ตามที่ ชี้ช่องรวย เคยทำโพลล์สำรวจประเภทความต้องการของการทำธุรกิจแฟรนไชส์ ที่ผ่านมาพบว่า ประเภทธุรกิจที่ผู้คนสนใจลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งหลายคนมีความต้องการ แต่ไม่รู้วิธีการบริหารจัดการ ดังนั้น ธุรกิจแฟรนไชส์จึงเป็นตัวเลือกอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยลดความยุ่งยากหลายขั้นตอนลง
นอกจากนี้แล้ว ปัญหาที่มักจะพบอีกและถือเป็นเรื่องสำคัญ คือ การไม่รู้รายละเอียดของแฟรนไชส์ที่จะซื้อ รวมไปถึงสินค้าและความต้องการจริงๆ ว่า ต้องการทำธุรกิจแฟรนไชส์จริงหรือไม่ และไม่รู้ว่าจะตรงกับสิ่งที่คาดหวังไว้หรือเปล่า ซึ่งก็มีจำนวนไม่น้อยที่เริ่มต้นซื้อแฟรนไชส์แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ดังนั้น เราจึงควรที่จะมาเช็คหรือตรวจสอบปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรา เพื่อลดความล้มเหลวในการทำธุรกิจ ซึ่งมี 6 ข้อ ดังนี้
1.มีสินค้าที่เป็นที่นิยมและเหมาะกับทำเลที่อยากเปิด
คงจะเหนื่อยใจไม่น้อย ถ้าคุณทุ่มทุนเปิดร้านในทำเลที่คิดว่าดี แต่กลับไม่มีคนมากิน เพียงเพราะเมนูอาหารในร้าน ไม่เป็นที่นิยมในตลาด พูดง่ายๆ ว่ามันไม่โดนใจคนแถวนั้น ดังนั้นต้องตรวจสอบให้ดี แฟรนไชส์ที่คุณเลือกซื้อ ต้องมีสินค้าที่เป็นที่นิยมในตลาด และสินค้านั้นต้องเหมาะกับทำเลที่คุณจะเปิดด้วยเช่น ถ้าจะเปิดร้านในพื้นที่โรงเรียน แน่นอนว่ากลุ่มคนที่สัญจรไปมาย่อมเป็นนักเรียน อาจารย์ ผู้ปกครอง สินค้าหรืออาหารที่จะนำมาขาย ก็ควรเป็นสินค้าที่กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ต้องการในราคาที่เหมาะสม
2.มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ
แบรนด์ร้านอาหารที่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนได้ว่า มีลูกค้าเข้าไม่ขาดสาย อาหารอร่อย บริการก็ดี เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับลูกค้าย่อมพร้อมจะเลือกมากกว่าแบรนด์ที่คนไม่ค่อยรู้จัก แถมยังสามารถต่อยอด ได้ง่ายกว่า เช่น ออกเมนูอะไรใหม่ ๆ มา คนก็พร้อมจะมาลอง เพราะเชื่อฝีมืออยู่แล้วนั่นเอง เช่นเดียวกัน เวลาเลือกจะซื้อแฟรนไชส์ คุณก็ควรเลือกแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียง โดยต้องไม่ใช่แค่มีชื่อเสียงในระดับจังหวัด หรือแค่พื้นที่หนึ่ง ๆ แต่ควรมีชื่อเสียงในระดับประเทศด้วย ไม่เช่นนั้นจะจำกัดทำเลในการเปิดร้านของคุณมากเกินไป
3.มีการทำการตลาดให้แบรนด์
ในภาวะที่ธุรกิจแข่งขันกันสูงเช่นปัจจุบัน แฟรนไชส์ที่ดีควรทำการตลาดให้แบรนด์อย่างสม่ำเสมอไม่ขาดสาย เพราะนอกจากจะทำให้แบรนด์อยู่รอดในตลาดได้ ยังช่วยให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ทุกสาขาสามารถเพิ่มยอดขายและขยายกิจการได้ดีขึ้นด้วย ดังนั้น คุณควรเลือกแฟรนไชส์ที่มีแผนทำการตลาดให้แบรนด์เท่านั้น ไม่ใช่แค่ขายแฟรนไชส์ให้แล้วจบเลย
4.มีมาตรฐานการทำงานที่ชัดเจน
ปัญหาหลักๆ ในการเปิดร้านอาหาร คือเรื่องระบบในการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น ต้องจัดวางร้านในลักษณะไหน ต้องใช้ซอฟต์แวร์อะไรในการจดรับอาหาร ต้องมีพนักงานบริกรกี่คนต่อจำนวนโต๊ะที่มีทั้งหมด เวลาทั้งหมดในการรับและเสิร์ฟลูกค้า รวมไปถึงสูตรอาหารและการควบคุมให้ร้านเป็นไปในแนวทางที่กำหนด ซึ่งตรงนี้หากระบบไม่ดีจริง ก็จะทำให้ทั้งร้านรวน จนไปถึงประกอบกิจการไม่ได้ไปเลยก็มี เพื่อลดภาระน่าปวดหัวนี้ คุณจึงควรเลือกแฟรนไชส์ที่มีมาตรฐานการทำงานชัดเจน มีสูตรอาหาร การบริหารจัดการร้าน และวิธีปฏิบัติงานเป็นขั้นตอนอย่างละเอียด
5.มีระบบการเทรนนิ่งให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
โดยปกติ การเปิดร้านอาหารใหม่ ๆ ต้องลองผิดลองถูกมากมาย และมักเกิดปัญหาที่อยู่นอกเหนือแผนการที่วางไว้ แฟรนไชส์ที่คุณเลือก จึงควรมีระบบการเทรนนิ่งทั้งการปรุงอาหารชนิดนั้น ๆ การบริการลูกค้า การรับมือกับปัญหา รวมไปถึงวิธีบริหารจัดการร้าน โดยต้องพร้อมสอนผู้ซื้อแฟรนไชส์ รวมถึงเปิดโอกาสให้สอบถามได้ตลอดเพื่อคุณจะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกเองทุกอย่าง ซึ่งจะเป็นการเสียเวลาและพลังงานโดยใช่เหตุ
6.มีระบบตรวจสอบมาตรฐานร้านแฟรนไชส์
ปัญหาใหญ่ของร้านอาหารที่มีหลายสาขา คือ ถ้ามีสาขาใดสาขาหนึ่งทำเสียหาย เช่น รสชาติไม่อร่อย ไม่คงที่ บริการไม่ดี ผิดพลาดบ่อย จะส่งผลต่อชื่อเสียงของแบรนด์ทั้งหมด และย่อมส่งผลต่อร้านสาขาอื่นทุกสาขา สร้างความเสียหายให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ทุกคน ดังนั้น แฟรนไชส์ที่คุณเลือก ควรมีระบบตรวจสอบมาตรฐานร้านแฟรนไชส์ทุกสาขา เพื่อรักษามาตรฐาน และชื่อเสียงของแบรนด์ไว้
ทั้ง 6 ข้อนี้เป็น Checklist ที่ใช้งานไม่ยาก แต่ช่วยคุณได้มหาศาล คุณจะสามารถเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ได้ดีขึ้น ลดโอกาสการโดนหลอก และไม่ทำให้เงินลงทุนคุณสูญเปล่าโดยใช่เหตุ ลองนำไปปรับใช้กันดู
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.makrohorecaacademy.com