ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ธุรกิจประกันชีวิตทั้งปี 2562 ยังชะลอตัว แม้ภาพในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น


ธุรกิจประกันชีวิตช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง แม้ในช่วงครึ่งปีหลังได้คาดการณ์ไว้ว่าจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินเบี้ยประกันชีวิตรับรวมในงวดครึ่งแรกปี 2562 หดตัว -6.1% ต่อปี ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มธุรกิจมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งแรก แต่ไม่เพียงพอที่จะฉุดให้ภาพรวมธุรกิจทั้งปีกลับสู่แดนบวกได้ โดยคาดว่ากรอบเบี้ยรับรวมทั้งปี 2562 อาจจะประคองระดับทรงตัวหรือหดตัวลงที่ -3.0% ซึ่งจะเป็นการถดถอยครั้งแรกในรอบทศวรรษ เนื่องจากมีปัจจัยเฉพาะชั่วคราวที่ฉุดภาพธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้ให้หดตัวลง ซึ่งหากผ่านช่วงเวลาปรับฐานดังกล่าวไปแล้ว คงช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อภาพรวมธุรกิจในระยะข้างหน้าได้

ทั้งนี้ ธุรกิจประกันชีวิตกำลังอยู่ในช่วงปรับตัวจากความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งมาตรฐานบัญชีใหม่ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจประกันชีวิต ทำให้ธุรกิจประกันยังต้องบริหารจัดการต้นทุนด้วยความระมัดระวัง

โดย เบี้ยประกันชีวิตรับรวมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 มีจำนวน 2.95 แสนล้านบาท หรือหดตัวลง -6.1% ต่อปี นับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบทศวรรษ จากผลของกรมธรรม์เดิมครบกำหนดชำระเบี้ยจำนวนมาก และนโยบายชะลอการขายประกันรายใหม่ประเภทจ่ายเบี้ยครั้งเดียว (Single Premium: SP)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมเบี้ยประกันรับรวมทั้งปี น่าจะหดตัวลงเล็กน้อยที่ -2.0% (โดยมีกรอบคาดการณ์ที่ 0 ถึง -3.0%) เทียบกับที่หดตัวลง -6.1% ต่อปีในช่วงครึ่งแรก โดยในช่วงครึ่งปีหลังผลลบจากการครบกำหนดชำระเบี้ยของกรมธรรม์เดิมจะทยอยลดลงกว่าครึ่งปีแรก นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังมองอีกว่า
-เบี้ยรับรายใหม่ (New Business) คงมีแรงหนุนบางส่วนจากปัจจัยด้านฤดูกาลขาย ทำให้ภาพรวมเบี้ยรายใหม่ในปีนี้หดตัวน้อยลงมาที่ประมาณ -2.0% ถึง -5.0% เนื่องจากยังถูกถ่วงจากความระมัดระวังในการขายกรมธรรม์ใหม่ประเภทจ่ายครั้งเดียว
-กรมธรรม์ประเภทจ่ายครั้งเดียว หรือ Single Premium (SP) เคยเป็นกลยุทธ์ยอดนิยมของธุรกิจประกันชีวิตในช่วงหลายปีก่อนหน้า โดยเฉพาะเมื่อต้องการเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งตลาดในจังหวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น หรือในภาวะที่เผชิญการสู้ราคากับผลิตภัณฑ์การออมอื่นๆ ที่รุนแรง

ขณะที่ ยอดเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ขายผ่านช่องทางธนาคาร (Bancassurance) มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ผ่านการปรับตัวของของพันธมิตรทางธุรกิจ หรือบริษัทแม่ที่เป็นธนาคารพาณิชย์ เพราะหากจำแนกธุรกิจประกันชีวิตแบ่งตามช่องทางการขายบริษัทออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พึ่งช่องทางการขายผ่านตัวแทนเป็นหลัก กับกลุ่มที่พึ่งช่องทางการขายผ่านธนาคาร ซึ่งได้แก่บริษัทประกันในเครือธนาคารนั้น จะพบว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทที่เน้นขายผ่านตัวแทนเป็นหลัก มีเบี้ยรวมที่ขยายตัวเป็นบวกที่เฉลี่ย 8.6% ต่อปี ขณะที่กลุ่มที่เหลือมีเบี้ยรับรวมหดตัวลงค่อนข้างแรงเฉลี่ยที่ -16.5% ต่อปี ตามการชะลอลงของเบี้ยรับรวมทั้งในองค์ประกอบของเบี้ยต่ออายุและเบี้ยใหม่ที่ถูกกระทบจากการลดการขายผลิตภัณฑ์เบี้ยจ่ายครั้งเดียว ดังที่ได้กล่าวแล้วก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม มองไปในช่วงที่เหลือของปี คาดว่า เบี้ยรับรวมจากการขายหลักผ่านช่องทางธนาคาร มีโอกาสกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ ทำให้ทั้งปี 2562 เบี้ยรับรวมผ่านช่องทางดังกล่าวจะหดตัวน้อยลงที่ -10.0 % (เทียบกับครึ่งปีแรกที่หดตัว -15.9%)

สำหรับการเพิ่มบทบาทของช่องทางขายใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ อาจยังมีผลต่อธุรกิจประกันไม่มากนัก เนื่องจากความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ที่ยังต้องอาศัยตัวแทนในการแจกแจงให้ข้อมูล ดังเห็นได้จากสัดส่วนเบี้ยรับรวมจากช่องทางการขายอื่นที่รวมออนไลน์ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% โดยธรรมชาติของผลิตภัณฑ์ประกันมีรายละเอียดมากและเข้าใจยาก ทั้งในมิติของทุนประกัน ความคุ้มครอง และเบี้ยประกันที่ลูกค้าต้องจ่ายจริงในแต่ละปี อีกทั้งเทียบเคียงระหว่างบริษัทได้ยาก ทำให้ ณ ขณะนี้ การพัฒนาช่องทางออนไลน์ของธุรกิจประกันชีวิตจึงยังเป็นได้เพียงช่องทางให้ข้อมูลมากกว่าที่จะสามารถปิดการขายได้ (Complete Sales) ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทประกันชีวิตที่เสนอขายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งกระบวนการเพียงไม่กี่รายและยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น

ธุรกิจประกันยังเน้นชูสัญญาเพิ่มเติมด้านประกันสุขภาพ เพื่อหวังกระตุ้นการซื้อกรมธรรม์หลักใหม่

ท่ามกลางโอกาสการเติบโตที่จำกัดของผลิตภัณฑ์ประกันสัญญาหลัก ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทประกันต่างหันมารุกตลาดผลิตภัณฑ์ประกันทางเลือก อาทิ กรมธรรม์ยูนิตลิงก์ (มีสัดส่วน 5.7% ต่อเบี้ยรวมปี 2561) และยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (สัดส่วน 0.3%) อย่างไรก็ตาม ด้วยผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ในตลาดเงินและตลาดทุนที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในปีนี้ ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก และผลของปัจจัยด้านฐานที่ปีก่อนขยายสูงด้วยการผลักดันยอดเบี้ยจ่ายครั้งเดียวของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ทำให้ในปีนี้กรมธรรม์ยูนิตลิงก์และยูนิเวอร์แซลไลฟ์ประสบภาวะหดตัวตามสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย