ปัจจุบันนี้การให้บริการส่งอาหาร Delivery ดูเป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้เสียแล้ว ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ต้องการความสะดวก รวดเร็วมากขึ้น และการเติบโตของการสื่อสารผ่านออนไลน์ก็ช่วยสนับสนุนให้ผู้บริโภคนิยมที่จะซื้อทุกสิ่งทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์ด้วยสิ
แต่สำหรับร้านอาหารแล้ว การทำ Delivery ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกับสินค้าอื่น ทั้งนี้เนื่องจากมีเงื่อนของระยะเวลาของอาหารที่น่ารับประทาน ไม่บูดเสีย ตลอดจนหน้าตาของอาหารเป็นส่วนประกอบที่จะจูงใจผู้บริโภค ดังนั้นเมื่อร้านอาหารใดที่ตัดสินใจจะให้บริการ Delivery จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมในระดับหนึ่ง และนี่คือแนวทางเตรียมตัว
1.เริ่มต้นจากการวิเคราะห์รายการอาหารที่คุณจะจัดส่งแบบ Delivery เพราะบางครั้งมีเมนูรายการอาหารบางอย่างไม่เหมาะสมกับการจัดส่งแบบ Delivery เช่นอาหารที่ต้องกินตอนร้อนๆ อาหารที่มีปริมาณน้ำมากๆ เป็นต้น
2.การคิดค้นเรื่องบรรจุภัณฑ์ในการจัดส่งต้องสะดวก ห่อหุ้มอาหารให้ถึงลูกค้าอย่างปลอดภัย พร้อมกับรักษารูปลักษณ์ของอาหารให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างประทับใจ
3.ประเมินกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แน่นอนบางทีรายการอาหารเดิมที่คุณมีอยู่อาจไม่พอต่อการจัดส่งในรูปแบบของ Delivery คุณอาจต้องค้นคิดเมนูอาหารใหม่ๆ เพื่อเข้าสู่หมวดหมู่นี้ให้ลูกค้าได้เลือก เพื่อให้การไปในแต่ละครั้ง ลูกค้าสั่งมากกว่า 1 รายการ อันเป็นการสร้างยอดขายที่มากขึ้น ภายใต้ต้นทุนค่าขนส่งที่เท่าเดิม แม้ว่าในบางร้านคุณจะบอกว่าราคาค่าขนส่งแยกออกจากรายการอาหารก็ตาม
4.ทำการประชาสัมพันธ์ ปัจจุบันนี้การประชาสัมพันธ์และการทำการตลาดผ่านระบบออนไลน์มีประสิทธิภาพมาก สามารถซื้อโฆษณารอบวงรัศมีพื้นที่ที่เราต้องการให้ลูกค้าเห็น ซึ่งในธุรกิจร้านอาหารมีความจำเป็น เพราะติดข้อจำกัดเรื่องเวลาในการจัดส่งสินค้า การปักหมุดร้านผ่านระบบกูเกิ้ลก็มีความจำเป็น ไม่น้อยไปกว่าการสร้างเพจร้านบนเฟซบุ๊กเพราะจะทำให้ลูกค้ามีช่องทางเข้ามาปรึกษา หรือสั่งรายการอาหารผ่านช่องทางนี้ได้อย่างสะดวก Line@ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ในระยะต้นก็ต้องทำโปรโมชั่นให้คนรู้จักด้วย
5.ดูแลเรื่องมาตรฐาน ต้องพยายามตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเมนูที่จัดส่งนั้นมีมาตรฐานเพียงพอ ระหว่างทางจัดส่งจะไม่ทำให้รูป รส เปลี่ยนแปลงไป มีมาตรฐานเดียวกันกับที่กินหน้าร้าน เรื่องแบบนี้บรรจุภัณฑ์มีส่วนสำคัญมาก นอกจากนี้ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเมนูอยู่ตลอดเวลา เพราะอย่าลืมว่าคนเราต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ ในการลิ้มลองอาหารอยู่ตลอดเวลา
6.การประสานงานกับพันธมิตร ปัจจุบันนี้การตั้งกองรถขนส่งเพื่อจัดส่งอาหารในรูปแบบ Delivery ดูเป็นเรื่องล้าสมัยและต้นทุนสูง การหาพันธมิตรที่ทำด้านโลจิสติกส์ตัวเลือกที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Lineman Lalamove Foodpanda ฯลฯ ก็ช่วยให้การรับออร์เดอร์มีระบบที่ชัดเจนและแม่นยำ โดยเกิดข้อผิดพลาดหรือการตกหล่นได้น้อย แถมหากร้านของคุณยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก ก็ยังได้ใช้ช่องทางจากเว็บไซต์ของสื่อกลาง ในการประชาสัมพันธ์ร้านได้ในอีกช่องทางหนึ่งด้วย