ในบ้านเราขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องของอาหารการกิน เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของคนทั้งโลกเลยก็ว่าได้ และ “กล้วย” ก็เป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกที่สำคัญ และคนไทยก็รู้จักมาช้านาน จุดเด่นของกล้วยไทยอยู่ที่รสชาติที่มีความหอมหวาน และมีหลายสายพันธุ์ให้เลือกเพาะปลูก จึงเป็นที่นิยมของตลาดต่างชาติ ทำให้ยอดการส่งออกกล้วยในแต่ละปีสร้างเม็ดเงินกลับเข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมาก
และหากช่วงไหน “กล้วย” เกิดล้นตลาด เกินความต้องการที่จะบริโภค เราก็สามารถแปรรูปกล้วยให้ออกมาเป็นหลากหลายเมนู ชี้ช่องรวย จึงขอแนะนำสูตรการแปรรูปกล้วยสำหรับไว้ทานเล่นกันที่บ้าน หรือพลิกแพลงประยุกต์ทำขายสร้างรายกลับเข้ากระเป๋าเรา เราไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
1.กล้วยฉาบเคลือบคาราเมล
ส่วนผสม กล้วยฉาบเคลือบคาราเมล
1.กล้วยน้ำว้าดิบ 24 ลูก
2.น้ำเย็นผสมน้ำมะนาวเล็กน้อย (สำหรับแช่กล้วย)
3.น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 80 กรัม
4.แบะแซ 2 ช้อนชา
5.วิปครีมชนิดจืด 50 กรัม
6.เนยสดชนิดเค็ม 30 กรัม
7.เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุก 200 กรัม
8.น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
วิธีทำกล้วยฉาบเคลือบคาราเมล
1.นำกล้วยน้ำว้ามาปอกเปลือก แล้วแช่ลงในน้ำเย็นผสมน้ำมะนาว (เพื่อไม่ให้กล้วยเปลี่ยนสี) พักไว้
2.ฝานกล้วยเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วม้วนให้เป็นแท่งกลม วางเรียงใส่ถาด พักไว้ให้กล้วยหมาด ๆ
3.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่กล้วยลงทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
4.ใส่น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี แบะแซ วิปครีม และเนยสดลงในภาชนะ ยกขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวจนส่วนผสมมีลักษณะข้น
5.ใส่กล้วยทอดกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป คลุกเคล้าเบา ๆ จนเข้ากันดี ยกลง พักไว้ให้เย็นสนิท บรรจุใส่ภาชนะ
2.กล้วยฉาบ
ส่วนผสม กล้วยฉาบ
1.กล้วยหอมดิบ 1 หวี
2.น้ำปูนใส (สำหรับแช่กล้วย)
3.น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
4.น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
6.เนยสดเค็ม 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำกล้วยฉาบ
1.ปอกเปลือกกล้วยแล้วฝานตามความยาว นำไปแช่น้ำปูนใส ประมาณ 15 นาที เพื่อให้ยางกล้วยออกมา
2.ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปกะพอให้ท่วมกล้วย ใส่กล้วยลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันและพักบนตะแกรง
3.ใส่น้ำกับน้ำตาลทรายลงในกระทะ เคี่ยวจนน้ำตาลละลายและเหนียวข้น ใส่เนยเค็มลงไป คนให้เข้ากัน ปรับไฟให้อ่อนสุด เทกล้วยทอดกรอบลงไป คลุกจนเข้ากัน ปิดไฟ พักไว้สักครู่ นำใส่ภาชนะ
3.กล้วยอบกรอบ
ส่วนผสม กล้วยอบกรอบ
1.กล้วยหอมดิบ
2.เกลือป่น 3/4 ช้อนชา
3.น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
วิธีทำกล้วยอบกรอบ
1.ปอกเปลือกกล้วยแล้วหั่นแว่น หนาประมาณ 1 มิลลิเมตร
2.ผสมเกลือกับน้ำ คนจนเกลือละลาย เตรียมไว้
3.ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปกะพอท่วมกล้วย พอร้อนแบ่งกล้วยลงไปทอด พอกล้วยเริ่มลอยขึ้นมา ใส่น้ำเกลือลงไปประมาณ 1 ช้อนชา ทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้สะเด็ดน้ำมัน ทอดจนกว่ากล้วยจะหมด พอเย็นลงแล้วก็จัดเสิร์ฟ หรือเก็บใส่ภาชนะ
4.กล้วยตาก
ส่วนผสม กล้วยตาก
1.กล้วยน้ำว้า
2.เกลือป่น
3.น้ำ
วิธีทำกล้วยตาก
1.ปอกเปลือกกล้วยออก เรียงลงบนตะแกรง นำไปตากแดดประมาณ 5 วัน หรือจนกล้วยเกือบแห้งสนิท และหมั่นคอยพลิกกลับด้านอยู่เสมอ
2.ก่อนนำกล้วยไปตากแดดในวันที่ 6 ให้ละลายน้ำกับเกลือให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นใช้ขวดน้ำคลึงหรือกดกล้วยให้แบน แล้วนำกล้วยลงไปล้างในน้ำเกลือที่เตรียมไว้ จากนั้นนำกล้วยวางเรียงบนตะแกรง นำไปตากแดดอีก 1-2 วัน จนกล้วยแห้งได้ที่
3.เมื่อกล้วยแห้งได้ที่แล้ว ใส่กล้วยลงในหม้อ ปิดฝาให้สนิท วางทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้น้ำตาลจากกล้วยซึมออกมา (กล้วยจะเงาและไม่แห้ง) จากนั้นเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด พร้อมเสิร์ฟ
5.พัฟกล้วยเชื่อม
ส่วนผสม พัฟกล้วยเชื่อม
1.กล้วยน้ำว้าเชื่อม 350 กรัม
2.แป้งพัฟเพสตรีสำเร็จรูป 500 กรัม (แป้งพายชั้น)
3.ไข่ไก่ตีพอแตก 1 ฟอง
4.น้ำตาลไอซิ่ง (สำหรับโรย)
5.น้ำเปล่า
6.พิมพ์กดรูปวงกลมขอบหยัก (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว)
ส่วนผสม กล้วยเชื่อม
1.กล้วยน้ำว้าสุกห่าม 15 ลูก
2.น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
3.น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 100 กรัม
4.น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง
5.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำเปล่าผสมเกลือป่น สำหรับแช่กล้วย
วิธีทำกล้วยเชื่อม
1.ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าหั่นเป็นชิ้น ใส่ลงในน้ำเกลือ แช่พักไว้
2.ใส่น้ำเปล่า น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทราย ลงในภาชนะ ตั้งไฟพอเดือด
3.ใส่กล้วยน้ำว้า น้ำมะนาว รอให้เดือดคอยช้อนฟองทิ้งจนหมด เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน 2-3 ชั่วโมงหรือจนกล้วยเป็นสีแดง มีลักษณะมันเงาจากตัวน้ำเชื่อมที่เคลือบกล้วย ยกลงพักไว้ให้เย็นสนิท
วิธีทำพัฟกล้วยเชื่อม
1.หั่นกล้วยน้ำว้าเชื่อม เป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้
2.ใช้ไม้คลึงแป้งรีดแป้งพัฟเพสตรี ให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมโดยให้มีความหนาประมาณ 1/4 เซนติเมตร
3.ใช้พิมพ์กดแป้งให้หมด
4.ตักกล้วยน้ำว้าเชื่อมลงตรงกลางแผ่นแป้ง ทาขอบแป้งด้วยน้ำเปล่า จากนั้นประกบแป้งปิดให้สนิท
5.วางเรียงใส่ถาดอบที่ทาเนยขาว แล้วทาไข่ไก่บนหน้าขนมบาง ๆ จนทั่ว นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 325 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 20-30 นาทีหรือจนสุกเหลือง นำออกจากเตาอบ แซะออกจากถาด พักไว้ ให้คลายความร้อน โรยน้ำตาลไอซิ่ง จัดเสิร์ฟ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : cooking.kapook.com