ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

สสว.ผลักดันเอสเอ็มอี 2.3 ล้านรายเข้มแข็งในอีก 10 ปี


สสว.ผลักดันแผนสร้างกลุ่มไมโครเอสเอ็มอีไทย 2.3 ล้านราย ให้เข้มแข็ง มีรายได้ต่อปี 1 ล้านบาท และเติบโตระยะยาว หวังผล 10 ปีข้างหน้า ผู้ประกอบการมีรายได้ถึง 2.3 ล้านล้านบาท

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว.ได้มีการออกนิยามเอสเอ็มอีใหม่ โดยมีคำนิยาม ไมโครเอสเอ็มอี ที่รวมถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และโอท็อป ที่มีอยู่ในประเทศไทย จำนวน 2.3 ล้านราย โดย สสว.จะต้องร่วมผลักดัน กลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มไมโครเอสเอ็มอี และร่วมสร้างความเข้มแข็ง

เพื่อทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อประมาณ 1 ล้านบาท/ราย และทำให้ในอีก 10 ปีข้างหน้า ผู้ประกอบการจะมีรายได้เพิ่มขึ้นรวม 2.3 ล้านล้านบาท แต่หากทำได้ใน 5 ปีจะเป็นการร่วมส่งผลให้ผู้ประกอบการมีการเติบโตรวดเร็วขึ้น

ขณะเดียวกันได้วางแผนร่วมยกระดับไมโครเอสเอ็มอีสู่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และยกระดับโอท็อปสู่เอสเอ็มอีที่มีความเข้มแข็ง พร้อมกับทำให้ธุรกิจมีการเติบโตต่อเนื่อง ขยายสู่เอสเอ็มอีขนาดกลางและขนาดใหญ่ พร้อมกันนี้จะต้องมีการออกแบบต้นแบบและการนำมาตรฐาน โดยจะดำเนินการระหว่าง สสว. และหน่วยร่วมทั้งสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) สถาบันอาหาร และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อร่วมทำให้ไมโครเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และโอท็อป พร้อมตระหนักถึงมาตรฐานสินค้า และมาตรฐานระดับโลก

ทั้งนี้ สสว.จะดำเนินโครงการร่วมมือหน่วยร่วม โดย ISMED จะดำเนินการจัดทำเอสเอ็มอี ทรานส์ฟอร์เมชั่น ทั้งการให้องค์ความรู้ การสร้างต้นแบบและร่วมพัฒนา พร้อมทดสอบกับตลาดจริง ส่วนสถาบันอาหาร จะร่วมยกระดับเครื่องดื่มและอาหาร โดยในปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการในกลุ่มอาหาร และต้องให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภคเช่นกัน

ทางด้านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะร่วมพัฒนาโครงการที่เน้นกลุ่มไมโครเอสเอ็มอี ทั้งการมีส่วนร่วมชุมชนต้นแบบ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การร่วมสร้างมาตรฐานไทยสู่สากล

อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการทั้งหมดถือเป็นการพลิกกลไกส่งเสริมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประเทศไทย พร้อมเปลี่ยนรูปแบบส่งเสริมใหม่ เพื่อร่วมยกระดับผู้ประกอบการทั้งหมด มีธุรกิจที่เติบโตมากขึ้น อีกทั้งจะร่วมตอบโจทย์ตามแผนยุทธศาสตร์ของ สสว. ทำให้ภายในปี 2564 จะร่วมสร้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสู่ตลาดสากล ต่างประเทศให้ได้มากขึ้น