ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ทำร้านอาหารขนาดเล็ก ไม่ยากเกินเอื้อม


เมื่อพูดถึงการลงทุนคนส่วนใหญ่ก็นิยมที่จะลงทุนด้วยงบน้อยๆ ค่อยๆ ประสบความสำเร็จ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะเริ่มลงทุน และถ้าหากมองเจาะลงไปถึงธุรกิจขนาดเล็ก ร้านอาหารขนาดเล็กนับเป็นธุรกิจที่น่าสนใจเพราะว่าอาหารเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต

 

นอกจากนี้ร้านอาหารยังเป็นสถานที่สำหรับพบปะ สังสรรค์ เป็นสถานที่สร้างความบันเทิง ซึ่งร้านอาหารส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จต้องเป็นมากกว่าร้านอาหาร แต่คนที่จะลงทุนทำร้านอาหารควรเริ่มต้นจากขนาดเล็กเสียก่อน เพราะง่ายต่อการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

การลงทุนร้านอาหารขนาดเล็ก ก็จะใช้งบในการลงทุนที่น้อยด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ เช่น โต๊ะ ภาชนะ เครื่องมือในการทำอาหาร ปริมาณวัตถุดิบที่ต้องซื้อในแต่ละวัน จำนวนพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ อันที่จริงการทำร้านอาหารสามารถเริ่มต้นจากเงินทุนในหลักหมื่นได้ จุดเด่นสำคัญของร้านอาหารขนาดเล็กคือมีความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เราขาดทุน แน่นอนผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจหากไม่มีการวางแผนที่ดีพอ พร้อมที่จะขาดทุนได้ รูปแบบร้านอาหารเล็ก จึงง่ายต่อการปรับเปลี่ยน และข้อดีประการต่อมาคือไม่ยุ่งยากในการเปิดร้าน เพราะใช้พื้นที่เพียงไม่กี่สิบตารางเมตรก็สามารถเปิดขายอาหารได้แล้ว

รูปแบบของร้านอาหารจัดว่าเป็นความสำคัญระดับต้นๆ เลยของการทำร้านอาหาร เพราะมันคือเป้าหมายการขายของเรา ซึ่งจะทำให้เราไปต่อยอดได้ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจร้านอาหารของเรา สื่อการตลาดที่เราจะต้องทำ รวมไปถึงการเตรียมความเรียบร้อยของร้านอาหาร เช่นการตกแต่งร้าน จำนวนพนักงาน การสั่งและการกักเก็บสินค้าต่างๆ รูปแบบร้านอาหารหลักๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือแฟรนไชส์ ธุรกิจประเภทนี้สะดวกในการลงทุน เพราะเจ้าของธุรกิจได้เตรียมทุกอย่างไว้แล้ว เริ่มจากการสั่งซื้อ วัตถุดิบ การปรุงอาหาร การขาย การอบรมพนักงาน เป็นต้น ประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย เพราะแบรนด์ที่แข็งแรงของแฟรนไชส์นั้นได้สนับสนุน เป็นต้นทุนกรุยทางให้แล้ว แต่ก็ต้องแลกมากับการซื้อสิทธิ ราคาต้นทุนการลงทุนที่สูง

ประเภทที่สองคือร้านอาหารทั่วไป ประเภทนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบของผู้เริ่มธุรกิจเองล้วนๆ ซึ่งเราสามารถที่จะขายอาหารชนิดใดก็ได้ เช่น อาหารนานาชาติ อาหารไทย ก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารอีสานเป็นต้น รูปแบบนี้มีความเสี่ยงที่สูงกว่ารูปแบบแรก เพราะเราต้องสร้างทุกอย่างขึ้นมาเองทั้งหมด แต่ถ้าหากเรามีความสามารถ ต้นทุนจะน้อยกว่ารูปแบบที่หนึ่งอยู่มากพอสมควร

หลังจากเลือกรูปแบบแล้ว ต่อไปก็ต้องคิดกลยุทธ์ทำการตลาดเพื่อเรียกลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้านเราเป็นประจำทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ซึ่งเราสามารถแบ่งการตลาดออกเป็น 2 รูปแบบ รูปแบบแรกเป็นการตลาดแบบทั่วๆ ไป เช่นทำผ่านป้ายโฆษณา แผ่นปลิว รถแห่ หรือแม้กระทั่งเดิน Road Show แต่อีกแบบคือการทำการตลาดแบบออนไลน์ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายผ่านทางโซเชียล เน็ตเวิร์ค วิธีก็ไม่ยากด้วยการสมัครใช้บริการฟรีหรือแบบเสียค่าโฆษณา ถ้าหากมีงบประมาณแนะนำให้ใช้แบบโฆษณา เพราะจะมีประสิทธิภาพมากกว่า อย่างไรก็ตามควรใช้ทั้ง 2 แบบผสมผสานกัน

ต่อมากลยุทธ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการทำโปรโมชั่นดึงดูดใจลูกค้า เพราะถ้าหากมีโปรโมชั่นดี ๆ จะช่วยให้เราตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดี ทั้งนี้ก่อนที่จะเราจะแคมเปญโปรโมชั่นใดๆ ควรมาดูสถานการณ์ของร้านก่อนว่าจำเป็นต้องทำหรือไม่ เพราะวัตถุประสงค์หลักของการทำโปรโมชั่นคือการดันยอดขาย ต้องการเพิ่มจำนวนลูกค้า ต้องการระบายวัตถุดิบ ดังนั้นเราต้องเลือกโปรโมชั่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของเราให้ดี เพราะบางทีการที่ลูกค้ามาใช้บริการของเรามากจนไม่สามารถให้บริการได้ทั่วถึงอาจเป็นข้อเสียก็ได้

หลังจากหากลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมแล้ว ต่อไปก็คือคุณภาพของอาหารและการตั้งราคาที่เหมาะสมกับชนิดอาหารของเรา คุณภาพและรสชาติของอาหารเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำธุรกิจอาหาร วัตถุดิบที่เราเลือกมาจะต้องสะอาด สดอยู่เสมอ เทคนิคในการควบคุมอาหารให้สดอยู่ตลอดเวลาคือ เราจะต้องมีการวางแผนการซื้อวัตถุดิบที่ดี ซึ่งหมายถึงการจัดเก็บอาหารที่เหมาะสมกับวันหมดอายุ อย่าทิ้งไว้นานจนวัตถุดิบขาดความสด ใหม่ เราควรมีการวางแผนสั่งซื้อให้เหมาะสมกับปริมาณที่ต้องใช้ในแต่ละวัน หากเราไม่สามารถใช้ได้หมดเราควรต้องมีโปรโมชั่นเมนูอาหารที่ใช้ส่วนประกอบชนิดนั้นออกไป ทางด้านราคาเราควรจจัดตามประเภทและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและค่าต้นทุนทางการทำเมนูอาหารของเรา หากธุรกิจของเราอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น เราก็ไม่ควรตั้งราคาให้แพงกว่าคู่แข่งมากนัก เพราะเราเป็นเจ้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสู่ตลาด เราควรจะเน้นให้ลูกค้าเข้ามาทดลองกันมากๆ ดีกว่า

ท้ายที่สุดการทำร้านอาหารขนาดเล็ก ไม่ยากเหมือนที่หลายคนคิด แต่ถ้าจะสำเร็จได้ต้องมีการวางแผนธุรกิจที่ดี พร้อมาที่จะปรับเปลี่ยนปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่พร้อมจะเกิดขึ้นเสมอ เพียงเท่านี้ความฝันที่อยากจะมีธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็กก็ไม่ไกลเกินเอื้อม