ชี้ช่องรวย แนะ 12 เทคนิคจัด “โปรโมชัน” เพิ่มยอดขาย ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ยังใช้ได้เป็นอย่างดี
ในการทำธุรกิจการที่เราจะเพิ่มยอดขายมีอยู่หลายวิธี แต่วันนี้ ชี้ช่องรวย จะมาแนะวิธีพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันอย่างดี และสามารถใช้ได้ผลทันตา แถมทำง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ยังใช้ได้ดี นั่นคือ ดารจัด “โปรโมชัน” ที่จะช่วยกระตุ้นยอดขาย และดึงลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามาใช้บริการ มาดูกันว่าจะมีวิธีใดบ้าง 1.ลดราคา โปรโมชันลดราคา ถือเป็นพื้นฐานเบสิค ที่ผู้ประกอบส่วนใหญ่เลือกจะใช้วิธีนี้ ซึ่งอาจจะลดเป็นเปร์เซ้นต์ หรือกำหนดปริมาณการซื้อเท่าไหร่ ลดเท่าไหร่ ซึ่งโปรโมชั่นนี้สามารถทำได้เรื่อยๆ แต่ความน่าสนใจไม่มากเท่าไหร่นัก 2.ซื้อ 1 แถม 1 ใครๆ ก็ชอบของฟรี การจัดโปรโมชั่นแบบซื้อ 1 ฟรี 1 หรือ ซื้อ 2 ฟรี 1 จะช่วยกระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้าได้ดีมากๆ เพราะลูกค้าจะรู้สึกว่าคุ้มค่า ประหยัดจริง จนลูกค้าบางรายอาจเปลี่ยนยีห้อสินค้าที่เคยอยู่ประจำ มาซื้อสินค้ายี่ห้อใหม่ที่มีโปรโมชั่นเลยก้ได้ 3.มีของแถม การใช้ของแถมก็เป็นอีกวิธีที่นิยมใช้กันทั่วไป ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยในเรื่องของการโปรโมทสินค้าใหม่ไปในตัวเลยก็ได้ ยกตัวอย่าง ซื้อแชมพูสูตรธรรมดา แถมแชมพูสูตรใหม่ ขนาดทดลองให้ไปใช้กันฟรีๆ 4.ชิงโชครับรางวัล ในบางครั้งอาจจะมีการจับฉลากให้รางวัลแก่ลูกค้า และให้ลูกค้าถ่ายภาพกับสินค้าที่ขยายให้มีขนาดใหญ่เพื่อทำประชาสัมพันธ์ เหมาะสำหรับสินค้าที่หรูหรา […]




หากย้อนรำลึกไปในอดีต 2 ข้างทางของสะพานพุทธเคยเป็นจุดนัดพบ สังสรรค์และแหล่งช้อบปิ้งยอดฮิตของวัยรุ่นไทยมายาวนาน ซึ่งคงคล้ายกับ ตลาดรถไฟ เจเจกรีน หรือตลาดนัดหัวมุมในปัจจุบัน แต่สิ่งที่ทำให้ตลาดสะพานพุทธพิเศษกว่า คือการเป็น Night Market ที่ตั้งอยู่ในทำเลท่องเที่ยวสุดคลาสสิคใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า เชื่อมระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธน มีลมเย็นจากริมแม่น้ำเจ้าพระยาพัดมาตลอดทั้งคืนไม่ขาดสาย บรรจบกันกับถนนจักรวรรดิ, ถนนตรีเพชร และปากคลองตลาด
ตลาดสะพานพุทธ เปิดตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงตี 1 เต็มไปด้วยของกินของใช้ สินค้าแฟชั่นและสินค้ามือสองมากมาย ทั้งยังมีศิลปินอิสระจากโรงเรียนเพาะช่าง มารับวาดภาพเหมือนและภาพการ์ตูนให้แบบสดๆ และเนื่องจากมีสินค้าราคาถูก จึงมีลูกค้ามากมายมาจับจ่ายเที่ยวชม ทำให้ร้านค้าเพิ่มขึ้นแน่นขนัดเต็ม 2 ข้างทาง เกิดเป็นภาพความทรงจำสุดประทับใจของใครหลายคน หากมองไปแล้วการเปลี่ยนไปของตลาดสะพานพุทธก็คงไม่ต่างกันกับการทำธุรกิจ ที่พ่อค้าแม่ค้าแผงลอยในปัจจุบันนี้ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ไม่ยึดติดกับการทำธุรกิจในทำเลหรือรูปแบบเดิมๆ โดยเฉพาะการใช้สงครามลดราคาที่ไม่สามารถดึงดูดผู้บริโภคให้กลับมาซื้อซ้ำและเชื่อมั่นในสินค้าได้อีก สิ่งที่ควรเปลี่ยน จึงเป็นการสร้างความแตกต่างในตัวสินค้า และต้องสร้างควบคู่ไปพร้อมกับคุณภาพ
อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจ ต้องรู้ทิศทางการทำธุรกิจในอนาคต อย่างล่าสุดก็มีการประเมินว่า LINE จะเป็น Super App ของบ้านเรา เนื่องจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วประเทศกว่า 45 ล้านคน ได้ใช้ LINE สูงถึง 42 ล้านคน ธุรกิจค้าปลีกในตลาด e-Commerce มีแนวโนมเติบโตสูงขึ้นถึง 4% ต่อปี ทำให้ธุรกิจ Logistic กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ส่วนระบบ e-Payment ก็ได้รับความนิยมสูงขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อรับกับการตลาดแบบ O2O (Online to Offline) เพราะจะช่วยให้ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ได้