ปัจจุบันการเข้าถึงแหล่งข้อมูลทำได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการเข้าไปค้นหารายละเอียดสินค้าที่ต้องการก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้น การสร้างความแตกต่างของตัวสินค้าจึงมีความสำคัญ เพราะช่วยสร้างจุดเด่นและเป็นอัตลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม หรือ Niche Products กำลังเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมกับคนในปัจจุบันที่มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น สามารถใช้ความคิดและตัดสินใจซื้อได้เลยทันทีตามความชอบของแต่ละคน และกลุ่มสินค้า Niche Products ที่กำลังเป็นที่จับตามองและได้รับความนิยมในขณะนี้ คือ สินค้าสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็ก
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงยอดการซื้อขายสินค้าเฉาะกลุ่ม หรือ Niche Productsในงานแสดงสินค้าสไตล์ แบงค็อก (STYLE Bangkok) รวมกว่า 1,500 ล้านบาทและมียอดผู้เข้าชมภายในโซนนี้กว่า 23,000 ราย
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ปัจจุบันตลาดสินเค้าเฉพาะกลุ่ม หรือ Niche Products ในกลุ่มสินค้า สำหรับผู้สูงอายุ (60+) สินค้าสำหรับแม่และเด็ก สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง และสินค้าโอทอป ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยจากการจัดงานสไตล์ แบงค็อก (STYLEBangkok) เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาโซนสินค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Products) มียอดสั่งซื้อรวม 1,515 ล้านบาท โดยเป็นยอดสั่งซื้อทันที 6 ล้านบาท ยอดสั่งซื้อภายใน 1 ปี กว่า 1,509 ล้านบาท มีผู้เข้าชมสินค้าภายในโซนนี้รวมกว่า 23,000 ราย
โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมและมียอดสั่งซื้อสูงสุด ได้แก่ สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ (60+) ซึ่งสอดคล้องตามแนวโน้มตลาดโลกที่กำลังมีความต้องการสูงขึ้นในปัจจุบัน รองลงมาคือสินค้าโอทอป สินค้าสำหรับแม่และเด็ก และสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาล และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเดินมาถูกทางที่ได้ชี้แนะแนวโน้มตลาดใหม่ ๆ และนำกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกมาใช้ในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยตระหนักถึงความสำคัญในการติดตามแนวโน้มตลาดโลก ตลอดจนการผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค
นอกจากนี้ กรมได้มุ่งเน้นการสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมด้านการตลาด สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยดึงจุดเด่นของวัฒนธรรมไทย อัตลักษณ์ไทย การใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นมาผลิตสินค้า เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า และยากที่จะลอกเลียนแบบได้ ซึ่งแนวโน้มการตลาดเหล่านี้จะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ไทย
สำหรับสินค้าที่ได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ซื้อต่างชาติในกลุ่มสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ (60+) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (เซรั่ม ครีมบำรุงผิวหน้า โลชั่น มาส์ก ครีมกันแดด) ครีมกลูโคซามีนแก้ปวดข้อ ผ้าพันคอผสมเส้นใยคอลลาเจน ผ้าพันคอไหม เครื่องสำอาง (ลิปสติก) ที่ดับกลิ่นรองเท้า ผลิตภัณฑ์โฮมสปา (น้ำมันหอม เทียนหอม) แชมพูป้องกันผมร่วง ของแต่งบ้าน (นาฬิกา Handmade กรอบรูป โคมไฟ) รองเท้าเพื่อสุขภาพ เครื่องวัดสัญญาณสมอง ส่วนกลุ่มสินค้า OTOP มีสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ กระเป๋าถือ ผ้าปัก ตะกร้า ผ้าไหม ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ต่างหู เสื้อผ้า ใยบวบขัดตัว เป็นต้น กลุ่มสินค้าสำหรับแม่และเด็ก (Mom & Kids) มีสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวเด็ก (Baby Wipes)เซรั่มบำรุงคิ้วเด็กสบู่อาบน้ำออร์แกนิก ผ้าอ้อมสาลูใยไผ่ เสื้อผ้าสำหรับคุณแม่ให้นม (Nursing Wear) เป็นต้น สำหรับกลุ่มสินค้าสัตว์เลี้ยงนั้น มีสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ ปลอกคอสัตว์เลี้ยง ที่ลับเล็บแมว ของเล่นสุนัข เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง ที่นอนสัตว์เลี้ยง ห้องน้ำสุนัขเป็นต้น
นอกจากนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการให้ผลิตสินค้าโดยชูจุดเด่นความเป็นอัตลักษณ์ไทย พร้อมทั้งสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นอีกหนทางที่ทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจะขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าเฉพาะทาง (Niche Product) สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร 02 507 8245 สายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169