โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

เปิด “ร้านเสริมสวย” ไม่ยาก กับ 9 หลักการ “คำนึง” หากทำได้ มองขาด ธุรกิจฉลุยแน่

ธุรกิจร้านเสริมสวย เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความนิยมตลอดกาล ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขึ้นหรือลง หรือมีกระแสแรงขนาดไหน นั่นเพราะพฤติกรรมของผู้หญิงที่มีความรักสวยรักงามเป็นทุนเดิม ดังนั้น จะเห็นว่าไม่ว่าจะเดินทางผ่านไปในย่านไหน เรามักจะเห็นร้านเสริมสวยขนาดเล็กถึงใหญ่เปิดอยู่ทั่วไป

นอกจากนี้ ปัจจุบันร้านเสริมสวยไม่ได้เปิดเฉพาะแค่บริการตัดผม สระ ซอยหรือไดร์เท่านั้น บางร้านยังมีบริการแต่งหน้า ทำเล็บ สปา หรือนวดแผนไทยอีกด้วย เรียกว่า จะสวยทั้งทีก็เอาให้ครบวงจรกันไปเลย

อย่างที่บอกว่าการจะเปิดร้านเสริมสวยนั้น ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ จะไปเปิดกันได้ง่ายๆ เพราะใช่ว่าแต่ละคนจะประสบความสำเร็จ ซึ่งวันนี้ ชี้ช่องรวย ได้ไปเจอเนื้อหาดีๆ บทหนึ่งสำหรับการเปิดร้านเสริมสวยให้ประสบความสำเร็จ เพราะการจะทำธุรกิจใดๆ สักอย่างนั้น ควรจะต้องศึกษา พินิจพิเคราะห์ให้รอบคอบถ่องแท้เสียก่อน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง ซึ่งสิ่งที่จะต้องพิจารณา มีดังนี้

1.ทำเล

แน่นอนว่าสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกก็คือ ทำเล เพราะการทำธุรกิจนี้ ทำเล ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะต้องอยู่ในบริเวณหรือพื้นที่ที่มีคนสัญจรพลุกพล่านไปมา และสามารถมองเห็นร้านได้ โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง การหาทำเลที่ตั้งร้านจึงต้องอยู่ใกล้กับชุมชน เช่น หมู่บ้าน สถานที่ทำงาน หรือมหาวิทยาลัย ยิ่งตรงไหนมีคนเยอะๆ ยิ่งดี

2.เงินลงทุน

เงินลงทุน เป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้การหาทำเล เพราะถึงแม้จะมีเงินลงทุนก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถหาทำเลที่ตั้งดีๆ ในการเปิดร้านเสริมสวยได้ ควรใช้เงินสดที่ไม่ใช่มาจากการกู้ยืมเด็ดขาด เพราะการกู้ยืมนอกจากจะมีดอกเบี้ยแล้ว การนำมาใช้ลงทุนทำธุรกิจที่ยังไม่ทำให้เงินงอกเงยจะทำให้เราลำบากในภายหลัง การกู้ยืมเงินจะเป็นการเพิ่มภาระตั้งแต่แรก โดยการใช้เงินลงทุนร้านเสริมสวยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ

2.1เงินลงทุนส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการตกแต่งอาคาร สถานที่ เก้าอี้โซฟา เคาน์เตอร์กระจก และอุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ

2.2 เงินลงทุนอีกจำนวนหนึ่งนำไปซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในร้าน เช่น เครื่องอบไอน้ำ เครื่องอบผม ไดร์เป่าผม กรรไกรตัดผม แบตเตอร์เลี่ยน ฯลฯ เป็นต้น

2.3 เงินอีกก้อนใช้เป็นเงินลงทุนในการซื้อสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป เช่น แชมพูและครีมนวดผม ยาทำเล็บ ฯลฯ เป็นต้น

2.4 และก้อนสุดท้าย เป็นเงินค่าจ้างเงินเดือนของลูกจ้าง ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ เป็นต้น
ซึ่งผลตอบแทนของการทำธุรกิจเสริมสวยจะขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน ทำเลที่ตั้ง และความสามารถในการบริหารร้าน

3.ช่างเสริมสวย

เมื่อมีร้านเสริมสวย ก็ต้องมีช่างเสริมสวย ซึ่งต้องดูว่าร้านเรามีคนมาใช้บริการซ้ำหรือไม่ หรือมีใครเป็นลูกค้าประจำเราบ้าง ทั้งนี้ การที่จะมีลูกค้าประจำบางครั้งก็อยู่ที่ช่างเสริมสวยด้วย ซึ่งช่างเสริมสวยมืออาชีพจะต้องผ่านการฝึกอบรม มีประสบการณ์และผ่านงานด้านนี้มา ซึ่งเจ้าของร้านควรจ้างช่างทำผมที่มีประสบการณ์ หรือหากเจ้าของร้านไม่มีความสามารถด้านงานเสริมสวยเลย ยิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะต้องจ้างช่างเสริมสวนมากฝีมือ และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการบริการลูกค้า โดยจ่ายค่าจ้างที่เหมาะสม เพราะช่างฝีมือดีจะช่วยเรียกลูกค้าให้คุณอีกต่อหนึ่งด้วย

4.ขายสินค้าเพิ่ม

การทำร้านเสริมสวย ถ้าต้องการเพิ่มรายได้จากการให้บริการทางด้านการเสริมสวยแล้ว การขายสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเสริมสวย ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เช่น ครีมนวดผมที่ทางร้านใช้หรือสมุนไพรรักษาผมร่วง หรือครีมทาเล็บ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำผม หรือทำเล็บ เช่น ครีมบำรุงผิว ครีมนวดสลายไขมัน เป็นต้น

5.คุณภาพร้าน

การรักษามาตรฐาน และคุณภาพในร้านเสริมสวย ถ้าร้านเราจ้างช่างเสริมสวยหน้าใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ หรือมีประสบการณ์น้อย เราควรจะมีการฝึกอบรมช่างเสริมสวยโดยการส่งไปฝึกอบรมกับผู้เชี่ยวชาญด้านผมโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับช่าง ให้ช่างทุกคนทำงานได้อย่างมีมาตรฐานและมีคุณภาพ และอุปกรณ์ในร้านที่ใช้ก็ต้องเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดี เช่น ยาสระผม ยาดัดผม ยาทำเล็บ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาระดับความน่าเชื่อถือ และน่าเข้าใช้บริการให้กดับร้านเสริมสวยของเรา

6.บริการที่ดี

ธุรกิจร้านเสริมสวยเป็นงานบริการ ดังนั้นการให้ความสำคัญกับการบริการที่ดีแก่ลูกค้าจึงเป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่ และให้ความสำคัญอย่างยิ่ง หากมีการบริการที่ดีก็จะทำให้ร้านเสริมสวยมีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพราะบริการเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ ดังนั้น การเปิดธุรกิจนี้จะต้องมีใจรักในการบริการด้วย

7.การตกแต่งร้าน

การตกแต่งร้านสำหรับร้านเสริมสวย ก็เป็นอีกเรื่องที่เราต้องศึกษา เพราะการตกแต่งและสร้างบรรยากาศร้าน เป็นแรงดึงดูดที่ทำให้ลูกค้าเข้ามาเข้ามายังร้านเพื่อรับบริการ ดังนั้น จึงควรตกแต่งร้านด้วยการทาสี ดิดวอลล์เปเปอร์หรือการตกแต่งให้โล่งโปร่ง สีสันสบายตา วางสิ่งของในการให้บริการอย่างเป็นระเบียบ หรือบางคนอาจจะจ้างซินแสมาจัดวางฮวงจุ้ย ซึ่งก็แล้วแต่งบประมาณของแต่ละท่าน ว่ามีงบในการจัดร้านมากน้อยเพียงใด

8.ความสะอาด

ความสะอาดของร้านเสริมสวย เป็นอีกเรื่องที่ควรรู้อย่างยิ่ง เพราะความสะอาดภายในร้านเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าร้านนั้นให้ความสำคัญและใส่ใจเรื่องความสะอาดในการบริการมากน้อยเพียงใด ซึ่งลูกค้าคนไหนๆ ก็ย่อมต้องการความสะอาดในการบริการและปลอดภัย ดังนั้น การเปิดธุรกิจร้านเสริมสวยจึงควรทำความสะอาดร้าน เครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆ และต้องแช่น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพราะในร้านเสริมสวยมีผู้ใช้บริการนับไม่ถ้วน การใช้สิ่งของร่วมกันจึงควรให้ความสำคัญในการล้างทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า

9.ความพึงพอใจ

การเปิดร้านเสริมสวย ไม่ใช่ว่ามีช่างที่ดี อยู่ในทำเลที่ผู้คนพลุกพล่าน หรือมีร้านสวย อุปกรณ์ครบและสะอาดแล้วเท่านั้น ความพึงพอใจของลูกค้าที่มาใช้บริการก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ยิ่งถ้าลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ ก็จะยิ่งเป็นการตอกย้ำความพึงพอใจในการให้บริการของเราว่ามีมากน้อยเพียงใด การเปิดร้านเสริมสวยจึงต้องมีการบริการเป็นอย่างดี เพื่อสร้างความประทับใจและพึงพอใจให้กับลูกค้าเสมอ

สรุปแล้วก็คือ การที่เราลงมือทำธุรกิจร้านเสริมสวย เราควรต้องมีการเตรียมการเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็น เงินลงทุน ทำเล การตกแต่งร้าน การมีช่างเสริมสวย ต้องศึกษาให้พร้อม เพื่อให้ธุรกิจของเราสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่และทั่วถึง เพราะธุรกิจนี้เป็นธุรกิจในด้านการบริการ ดังนั้น จะต้องทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด เป็นเรื่องที่เราจะต้องใส่ใจ ที่สำคัญการไม่หยุดพัฒนาและปรับปรุงร้านและบริการอย่างต่อเนื่องก็จะยิ่งทำให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าไปต่อได้อย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Millionaire Academy