ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

โลโซโตเกียว แฟรนไชส์เพื่อคนหาเช้ากินค่ำ ลงทุนน้อยกำไรงาม


ใครที่ทำงานแล้วเงินไม่พอใช้ มีรายได้ไม่พอรายจ่าย มีภาระต้องดูแลมากมาย การลงทุนรูปแบบแฟรนไชส์ ถือเป็นอีกการเพิ่มรายได้ที่ทำได้ง่ายเพราะมีระบบบริหารจัดการมาตรฐาน มาช่วยให้เราพร้อมทำธุรกิจทันที โดยเฉพาะแฟรนไชส์อาหารที่มีโอกาสโตสูง แต่ถ้ามองถึงแฟรนไชส์อาหารลงทุนน้อย ทำง่าย ขายง่าย เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มอายุ และมีเมนูที่หลากหลาย โลโซโตเกียว ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

คุณมานะ ฮาดสุวรรณ ผู้บริหารแฟรนไชส์ โลโซโตเกียว เล่าย้อนไปถึงช่วงก่อนจะทำธุรกิจโลโซโตเกียว ว่าในอดีตทำอาชีพค้าขายเป็นคนหาเช้ากินค่ำแบบหลายคน บางเดือนรายได้ไม่พอกับภาระรายจ่าย จนก่อนจะมาทำธุรกิจขายขนมโตเกียว ช่วงนั้นต้องพยายามหาทางต่อสู้ดิ้นรน เพราะไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว เลยไปยืมเงินบังปล่อยกู้นอกระบบมา 1,000 บาท เพื่อนำไปลงทุนซื้อเตาปิ้งขนมโตเกียวมือสอง 700 บาท และไปลงทุนซื้อวัตถุดิบมาอีก 250 สำหรับทำขนมโตเกียวขาย เพราะก่อนหน้านั้นได้สูตรทำแป้งรสเด็ดมาจากเพื่อน

วันแรกขายได้กว่า 700 บาท ต่อมาไม่นานก็สามารถสร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน เลยยึดทำอาชีพนี้มาตลอด เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่ทำได้ง่าย เข้าถึงลูกค้ากลุ่มคนทั่วไปได้ดี และจากประสบการณ์เคยเป็นพ่อครัวมาก่อน จึงค่อยๆปรับสูตรแป้งเรื่อยมาจนได้แป้งที่มามาตรฐาน รสชาติคงที่ ซึ่งได้พัฒนามาเป็นรูปแบบแฟรนไชส์กว่า 10 ปีแล้ว ปัจจุบันมีทั้งหมดเกือบ 300 สาขา

แฟรนไชส์โลโซโตเกียว ไซส์มาตรฐานราคา 30,000 บาท ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้คีออส อุปกรณ์ครบเซ็ต พร้อมเปิดร้านขายได้เลย พร้อมการสอนเทคนิคการขาย สูตรทำไส้ สูตรซอสรูปแบบต่างๆ เมนูเด่นคือเบอร์เกอร์ไก่ ไก่สไปซี่ ไก่เทอริยากิ กุ้งเทมปุระ และเมนูเด่นอื่นอีกมากมายที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน โดยเราจะกำหนดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องซื้อแป้งจากเราอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนแพ็คเกจจิ้ง และวัตถุดิบอื่นๆ ผู้ซื้อแฟรนไชส์สามารถหาซื้อจากแหล่งค้าส่งใกล้บ้านได้เลย เนื่องจากเราต้องการช่วยลดต้นทุนให้กับแฟรนไชส์ซี เรามองแล้วว่าก่อนฐานธุรกิจแฟรนไชส์ของเราจะมั่งคง เข้มแข็ง แฟรนไชส์ซีต้องอยู่ได้ก่อน

ซึ่งเราเข้าใจดีว่าทุกคนอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีเงินทุน และโอกาสเท่ากัน เราเลยออกแพ็คเกจลงทุนน้อย เพียง 1,000 บาทขึ้นมา เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้สูตร และให้แป้ง 1 กิโลกรัม เอาไปทดลองขาย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราอยากให้คนทุนน้อยได้มีอาชีพ เช่นเดียวกันกับเราที่ได้โอกาสจากบังมา 1,000 บาท ในช่วงที่ชีวิตเจอวิกฤติปัญหา

คำว่าโลโซโตเกียว มาจากความคิดที่ต้องการสะท้อนถึงกลุ่มลูกค้าระดับรากหญ้า ให้ทุกคนเข้าถึงแบรนด์เราง่ายขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออาหารสตรีทฟู้ดสูง เรามีราคาขายปลีกตั้งแต่ชิ้นละ 3 – 7 – 10 – 15 บาท ไปจนถึงเมนูซุปเปอร์โตเกียวชิ้นละ 30 – 50 – 70 –100 – 150 – 200 บาท เรามองกลุ่มผู้ซื้อแฟรนไชส์ของเราเป็นกลุ่มหาเช้ากินค่ำ ที่ไม่มีเงินทุนมาก แต่อยากมีรายได้เสริมจากอาชีพอิสระที่ทำได้ง่าย พร้อมความหลากหลายให้ลูกค้าเลือกได้ไม่เบื่อกับกว่า 30 เมนู แต่เมนูเหล่านี้เราก็ไม่ได้ไปกำหนดว่าผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปจะต้องมาทำตามเราทั้งหมด

เราต้องการให้เขามีความคิดสร้างสรรค์เป็นของตัวเอง แต่ก็ต้องอยู่ภายในเงื่อนไขที่เรากำหนด คือ ห้ามก็อปปี้โลโก้ไปทำสาขาอื่นเองโดยไม่บอกก่อน เพราะจะส่งผลเสียต่อการวางทำเลขยายสาขา รวมถึงห้ามปรับสูตรแป้งเอง และห้ามรับสอนสูตรโดยไม่ขออนุญาต ส่วนอื่นๆ เราก็ปรับความยืดหยุ่นให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์สามารถใส่ความคิด ไอเดียของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เช่นถ้าคุณอยากปรับแต่งเมนูให้เข้ากับกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ของคุณก็สามารถทำได้ไม่จำกัด เพราะตัวผู้ขายเองจะรู้ดีที่สุดว่าเมนูไหนขายดี เมนูไหนน่าจะพัฒนาต่อไปได้ และเพื่อช่วยลดต้นทุนค่าสต็อกวัตถุดิบด้วย

หลังจากเราประสบความสำเร็จมาในระดับหนึ่ง จากเสียงสะท้อนกลับ พบว่าผู้ซื้อแฟรนไชส์ของเราไปมีอัตราการปิดกิจการ หรือคืนแฟรนไชส์น้อยมาก ไม่ถึง 10% ส่วนใหญ่จะเป็นการเรียกคืนแฟรนไชส์จากการผิดข้อตกลง แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ขยายสาขาเพิ่ม มากสุดกว่ารายละ 4 สาขา ซึ่งเราเห็นแล้วว่าธุรกิจนี้ สามารถช่วยให้คนทำธุรกิจลืมตาอ้าปากได้ เช่น ผ่อนรถหมดเร็วขึ้น หรือไม่เคยมีรถขับก็มี ไม่เคยมีบ้านก็มี รวมถึงสามารถส่งลูกเรียนจบปริญญาได้

 

สำหรับต้นทุนกำไรของแฟรนไชส์ซี เราจะแบ่งออกเป็นต้นทุนแต่ละวัน 40% ส่วนที่เหลือ 60% ขึ้นไปจะเป็นกำไร เพราะการขายขนมโตเกียวจะไม่มีต้นทุนสะสมมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับทำเลด้วย ซึ่งถ้าทำเลไม่ได้ถึงขั้นแย่หนัก โดยสถิติแล้ว ไม่เกิน 2 เดือน ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปก็สามารถคืนทุนได้ ซึ่งเราก็ได้ทำแผนการตลาดเพื่อสนับสนุนแฟรนไชส์ซีไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO บนกูเกิล เสิร์ช การทำโฆษณาบนเฟซบุ๊ก และการออกรายการต่างๆทั้งทางทีวี และยูทูป

แผนอนาคตเราต้องการขยายสาขาไปต่างประเทศ ซึ่งก็มีลาว บาห์เรน เฮลซิงกิ จากฟินแลนด์ ที่กำลังตกลงซื้อขายแฟรนไชส์กันอยู่ เราคิดโมเดลแฟรนไชส์นี้ขึ้นมา เพื่ออยากให้ทุกคนมีอาชีพมีรายได้เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรายได้หลักหรือรายได้รอง เพื่อให้สภาพคล่องทางการเงินของคนหาเช้ากินค่ำดีขึ้น ซึ่งได้นำประสบการณ์ และการเรียนรู้หลักการทำธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งหมด มาพัฒนาแบรนด์ให้ดีที่สุด จนเป็นที่ไว้วางใจ นอกจากนั้น เรายังเป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจต่างๆกว่า 30 แบรนด์ เช่น แบรนด์ขนมปัง ซาลาเปา เอแคลร์ และอื่นๆ

โลโซโตเกียว เด่นที่แป้ง เด็ดที่ไส้ ใส่ใจทุกรายละเอียด
มานะ ฮาดสุวรรณ (โลโซ โตเกียวแฟรนไชส์)
20 ซอย.สุขสวัสดิ์42
ถนน.สุขสวัสดิ์แขวง .บางปะกอก
เขต .ราฎบูระณะกทม.10140
T: 088-006-2562 T:065-698-8885
[email protected]

www.losotokyo.com