โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

นวดแผนไทย นวดสปา อยู่รอดไม่ตกเทรนด์

อาชีพเสริม อาชีพทำเงิน วันนี้ขอแนะนำอาชีพ นวดแผนไทย และ นวดสปาไทย ซึ่งคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นอาชีพทำเงินที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเป็นอย่างมากในตอนนี้

โดยค่าชั่วโมงในการนวดแผนไทยจะมีราคาที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ในแต่ละทำเลที่ตั้ง แต่โดยปกติแล้ว ค่านวดจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 150-200บาท บางแห่งชั่วโมงละ 300บาท หรืออาจจะมากกว่านั้น

ปัจจุบันอาชีพนวดแผนไทยยังเป็นที่ต้องการอีกมาก โดยจะเห็นว่าผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่ ต้องโทรจองคิวล่วงหน้า อาจเป็นเพราะปริมาณของหมอนวดแผนไทยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้มาใช้บริการ ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการยึดอาชีพนวดแผนไทย นวดสปาไทย เป็นอาชีพหลักก็ดีหรือจะเป็นอาชีพเสริมก็ดี เพราะอาชีพนวดแผนไทย นวดสปาไทย ยังเป็นอาชีพทำเงินอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ที่สนในฝึกอาชีพนวดแผนไทย นวดสปาไทย มีศูนย์ฝึกอาชีพหลายแห่งให้เลือกเรียนมากมาย มีทั้งแบบเสียเงินและ ฝึกอาชีพฟรี ในที่นี้ก็ขอเสนอข้อมูลสถานที่เรียนฝึกอาชีพฟรีมาให้ท่านผู้ที่สนใจได้ศึกษารายละเอียดตามนี้เลย ศูนย์ฝึกอาชีพฟรี

โดยส่วนใหญ่ผู้ที่เรียนนวดแผนไทย นวดสปา หลังจากผ่านการเรียนฝึกอาชีพ มักจะได้งานทำในทันที โดยมากจะเป็นการแนะนำงานจากอาจารย์ผู้สอน ถ้าโชคดีท่านอาจได้ไปถึงต่างประเทศ เพราะตลาดต่างประเทศกำลังเติบโตและเป็นที่ต้องการอาชีพนวดแผนไทย และ นวดสปาไทย เป็นอย่างมาก เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน

รายได้ จากการประกอบอาชีพนวดแผนไทย
• สำหรับผู้ที่ทำเป็นอาชีพเสริม
1. อิสระนวดตามบ้าน ลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีฝีมือในการนวด ผู้ใช้บริการนวดจะโทรนัด ท่านให้มาที่บ้าน หรือผู้ใช้บริการอาจจะมาที่บ้านของท่าน ท่านสามารถได้ค่าชั่วโมงในการนวดแบบเต็มๆโดยไม่โดนหักค่าสถานที่
2. อิสระนวดในสถานประกอบการ ลักษณะนี้เป็นการนวดในสถานที่ของคนอื่น ลูกค้าจะเข้ามาเรื่อยๆ แต่ค่าชั่วโมงในการนวดจะมีการแบ่งกับเจ้าของที่ตามจะตกลงกัน

• สำหรับผู้ที่จะทำเป็นอาชีพหลัก
1. เดินทางไปทำงานต่างประเทศ รายได้จะดีมากขึ้นอยู่กับค่าเงินของประเทศนั้นๆ
2. เป็นลูกจ้างของสถานประกอบการนั้นๆแบบเต็มตัว เช่น ร้านสปาในโรงแรม รีสอร์ท ต่างๆ
3. เป็นเจ้าของกิจการเปิดเป็นสถานประกอบการโดยที่เราเป็นหมอนวดแผนไทยเองและจ้างหมอนวดแผนไทยคนอื่นๆมาเพิ่ม

ก่อนที่จะยึดอาชีพนวดแผนไทยทำมาหากิน เราต้องมารู้จักความหมายของ คำว่านวดแผนไทย กันก่อน
การนวดแผนไทย หรือ นวดแผนโบราณ เป็นการนวดชนิดหนึ่งในแบบไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการยืดเส้น และการกดจุด ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ "นวดแผนโบราณ" โดยมีหลักฐานว่านวดแผนไทยนั้นมีประวัติมาจากประเทศอินเดีย และมีการนำเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขให้เข้ากันกับวัฒนธรรมของสังคมไทย จนเป็นรูปแบบแผนที่เป็นมาตรฐานของไทยและส่งทอดมาจนถึงปัจจุบัน

การนวดแผนไทยแบ่งเป็น 2 สาย คือ สายราชสำนักและสายเชลยศักดิ์

การนวดแบบราชสำนัก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของการนวดนี้คือ เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ที่อยู่ในรั้วในวัง ฉะนั้นการนวดจึงถูกออกแบบที่เน้นการใช้นิ้วมือและมือเท่านั้น และท่วงท่าที่ใช้ในการนวดมีความสุภาพเรียบร้อย มีข้อกำหนดในการเรียนมากมาย ผู้ที่เชี่ยวชาญทางวิชาชีพด้านนี้ จะได้ทำงานอยู่ในรั้วในวังเป็นหมอหลวง มีเงินเดือนมียศมีตำแหน่ง

การนวดแบบเชลยศักดิ์ เป็นการนวดที่ใช้ในระดับชาวบ้านด้วยท่าทางทั่วไป ไม่มีแบบแผนหรือพิธีรีตองในการนวดมากนัก อีกทั้งยังสามารถใช้อวัยวะอื่นๆ เช่น เข่า ศอก เท้า เพื่อช่วยทุ่นแรงในการนวดได้ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากการนวดแบบราชสำนักที่เน้นการใช้มือเพียงอย่างเดียว

หลักและวิธีการนวด
วิธีการนวดที่ถูกต้องจะทำให้ผู้นวดไม่เหนื่อย และการนวดก็ได้ผลเต็มที่ มีความสะดวกและปลอดภัยทั้งผู้นวดและผู้รับการนวด วิธีการนวดที่ถูกต้องเริ่มตั้งแต่ลักษณะการวางมือให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะนวด เพื่อให้ใช้แรงที่กดนั้นลงตามจุด และมีน้ำหนักเพียงพอที่จะรักษาโรค ซึ่งการวางมือ การวางเท้า การนั่งของผู้นวด ต้องเหมาะกับมือที่กดลงบนผู้ป่วย เรียกได้ว่า เป็นสัดส่วนองศา และทิศทางในการนวด ดังนั้นจึงมีหลักสอนให้จำง่าย ๆ ว่า ลักษณะการนวดที่ถูกต้อง คือ "แขนตึง หน้าตรง องศาได้"

ลักษณะหรือเทคนิควิธีการนวดแผนไทย มีวิธีการ ดังนี้ คือ
1) การกด 2) การคลึง 3) การบีบ 4) การดึง 5) การบิด 6) การดัด 7) การตบ การทุบ การสับ 8) การเหยียบ ส่วนอวัยวะที่ใช้ในการนวด แบบทั่วไป ได้แก่ มือ ศอก และเท้า แต่การนวดแบบราชสำนักจะใช้เฉพาะมือเท่านั้น

มารยาทในการนวด
การนวดไทยเป็นเอกลักษณ์ของไทยที่มีวัฒนธรรมอันดีงาม การนวดจึงต้องมีมารยาทในการนวดเสมอ เนื่องจากการนวดเป็นความสัมพันธ์กันระหว่างคนสองคนโดยตรง แต่คนไทยเราไม่นิยมการถูกเนื้อต้องตัวกัน ผู้นวดต้องระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ โบราณจึงมีหลักเกณฑ์มารยาทในการนวดไว้ เช่น ก่อนทำการนวด ผู้นวดต้องพนมมือไหว้ระลึกถึงครูอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาให้เรา ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ เพื่อให้การนวดครั้งนี้สำเร็จ ถ้าเป็นการนวดแบบราชสำนัก ผู้นวดต้องยกมือไหว้ผู้ถูกนวด เพื่อขอขมาที่ต้องมีการสัมผัสร่างกายกัน ตามประเพณีและวัฒนธรรมของไทย ผู้นวดไม่ควรนั่งใกล้ชิดตัวผู้นวดมากเกินไป และเวลานวดควรระวังไม่อยู่ในลักษณะที่คร่อมตัวผู้นวด ไม่ควรหายใจรดตัวผู้ถูกนวด เป็นต้น

ข้อห้ามสำหรับการนวดแผนไทย การนวดแผนไทยต้องนำไปใช้ให้เหมาะสมจึงจะเกิดประโยชน์ แต่ถ้าใช้ไม่ถูกต้องก็จะเกิดโทษเช่นกัน ผู้นวดทุกคนต้องรู้จักข้อห้ามของการนวด อาการหรือประวัติของคนไข้ที่ไม่ควรใช้วิธีการนวด เช่น
1) มีไข้ หน้าแดง ปากแดง
2) มีอาการปวดมาก บวม แดง ร้อนที่ข้อ เอ็น และกล้ามเนื้อ
3) มีบาดแผลเปิด
4) มีผื่นขึ้นตามตัวหรือสงสัยว่าจะเป็นโรคผิวหนัง (อาจติดต่อได้จากการสัมผัส)
5) ภาวะกระดูกหัก/ข้อเคลื่อนที่ยังไม่ติดดี
6) มึนเมาขาดสติหรือหมดความรู้สึก
7) กล้ามเนื้อเกร็ง กระตุก ฯลฯ

ผลดีและผลเสียของการนวดไทย
การนวดแผนไทยเป็นการรักษาโรควิธีหนึ่งซึ่งมีประโยชน์อย่างมากแต่ก็อาจมีผลเสียได้ถ้านำไปใช้ไม่ถูกวิธี ผลจากงานวิจัยพบว่าการนวดแผนไทย สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้มีประโยชน์ด้านสุขภาพ ส่วนผลเสียอาจเกิดจากตัวผู้นวดไม่มีความชำนาญ ไม่รอบคอบ สถานที่นวดไม่สะอาด เป็นต้น