนทอง นายด่านศุลกากรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เล่าถึงพฤติกรรมการบริโภคของชาวลาวเมื่อเข้ามาที่ จ.อุบลราชธานี นอกจากยอดผู้ซื้อชาวลาวที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าผ่านด่านศุลกากรช่องเม็กที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีงบประมาณ 2557 (ตุลาคม 2556 – กันยายน 2557) มีมูลค่ารวมที่ประมาณ 14,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีงบประมาณ 2556 โดยมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา นายด่านศุลกากรช่องเม็กคาดการณ์ว่า สินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศลาวในปี 2558 จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์ก่อสร้าง และสินค้าอุปโภคบริโภค สอดรับกับจำนวนรายได้ของชาวลาวที่จะเพิ่มมากขึ้น ตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศลาว และวัสดุอย่าง “เหล็ก” มีแนวโน้มส่งออกสูงมากเป็นอันดับหนึ่ง เพราะขณะนี้ประเทศลาวธุรกิจก่อสร้างกำลังบูมอย่างมาก มีการพัฒนาที่ดินให้กลายเป็นอาคารพาณิชย์เพื่อการค้ามากมาย […]

สมาคมหม่อนไหม พัฒนาผ้าไทยไปอาเซียน

ในปี 2555 ประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าประเภทไหมดิบ ไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ประมาณ 3,466 ตัน หรือ 3,100,000 บาท สินค้าผ้าไหม ประมาณ 1,319 ตัน มูลค่า 400,000 บาท และส่งออกสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม จำนวน 2,778 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,900,000 บาท และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ประเทศไทยยังมีความกังวลในด้านความนิยมผ้าไหมในกลุ่มวัยรุ่นอยู่ หากอุดช่องโหว่ตรงนี้ได้ อุตสาหกรรมผ้าไหมจะเติบโตได้ง่ายขึ้น กรมหม่อนไหม จึงได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนดังนี้ การจัดตั้งสมาคมหม่อนไหมอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาความร่วมมือทางวิชาการด้านวิจัยและพัฒนาหม่อนไหมในแถบภูมิภาคอาเซียน พัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม พร้อมสร้างตราสินค้าผลิตภัณฑ์ไหมให้เป็นเครื่องหมายการค้าของกลุ่มประเทศอาเซียนให้รู้จักในตลาดโลก ทั้งนี้ประเทศไทยได้เปรียบกว่าประเทศเพื่อนบ้านในการทำหม่อนไหม ทั้งยังมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงการศึกษารสนิยมแฟชั่นของคนในกลุ่มอาเซียน ว่ามีรสนิยมในการแต่งกาย หรือมีแฟชั่นอย่างไร และสังเกตความเป็นไปได้ในการย้ายฐานการผลิตวัตถุดิบไปยังประเทศที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงค่าแรง และความสามารถในการผลิต นอกจากนี้การสร้างค่านิยมในการแต่งตัวให้กลุ่มผู้บริโภค โดยอาศัยการประชาสัมพันธ์ และการโน้มน้าวจิตใจประกอบด้วย ถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากน้อยคนนักที่จะรู้จักสรรพคุณของผ้าไหมไทย และยังไม่รู้ซึ้งถึงความคลาสสิกของลายไหมไทย และจุดนี้คือ จุดเด่นที่สำคัญในการพัฒนาผ้าไหมไทยให้ก้าวไกลในอาเซียนต่อไป ที่มา […]

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรุ่นใหม่แห่งเมียนมาร์

ปีนี้ข้อมูลจากกระทรวงแห่งการโรงแรมและการท่องเที่ยวของรัฐบาลคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวประมาณ 3 ล้านคน จะไปเยือนเมียนมาร์ นับเป็นยอดที่เพิ่มมากขึ้นถึง 50% จากเมื่อปี 2556 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสองล้านคน และนับเป็นสามเท่าจากปี 2555 ที่มีนักท่องเที่ยวหนึ่งล้านคน หลังจาก 49 ปีแห่งความโดดเดี่ยว การท่องเที่ยวของเมียนมาร์จำต้องทำงานอย่างหนักและรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จึงนับเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นอกจากปัญหาในประเทศยังคงดำเนินอยู่ เช่น ความรุนแรงระหว่างชาวยะไข่พุทธกลุ่มใหญ่ และมุสลิมโรฮิงญาชนกลุ่มน้อย แต่นักธุรกิจส่วนใหญ่ทั้งชายและหญิงในภาคส่วนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมองอนาคตไปในทางบวก Min Than Htut กระตือรือร้นที่จะอธิบายว่าทำไมเขาจึงตั้งชื่อบริษัททัวร์ของเขาว่า Pro Niti Travel คำว่า Pro ก็มาจากคำว่ามืออาชีพ (Professionalism) ส่วน Niti เป็นภาษาบาลี หมายถึง จริยธรรม “ความเป็นมืออาชีพยังเป็นเรื่องที่หลายๆ คนในเมียนมาร์ยังไม่มีโอกาสที่จะพัฒนา” หนุ่มวัย 24 ปีกล่าว Min Than Htut ใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เพื่อเรียนรู้โลกกว้าง เขาเริ่มทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อสมัยที่เขาเรียนเคมี และได้งานเป็นพนักงานบริการในโรงแรม […]

“ฟลาวเวอร์ฟูด” กะเทาะธัญพืช เจาะตลาดสุขภาพในอาเซียน

หลังจากได้เมล็ดพันธุ์เป็นจำนวนมาก ดร.ประดิษฐ์ จึงนำมาแปรรูปเป็นเมล็ดทานตะวันกะเทาะเปลือกจำหน่าย ซึ่งทำให้ผู้คนหันมาสนใจถึงคุณประโยชน์ และรสชาติของเมล็ดทานตะวันมากขึ้น จนสามารถพัฒนาธุรกิจขยายโรงงานผลิตเมล็ดทานตะวันอย่างจริงจัง ปัจจุบันภายใต้แบรนด์ฟลาวเวอร์ฟูด มีสินค้าธัญพืชจำหน่ายอย่างหลากหลาย อาทิ เมล็ดทานตะวันเคลือบช็อกโกแลต เมล็ดฟักทองอบเกลือ อัลมอนด์อบน้ำผึ้ง เป็นต้น คุณพีระ พีระมาน ทายาทรุ่นที่ 2 รับช่วงบริหารฟลาวเวอร์ฟูด ในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ เล่าถึง การเติบโตของฟลาวเวอร์ฟูดว่า ปีนี้ธุรกิจมีตัวเลขการเติบโตจากปี 2556 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ โดยมาจากสินค้าหลัก คือ ผลิตภัณฑ์เมล็ดทานตะวัน และสินค้าธัญพืชอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายวัตถุดิบธัญพืช อย่าง เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม งาดำ ส่วนตัวเลขของการส่งออกมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่าง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ คิดเป็นสัดส่วน 25 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมด สำหรับการทำการตลาดกับกลุ่มประเทศในอาเซียนนั้น ทายาทธุรกิจ บอกว่า ปัจจุบันการรับรู้สินค้าในตลาดอาเซียนฟลาวเวอร์ฟูดถูกมองว่าเป็นขนมมาโดยตลอด ซึ่งทางบริษัทกำลังปรับแผนการตลาดสร้างการรับรู้ใหม่ให้ลูกค้าทราบถึงคุณประโยชน์ที่แท้จริงของสินค้าธัญพืช เพื่อเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพให้มากขึ้น […]

“ตลาดช่องจอม” ด่านเชื่อมไทย-กัมพูชา แหล่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อีสานตอนล่าง

ช่องจอมเป็นเส้นทางข้ามแดนที่ใหญ่และสะดวกที่สุดของจังหวัดสุรินทร์ที่จะไปยังกัมพูชา ทำให้มีการติดต่อสัญจรไปมา และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชาวไทยและชาวกัมพูชามาเป็นเวลาช้านาน เป็นที่มาของแนวความคิด ในการเปิดจุดผ่านแดนเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ สินค้าที่วางจำหน่ายเน้นเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าสินค้าเกษตรมักขายดีเป็นอย่างมาก ส่วนมากเป็นพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชานำเข้ามาขาย โดยเฉพาะแมงดา ต่างพากันเลือกซื้อนำมาปรุงเป็นอาหาร และสินค้าที่ประดิษฐ์จากไม้เช่น ม้านั่ง เสื่อสานจากไม้ไผ่ ตะกร้าสานจากไม้ไผ่ ปัจจุบันชาวกัมพูชาก็ยังคงข้ามแดนเข้ามาซื้อสินค้า อุปโภคบริโภคในตลาดฝั่งไทยอย่างคึกคักเช่นเดิม และมีนักเสี่ยงโชคชาวไทยที่หลั่งไหลข้ามแดนไปเสี่ยงโชคในบ่อนกาสิโนทั้ง 2 แห่ง ในฝั่งกัมพูชาอย่างคึกคักมากกว่าวันปกตินับพันคน ปัจจุบันจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม หลังจากมีมติคณะรัฐมนตรีให้ขยายเวลาเปิด – ปิดด่าน โดยเปิดตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ยิ่งทำให้มีผู้คนต่างพากันไปจับจ่ายซื้อของกันอย่างคับคั่ง ขณะที่ผู้คนที่ผ่านด่านเข้า – ออก ไปยังประเทศกัมพูชา ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองก็เริ่มมีจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต และการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น สำหรับจุดผ่านแดนถาวรช่องจอมเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครมาเมืองสุรินทร์แล้ว จะต้องแวะเวียนไปเที่ยว ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ซึ่งปัจจุบันมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในไม่กี่ปีที่ผ่านมา และอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อโครงการขยายถนนจากปราสาท – ช่องจอม ได้ขยายถนนเป็น 4 […]

“เคเอฟซี” เตรียมเปิดสาขาแรกที่เมียนมาร์

ยัม ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เคเอฟซีและพิซซ่าฮัท ได้ร่วมอยู่ในลิสต์ของบริษัทที่เข้ามาทำธุรกิจในเมียนมาร์อย่างโคคา-โคลาและยูนิลิเวอร์ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ล้วนหวังที่จะเจาะกลุ่มชนชั้นกลางที่ขยายตัวและกลุ่มผู้มั่งคั่งในเมียนมาร์ โดย บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป คาดการณ์ว่าผู้บริโภคสองกลุ่มนี้จะเติบโตอีกเท่าตัวภายในปี 2563 จากรายงานของ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป ในปี 2556 ยังพบว่า น้อยกว่า 4 ใน 10 ของชาวเมียนมาร์รับประทานข้าวในร้านอาหารเป็นประจำ โยม่า สตราทีจิค โฮลดิ้งส์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า ด้วยประชากรจำนวน 50 ล้านคนและมีคนชั้นกลางที่ขยายตัวซึ่งมีรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริง เมียนมาร์จึงนำเสนอโอกาสของผู้บริโภคมหาศาลสำหรับ โยม่า สตราทีจิค ในการขยายธุรกิจเคเอฟซีในระยะยาว โดยแฟรนไชส์ของเคเอฟซีในช่วงเริ่มแรกจะเน้นที่กรุงย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเมียนมาร์ เจอาร์ ชิง (JR Ching) หัวหน้าแผนกพัฒนาธุรกิจของ บริษัท โยม่า สตราทีจิค กล่าวว่า แผนพัฒนาธุรกิจได้เน้นการเข้าตลาดย่างกุ้งในช่วงแรก และการขยายธุรกิจไปสู่เมืองชั้นสองและชั้นสามก็มีความเป็นไปได้เสมอ ทั้งนี้ โยม่า สตราทีจิค เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่พยายามจะขยายธุรกิจมากกว่าอสังหาริมทรัพย์ โดยทำการจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทระดับนานาชาติที่ต้องการเข้ามาเจาะตลาดเมียนมาร์ โดย บริษัท […]

“AIS Guide&Go” แอปฯ เพื่อการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ แอปฯ AIS Guide&Go เป็นแผนที่นำทางสำหรับคนรุ่นใหม่ พร้อมใช้บนมือถือ เสมือนพกพาอุปกรณ์นำทางติดตัว ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก โดยผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่อใช้นำทางไปยังจุดเช็คอินของเพื่อนบนเฟซบุ๊กได้เลย! สำหรับลูกค้า Android เข้าไปดาวน์โหลดแผนที่ฉบับสมบูรณ์ลงในมือถือได้ทางเว็บไซต์เอไอเอสที่ www.ais.co.th/guideandgo โดยมีอัตราค่าบริการให้เลือก เริ่มต้นที่ 19 บาท/1 วัน, 49 บาท/1 เดือน และ 499 บาท/1 ปี

บลูมมิ่งฯ กระเช้าสปาไทย

บลูมมิ่ง สยามมีสเวลเนสซีเคร็ท โดย สยามเวลเนสกรุ๊ป ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขด้วยกระเช้าสุขภาพความงาม จากผลิตภัณฑ์สปาคุณภาพส่งออก แบรนด์บลูมมิ่ง (Blooming) ที่พร้อมส่งต่อความหอมละมุนในแบบฉบับสปาไทยระดับพรีเมี่ยม ส่งมอบให้กับคู่ค้าคนพิเศษ หรือญาติผู้ใหญ่ ที่จัดเซ็ทได้อย่างลงตัว หรือเลือกสรรสินค้าได้ในราคาที่คุณต้องการ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 02-641-6619 ต่อ 102 หรือ www.siamwellnesslab.com

สบู่มังคุด คอลลาเจน

บริษัท เอฟพลัสครีเอชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงาม ขอส่งสินค้าน้องใหม่ Collagen Plus Soap ออกมาบุกตลาดผลิตภัณฑ์ความงามให้บรรดาคุณสาวๆ ที่อยากให้ผิวหน้าแลดูขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ โดย Collagen Plus Soap มีด้วยกันหลายสูตร แต่สูตรที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ Mangosteen Collagens Plus Soap หรือ สบู่มังคุดคอลลาเจน เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของสิว ผื่นคัน ขจัดเชื้อแบคทีเรียทั้งใบหน้า และผิวกาย ใช้ลดกลิ่นกาย ผลัดเซลล์ผิวเก่า ต้านอนุมูลอิสระ ลดกระ ฝ้า จุดด่างดำ ผิวหยาบกร้าน เหมาะกับผิวมันและผิวผสม โดยรับรองคุณภาพจาก อย. ปลอดภัย ไร้สารปรอท และสเตียรอยด์ สนใจผลิตภัณฑ์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2733-6461 หรือ 08-8886-3068

“SanDisk” การ์ดจุมากที่สุดในโลก

รุ่นที่ 2 SanDisk Extreme PRO SDXC UHS-I ความจุขนาด 512 GB ที่มีคุณสมบัติเด่นด้านหน่วยความจำที่สูงที่สุดในโลก และยังสามารถนำภาพที่ถ่ายด้วยไฟล์ประเภท “RAW” ไปงานในโปรดักชั่นอื่นๆ ได้อีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รุ่น สามารถรองรับการบันทึกภาพวิดีโอด้วยความละเอียดระดับ 4K Ultra HD (3840x2160p) “SanDisk” 64 GB จำหน่ายราคา 4,700 บาท 512 GB ราคา 31,000 บาท สามารถศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.sandisk.com

“GPI Cream” ปรนนิบัติผิวแพ้ง่าย

ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจากนักวิจัยไทย ที่ดูแลปัญหาผิวของผู้ที่ใบหน้าเคยผ่านการใช้ยา รักษาฝ้า รักษาสิว ทำเลเซอร์มาก่อน “GPI Cream” GPI Cream Skin Soothing Treatment ครีมสำหรับผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะ อุดมไปด้วยส่วนประกอบสำคัญที่เข้มข้นของสาร SunflowerExtract จากประเทศอิตาลี ฟื้นฟูผิวหน้าจากการใช้สารเคมีที่กัดลอกผิว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปราศจากสารที่เป็นตัวยาอันตราย GPI Cream Skin Soothing Treatment เติมคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าครีมแก้แพ้ ทั่วไป เพื่อป้องกันอาการแพ้ คันและอักเสบ ของผิวบอบบาง แพ้ง่าย พร้อมปลอบประโลมผิว ด้วยการช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นในระดับสูง แต่ไร้ซึ่งความมัน โดยมีผลงานวิจัยรองรับจากประเทศอิตาลี และได้สิทธิบัตรครอบคลุมทั่วโลก นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nature-holistic.com, www.facebook/gpi cream

เซ็ททรีทเม้นท์สปาหน้า กระเป๋าหิ้ว

บริษัท ชาร์ม เนเชอรัล โปรดักส์ แอนด์ สปา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจสปา ภายใต้แบรนด์ “Charm” สมดุลแห่งธรรมชาติและความงาม แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “เซ็ททรีทเม้นท์สปาหน้า กระเป๋าหิ้ว” ด้วยส่วนผสมที่คัดสรรพิเศษจากสารสกัดธรรมชาติ มีการคิดค้นและพัฒนาสูตรขึ้นมาเป็นพิเศษ มอบประสิทธิภาพการต่อต้านริ้วรอยอย่างล้ำลึก และสัมผัสอันแสนรื่นรมย์ เหมาะกับทุกสภาพผิว อ่อนโยนแม้ผิวที่บอบบาง ช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ผิวหน้าเปล่งปลั่งสดใสดูมีสุขภาพดี และลดความหยาบกร้านของผิวหน้า คืนความสมดุลให้ผิวหน้า เพราะผ่านการทำความสะอาดอย่างลึกซึ้งพร้อมบำรุงอย่างเข้มข้น ใน 1 เซ็ท ประกอบด้วย คลีนซิ่ง โทนเนอร์ สครับผิวหน้า มาสสาจครีม ครีมมาส์กหน้า ครีมบำรุงผิว และครีมกันแดด ในราคาเพียง 3,900 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2926-1700 หรือทางเว็บไซต์ ที่ www.charm-trading.com

เศรษฐกิจไทย…ออกแบบใหม่ให้ยั่งยืน

สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ จัดสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจไทย ประจำปี 2558 ก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำเศรษฐกิจไทย โดยเชิญ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ พร้อมด้วย นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเสวนา “โครงสร้างเศรษฐกิจไทย…ออกแบบใหม่ให้ยั่งยืน” ณ ห้องคริสตัลบอลรูม โรงแรมพลาซ่าแอทธินี กรุงเทพฯ

1 … 3 4 5 … 11