โอกาสของคนตัวเล็ก
คุณสุดาดวง นาคะสุวรรณ เจ้าของแบรนด์ “Mela” เล่าว่า หลังออกจากการเป็นอาจารย์เพื่อจะมาเลี้ยงลูกอย่างเต็มตัว ตนคิดอย่างที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ด้วยความถนัดด้านสถาปัตยกรรมจึงเกิดไอเดียที่จะทำของเล่นที่สามารถเสริมสร้างทักษณะให้กับลูกของตัวเองขึ้น และสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจได้ โดยของเล่นชิ้นแรกทำขึ้นใช้วัสดุ “กระดาษลูกฟูก” สาเหตุที่ใช้กระดาษลูกฟูกนั้นเพราะมีความทนทานแข็งแรง อีกทั้งยังปลอดภัยต่อเด็ก และสิ่งแวดล้อมสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ นอกจากนนี้ตนทุนไม่สูง น้ำหนักเบา สะดวกต่อการขนส่ง หลักจากได้ของเล่นชิ้นแรก ได้เกิดไอเดียต่อยอดจากของเล่นไปสู่ เครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน อาทิ โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟห้อย และต้นคริสต์มาส เป็นต้น ผลงานทุกชิ้นที่ได้ออกมานั้น ตน เป็นผู้ออกแบบเองทั้งหมด โดยใช้หลักการต่อประกอบให้เป็นรูปทรงต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆได้ฝึกทักษะ ใช้ความคิด ความพยายามในการต่อประกอบ รวมถึงการมีส่วนร่วมระหว่าง พ่อ แม่ ลูก อีกด้วย ในส่วนของการผลิตหลังจากที่ คุณสุดาดวง ได้ทำการออกแบบเป็นที่เรียบร้อย จะนำส่งแบบให้โรงงานผลิตกล่องกระดาษทำตามรูปแบบที่ต้องการ ซึ่งก็มีหลากหลายรูปแบบ เช่น บ้านกระดาษ เครื่องบินกระดาษ ม้าโยกกระดาษ เป็นต้น ส่วนกระดาษลูกฟูกที่ใช้ จะเน้นเป็น สีขาว ของเล่น “Mela” ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2559 จนถึงปัจจุบันได้ผลตอบรับดีเกินคาด ด้วยการทำการตลาดผ่าน ออนไลน์ และออฟไลน์ ตามงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็ก ราคาจำหน่ายประมาณชิ้นละ 700 – 1,000 บาท กลุ่มเป้าหมาย คือ พ่อ แม่ ลูกที่อยู่ในช่วงอายุ 3 – 6 ปี ซึ่งเหมาะแก่การเล่นของเล่นแบบนี้ที่สุด เพราะจะช่วยสร้างบทบาทสมมติตามจินตนาการของตัวเองที่อยากจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นหมอ นักบิน ฯลฯ สมองจะเกิดการเรียนรู้และจดจำ หากได้รับการกระตุ้นจากการทำงานศิลปะให้ช่วยให้มีจินตนาการ และทัศนคติที่ดี ช่วยปูพื้นฐานให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายลฃะเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook : @melatoys ที่มาภาพ facebook : @melatoys