ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

บทสรุป 9 ธุรกิจดาวร่วงปี 2561


ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมาเศรษฐกิจมีความผันผวนอย่างมาก ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการพัฒนาเทคโลยี รวมไปถึงยุคดิจิทัล ที่เข้ามามีบทบาทในทุกด้านส่งผลให้ต้องมีการประตัวในทุกสายอาชีพ แต่ถึงอย่างไรบางสายอาชีพ บางธุรกิจก็ไม่สามารถต้านทานความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ทำให้หลายธุรกิจต้องล้มหายตายจากจำนวนไม่น้อย วันนี้ “ชี้ช่องรวย” จึงขอนำเสนอบทสรุป 9 ธุรกิจดาวร่วงประจำปี 2561 เพื่อให้ดูก่อนว่ามีธุรกิจใดบ้าง

จากผลสำรวจของ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พิจารณาจากข้อมูลด้านการนำเข้าและส่งออกสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ และข้อมูลอื่นๆ ได้เปิดเผยผลสำรวจทางธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงในปี 2561

1.ธุรกิจหัตกรรม

ธุรกิจด้านหัตถกรรม คือ ผลิตภัณฑ์งานฝีมือโดยส่วนใหญ่เป็นผลผลิตพื้นบ้านที่หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ OTOP แต่ทำไมธุรกิจประเภทนี้ถึงอยู่ในช่วงขาลง ก็เพราะว่าธุรกิจด้านหัตถกรรม ซึ่งเป็นงานของชาวบ้านที่จะต้องได้รับการส่งเสริมจากทางภาครัฐเป็นหลักในการหาตลาดเพื่อรองรับ แต่ด้วยเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันไม่ดีนักทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจด้านหัตถกรรม

2.ธุรกิจเหมืองแร่

ประเทศไทยมีทรัพยากรเหลือค่อนข้างจำกัด หรือไม่ได้มีทรัพยากรจำนวนมากพอที่จะใช้ในการทำธุรกิจเหมืองแร่ในระยะยาว อีกทั้งค่าแรงในการจ้างงานที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้นายทุนที่เข้ามาทำธุรกิจประเภทนี้ย้ายถิ่นฐานไปประเทศเพื่อนบ้านแทน อีกทั้งยังมีทรัพยากรจำนวนมากกว่า

3.สิ่งพิมพ์

ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสารและวารสารต่างๆ ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการพัฒนาที่รวดเร็วในยุคดิจิทัล ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน อีกทั้งความรวดเร็วของข่าวสารไวกว่ามากในโลกออนไลน์ ทำให้สิ่งพิมพ์ดูจะเป็นอะไรที่ล้าหลัง ส่งผลให้นักลงทุนมุ่งเน้นที่จะใช้สื่อออนไลน์ในด้านการตลาดมากกว่าจะใช้สิ่งพิมพ์ และยิ่งนับวันความต้องการในด้านนี้น้อยลงทุนทีทำให้ธุรกิจสิ่งพิมพ์ปิดตัวลงจำนวนมาก

4.ธุรกิจเครื่องเล่นและแผ่น DVD CD

ธุรกิจเครื่องเล่นและแผ่น DVD CD ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ผู้บริโภคไม่นิยมกันแล้วที่จะซื้อหนัง เพลง ที่เป็นรูปแบบ CD DVD ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะความสะดวกสบายในการรับชมได้ผ่านอินเทอร์เน็ตเช่นกัน

5.ธุรกิจเคเบิลทีวี

หลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยปรับเข้าสู่ยุคดิจิทัล มีการปรับเปลี่ยนสื่อโทรทัศน์ที่มีระบบทีวีดิจิทัลเข้ามา ที่มีความคมชัดที่มากขึ้นและช่องรายการฟรีทีวีที่มากขึ้น ถ้าแต่ก่อนหากอยากดูทีวีภาพที่ชัดก็คงต้องพึ่งเคเบิลทีวีเท่านั้น สิ่งนี้เองจึงทำให้ในปี 61 นี้ธุรกิจเคเบิลทีวีต้องอยู่ในช่วงขาลง

6.ธุรกิจขายมือถือมือ 2

ปัจจุบันด้วยเครื่องมือการตลาดทำให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์มือถือแบรนด์ดังๆ มีแผนในการทำการตลาดที่ดีไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่น ทั้งลด แลก แจก แถม ทำให้ผู้บริโภคก็มาซื้อของใหม่ซึ่งมีราคาที่ไม่แพงมาก จนทำให้ตลาดมือถือมือ 2 ค่อนข้างซบเซาและปิดตัวกันไปหลายๆ ร้าน

7.ธุรกิจร้านค้าขายของชำ

ปัจจุบันร้านขายของชำมีจำนวนลดลง ผู้คนหันมองหาร้านสะดวกซื้อมากกว่า ด้วยปัจจัยที่ครอบคุมทั้งการให้บริการที่สะดวกสบาย สินค้าที่หลากหลายรวมถึงการให้บริการในรูปแบบใหม่ที่มีออกมาตอบสนองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร้านค้าขายของชำต้องมีการปรับตัวหรือปิดตัวไปในที่สุด

8.ธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ต

เข้าสู่ยุคดิจิทัลที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าถึงทุกพื้นที่ ทำให้ธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยมีคนเข้าใช้บริการเหมือนสมัยก่อน รวมทั้งเรื่องของการลงทุนทำร้านอินเทอร์เน็ตที่ใช้ต้นทุนสูง ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ก็ต้องเป็นรุ่นที่ใหม่อยู่เสมอถึงจะมีคนมาใช้บริการ ดังนั้นรายได้ 10 บาท/ชั่วโมง จึงไม่คุมกับเงินที่ลงทุนไป ทั้งค่าเช่าร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่นๆ แน่นอน

9.ธุรกิจทางการเกษตร

ถึงแม้ประเทศไทยเราจะเป็นประเทศที่ทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาการส่งออกของสินค้าทางการเกษตรมีการส่งออกที่น้อยลง รวมถึงสินค้าทางการเกษตรเช่น ผลไม้ ยางพารา ข้าวสาร มีราคารับซื้อที่ถูกมาก เกษตรกรลงทุนไปขายก็ไม่ได้กำไรทำให้ธุรกิจทางการเกษตรของประเทศไทยอยู่ในช่วงขาลง