ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เราจะได้ยินคนพูดถึงเทรนด์ของการทำงาน “ฟรีแลนซ์” กันอยู่ไม่น้อย ถ้ามองดูรอบตัวก็จะเห็นว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่ช่วยพาคนหางานกับคนจ้างงานมาเจอกัน รวมถึงอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กได้ช่วยสร้างช่องทางหารายได้ใหม่ๆ โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบงานประจำเดิมๆ บวกกับคำโฆษณาเรื่องการมีอิสระ การเป็นเจ้านายตัวเองได้ จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ที่ดูเหมือนผู้คนจะตบเท้าเดินเข้าวงการฟรีแลนซ์กันมากขึ้น จนกลายเป็นที่พูดถึงกันในวงกว้างว่างานอิสระเหล่านี้จะเข้ามาแทนที่งานนั่งโต๊ะที่เรากำลังทำอยู่ในไม่ช้า แต่ความจริงแล้ว ชาวฟรีแลนซ์นั้นอาจจะยังไม่ได้ครองโลกอย่างที่เราคิด
Freelance คืออะไร
ฟรีแลนซ์ (Freelance) หมายถึง งานอิสระ ที่ไม่ได้รับเงินเดือนประจำ ไม่ได้มีผู้ว่าจ้างประจำหรือสังกัดที่แน่นอน สามารถกำหนดรูปแบบและวิธีการทำงานได้เอง โดยแบ่งได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ คืองานฟรีแลนซ์ (เช่น งานรับจ้างทั่วไป) และธุรกิจส่วนตัว
จากผลสำรวจของอีไอซี ระบุว่า มนุษย์เงินเดือนชาวไทยราว 79% ตอบว่าอยากเปลี่ยนมาทำงานอิสระ ไม่ว่าจะเป็นงานฟรีแลนซ์หรือออกมาเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่น่าแปลกใจคือแม้แต่มนุษย์ออฟฟิศที่ได้เงินเดือนสูงๆ ก็ตอบไปในทิศทางเดียวกันนี้ อย่างกลุ่มที่ได้รายรับมากกว่าหนึ่งแสนบาทต่อเดือน ราว 1 ใน 3 ก็ตอบว่าอยากออกไปทำงานอิสระอย่างเต็มตัวเช่นกัน
ที่มา: การวิเคราะห์จากผลสำรวจของ EIC ณ เดือนธันวาคม 2018 (ผู้ตอบแบบสอบถาม 5,873 คน)
แต่ถึงจะมีคนอยากออกมาทำงานอิสระกันเยอะ ผลสำรวจกลับบอกเราว่า กลุ่มมนุษย์เงินเดือนยังคงครองตลาดแรงงานอยู่นั่นเอง จากข้อมูลของอีไอซี กลุ่มคนทำงานประจำคิดเป็นสัดส่วน 74% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มคนทำงานอิสระมีสัดส่วนเพียง 21% (แบ่งเป็นคนทำงานฟรีแลนซ์ 12% และคนทำธุรกิจส่วนตัว 9%) สิ่งที่ตัวเลขนี้บอกกับเราคือไม่ใช่ทุกคนที่อยากเปลี่ยนมาทำงานอิสระจะสามารถทำได้อย่างใจคิดเสมอไปยังมีอีกหลากหลายเหตุผลที่ทำให้คนลังเลที่จะก้าวออกมาทำงานอิสระอย่างเต็มตัว
แล้วอะไรคือสาเหตุเหล่านั้น?
นอกจากความไม่แน่นอนเรื่องรายได้ ความไม่มั่นคงด้านการงาน หรือเรื่องการขาดสวัสดิการ เช่นประกันสุขภาพต่างๆ และวันลาแล้ว งานฟรีแลนซ์อาจจะไม่ได้ให้ค่าตอบแทนสูงอย่างที่หลายคนวาดฝันไว้
ข้อมูลจากเว็บไซต์หางานยอดนิยมแห่งหนึ่งในประเทศไทยเผยว่า เหล่าคนสมัครงานฟรีแลนซ์เรียกเงินเดือนในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของงานประจำทั่วไป และยังเรียกเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยในปี 2016 ผู้สมัครงานฟรีแลนซ์เรียกเงินต่อเดือนที่ราว 18,600 บาท และพอถึงปี 2018 ก็เรียกเพิ่มขึ้นเป็น 20,900 บาทเทียบกับค่าจ้างงานประจำทั่วไปซึ่งเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 18,503 บาทในปี 2016 เป็น 18,637 บาทในปี 2018
หมายเหตุ: ข้อมูลค่าจ้างงานประจำในที่นี้รวมค่าล่วงเวลา และได้ตัดแรงงานในภาคเกษตรและก่อสร้างออก รวมไปถึงแรงงานที่ทำงานเสมียน
ผู้ประกอบอาชีพงานพื้นฐาน (เช่น คนงานและผู้ช่วยทำความสะอาด) ผู้ปฏิบัติการเครื่องจักรโรงงานและเครื่องจักร และผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบ และผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือในด้านการเกษตร ป่าไม้ และประมง
ที่มา: การวิเคราะห์โดย EIC จากข้อมูล LFS และเว็บไซต์หางานแห่งหนึ่งในประเทศไทย
นอกจากนี้ เมื่อถามว่าถ้าจะเปลี่ยนมาทำงานอิสระกันจริงๆ จะคาดหวังรายได้ที่มากขึ้นหรือน้อยลง เหล่ามนุษย์เงินเดือนถึง 96% ก็ตอบว่าต้องการรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 50%-70% ของเงินเดือนที่มีอยู่เดิม และมีจำนวนไม่น้อยที่ตอบว่าต้องการรายได้มากขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัว
แต่แน่นอนว่าโลกแห่งความจริงไม่ได้สวยงามแบบนั้น
ข้อเท็จจริงที่เราพบคือคนทำงานฟรีแลนซ์ที่มีรายรับสูงๆ นั้น มีจำนวนน้อยมาก เมื่อลองเทียบดูว่าคนที่ทำงานแต่ละแบบมีรายได้เท่าไหร่กันบ้าง จะเห็นว่าคนที่ทำงานฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่มีรายรับต่อเดือนต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ โดย 18% ของคนทำงานฟรีแลนซ์ตอบว่ามีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 9,000 บาท เทียบกับคนทำงานประจำและคนทำธุรกิจส่วนตัวที่มีสัดส่วนตรงนี้เพียง 4% และ 1% เท่านั้น ในขณะเดียวกัน คนทำงานฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ต่อเดือนสูงกว่า 100,000 บาทกลับมีสัดส่วนเพียง 5% ซึ่งน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับคนทำงานประจำและคนทำธุรกิจส่วนตัวที่มีสัดส่วนคนรายได้สูงๆ เท่ากับ 8% และ 12% ตามลำดับ
ที่มา: การวิเคราะห์จากผลสำรวจของ EIC ณ เดือนธันวาคม 2018
นี่จึงอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คนทำงานฟรีแลนซ์ไม่ได้มีจำนวนเยอะอย่างที่เราคาด เพราะถึงแม้มนุษย์เงินเดือนหลายคนอยากจะก้าวออกจากงานประจำกันแค่ไหน แต่เมื่อเจอระดับรายได้ที่ไม่ได้สูงอย่างที่หวังไว้ (เผลอๆ อาจจะต่ำกว่างานประจำที่ทำอยู่เสียด้วยซ้ำ) ก็ต้องชักเท้ากลับมาคิดทบทวนกันใหม่
จากการสำรวจของอีไอซี เหตุผลส่วนใหญ่ที่คนเลือกทำงานประจำคือความมั่นคงด้านการงานและการเงิน (คือมีรายได้สม่ำเสมอ มีหน้าที่การงานรองรับตลอดเวลา) รองลงมาคือสวัสดิการ วันเวลาทำงานที่แน่นอน โอกาสเติบโต รวมถึงการมีสังคมในการทำงาน เมื่อเทียบกับงานฟรีแลนซ์ที่ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทั้งเรื่องการงานและการเงิน ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะเลือกอยู่กับงานประจำซึ่งให้ความอุ่นใจมากกว่า
หมายเหตุ: แบบสำรวจกำหนดให้เลือกตอบเหตุผลได้ 3 ข้อ
ที่มา: การวิเคราะห์จากผลสำรวจของ EIC ณ เดือนธันวาคม 2018
อย่างไรก็ตาม ข้อดีหลายๆ อย่างของงานฟรีแลนซ์ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของงาน อิสระในการบริหารจัดการเวลาเป็นของตัวเอง หรือการไม่ต้องพบเจอกับปัญหาดราม่าในที่ทำงานนั้นก็ทำให้คนจำนวนไม่น้อยยอมแลก
ความมั่นคงของงานประจำแล้วก้าวออกไปหางานฟรีแลนซ์ อีกข้อน่าสนใจที่เราพบคือ เมื่อก้าวเข้าสู่วงการนี้แล้ว
คนส่วนใหญ่ก็ตอบว่าพอใจกับสิ่งที่ทำอยู่และยังอยากอยู่กับงานฟรีแลนซ์ต่อไปเรื่อยๆ ตรงข้ามกับเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ตอบว่าอยากเปลี่ยนงานกันเป็นส่วนมาก อ่านถึงตรงนี้ หลายคนคงกำลังถามตัวเองว่าจะอยู่กับงานประจำหรือลองลาออกมารับงานฟรีแลนซ์บ้างดี
ดังนั้น เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ สำหรับครั้งหน้า อีไอซีจะพาไปสำรวจว่า วิถีชีวิตแบบ ชาวฟรีแลนซ์นั้น เขาทำอะไรกันบ้าง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : Economic Intelligence Center (EIC)
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
EIC Online: www.scbeic.com
Line: @scbeic