ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

TMB-TBank ประกาศควบรวมกิจการ ขยายฐานลูกค้าสู่ 10 ล้านคน


ตัวแทนผู้ถือหุ้นหลักพร้อมด้วยผู้บริหารจากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานแถลงข่าววันนี้ถึงการลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่าง ING Groep N.V. (ING), บมจ.ทุนธนชาต (TCAP), Bank of Nova Scotia (BNS), ธนาคารธนชาต (TBANK) และธนาคารทหารไทย (TMB) โดยมีจุดประสงค์เพื่อการรวมกิจการระหว่าง TMB และ TBANK เพื่อร่วมยกระดับการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้า และมุ่งสู่การเป็นธนาคารชั้นนำของไทย

นายจุมพล ริมสาคร และ Mr. Philippe G.J.E.O. Damas ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นว่า “ในฐานะตัวแทนคณะกรรมการของธนาคารทีเอ็มบี มองว่าแผนการรวมกิจการในครั้งนี้มีความลงตัวเหมาะสม เป็นการผนึกกำลังอย่างชัดเจนซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทำให้ธนาคารมีความมั่นคงมากขึ้นทั้งยังสอดคล้องกับแนวคิดของภาครัฐในการส่งเสริมการรวมกิจการเพื่อเพิ่มขนาดกิจการและศักยภาพในการแข่งขัน”

นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กล่าวเสริมว่า “TCAP สนับสนุนแผนการรวมกิจการในครั้งนี้ เพราะทำให้ธนาคารหลังการรวมกิจการมีศักยภาพมากขึ้น มีเงินทุนมากเพียงพอ มีช่องทางการให้บริการที่เพิ่มขึ้นมากเป็นเท่าตัว ธนาคารธนชาตเองในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญการให้บริการสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ เป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาด เมื่อรวมกับ TMB ที่มีจุดเด่นในการระดมเงินฝาก จะทำให้ธนาคารหลังรวมกิจการมีต้นทุนการทำธุรกิจที่สามารถแข่งขันได้ดีขึ้น มีศักยภาพในการสนับสนุนลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งหมดนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อ ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้นแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมธนาคารไทย และระบบเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย เรียกได้ว่าก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่าย”

Mr. Mark Newman กล่าวว่า “ING สนับสนุนแผนการรวมกิจการนี้ โดยคาดว่าจะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า 20% ในธนาคารภายหลังการรวมกิจการ และคงบทบาทการเป็นผู้ถือหุ้นหลัก ทั้งยังมีความยินดีที่จะได้เห็นฐานผู้ถือหุ้นที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นจากดีลนี้”

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TCAP กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่า ทีมผู้บริหารของทั้ง 2 ธนาคาร จะทำให้การรวมกิจการครั้งนี้สำเร็จไปด้วยดีด้วยการผนึกกำลังความเชี่ยวชาญชำนาญของทรัพยากรบุคคลเข้ากับจุดแข็งที่มีอยู่ของทั้ง 2 ธนาคาร นำมาสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับธนาคาร ลูกค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ เรายังเล็งเห็นถึงประโยชน์และผลตอบแทนที่จะได้รับจากการเป็นผู้ถือหุ้นในธนาคารที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีศักยภาพในการเติบโตมากขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยเสริมความเป็นFinancial Holding Company ชั้นนำของไทยให้กับ TCAP อีกด้วย

ด้าน 2 ผู้บริหาร นายปิติ ตันฑเกษม CEO จาก TMB และ นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ CEO จาก TBANK ได้แสดงวิสัยทัศน์ร่วมกันว่า “ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด คือ การนำพาและขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าให้เกิดการพัฒนาและการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ทางการเงินที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น เป็นองค์กรเอกชนที่มีธรรมาภิบาลและเป็นบรรษัทที่ดี (Good Corporate Governance and Good Corporate Citizenship)

เราเล็งเห็นถึงโอกาสจากการรวมกิจการที่จะนำเอาจุดแข็งที่แตกต่างมาต่อยอด โดย TMB มีจุดเด่นเรื่อง Deposit Franchise และรูปแบบการให้บริการด้านการเงินที่แตกต่างจากธนาคารแบบดั้งเดิม (Traditional Bank) ขณะที่ TBANK เป็นผู้นำด้านสินเชื่อลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะธุรกิจเช่าซื้อ ดังนั้น ผู้บริหารและพนักงานจากทั้ง 2 ธนาคาร จึงยินดีที่จะได้มีโอกาสร่วมมือกันพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ และยกระดับประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นไปอีกให้กับลูกค้า ในขณะเดียวกัน ด้วยขนาดกิจการที่ใหญ่ขึ้นก็จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยภายหลังการรวมกิจการ ธนาคารจะมีฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นแตะระดับ 10 ล้านคน”

นายประพันธ์ กล่าวเสริมว่า “ในช่วงการควบรวมการดำเนินงาน (Business Integration) ทั้ง 2 ธนาคารจะดำเนินการด้วยความพยายามอย่างที่สุดที่จะลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้น โดยในระหว่างนี้ทั้งสองธนาคารจะยังคงใช้แบรนด์เดิมไปก่อน เมื่อรวมกิจการแล้วเสร็จจึงจะมีการศึกษาถึงแบรนด์ใหม่ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการของธนาคารภายหลังการรวมกิจการ”

ทั้งนี้ ลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคารจะยังคงสามารถทำธุรกรรมกับแต่ละธนาคารผ่านช่องทางบริการที่ใช้อยู่เป็นประจำได้ตามปกติ ทั้งที่สาขา และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

ติดตามเนื้อหาฉบับเต็มได้ที่

ไม่พลิกโผ ทีเอ็มบี – ธนชาต ประกาศรวมกิจการ ตั้งเป้าสู่ธนาคารชั้นนำของประเทศ