ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

“ออริจิ้น” ร่วมทุน “กลุ่มดุสิตธานี” ปั้นคอนโดไฮเอนด์ “The Hampton Sriracha” รุกท่องเที่ยวแถบ EEC โต


ถือเป็นอีกสถานการณ์ที่น่าจับตามอง เมื่อบริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่นาม “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ประกาศจับมือร่วมทุนกับ “กลุ่มดุสิตธานี” ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ใจกลางศรีราชา ภายใต้ชื่อ “The Hampton Sriracha by Origin and Dusit” ที่มีมูลค่าโครงการสูงถึง 1,400 ล้านบาท โดยการจับมือกันระหว่าง 2 ค่ายนี้เพื่อหวังต่อยอดและรองรับโอกาสการเติบโตของการลงทุนและการท่องเที่ยวแถบ EEC พร้อมทั้งชูจุดเด่นโครงการด้วยความหรูหราในที่อยู่อาศัย และบริการเสริมแบบครบวงจร หรือ Service on Demand พร้อมเปิดพรีเซล พ.ย.นี้ ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับกลุ่มดุสิตธานี ครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงการร่วมทุน หรือ Joint Venture Project ร่วมกันครั้งแรกในสัดส่วน 51 ต่อ 49 ภายใต้ชื่อ “เดอะ แฮมป์ตัน ศรีราชา บาย ออริจิ้น แอนด์ ดุสิต” (The Hampton Sriracha by Origin and Dusit) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ 26 ชั้น 1 อาคาร แบ่งเป็นยูนิตพักอาศัย 468 ยูนิต และยูนิตเพื่อการพาณิชย์ 3 ยูนิต บริเวณตรงข้ามตึกคอม ใจกลาง ศรีราชา มูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท

พีระพงศ์ยังกล่าวด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายต่างมองเห็นศักยภาพของพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ว่าจะมีทั้งเมกะโปรเจ็คท์และเม็ดเงินลงทุนสะพัดมหาศาล มีนักลงทุนเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก รวมถึงมีการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ปีละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ด้วยความแข็งแกร่งของทั้งคู่ และวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันในการพัฒนาโครงการคุณภาพควบคู่ไปกับการบริการเหนือระดับ จึงตัดสินใจร่วมทุนกันในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเติมเต็มความต้องการที่อยู่อาศัยที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลใน EEC

ทั้งนี้ ศรีราชา ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพที่สุดอีกแห่งหนึ่งใน EEC เนื่องจากมีทั้งนิคมอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่น นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมที่กำลังจะพัฒนาขึ้นใหม่อีกจำนวนมาก อยู่ใกล้แหล่งโลจิสติกส์ระหว่างประเทศที่กำลังจะพัฒนาขึ้นอย่างท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล หรือ ดิจิทัล พาร์ค ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นเมกะโปรเจ็คท์และแลนด์มาร์คใหม่ของบริษัทด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพในไทยและภูมิภาคบนพื้นที่กว่า 700 ไร่

ทางด้าน ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กลุ่มดุสิตธานีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผนึกความร่วมมือกับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เหตุผลที่กลุ่มดุสิตธานีตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ เนื่องจากดุสิตมีการกำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนก่อนแล้วว่าจะขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่สอดคล้องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ ซึ่งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นหนึ่งในแผนที่วางไว้ โดยมองเห็นถึงโอกาสและศักยภาพการเติบโตของตลาดในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลสนับสนุน อันจะเป็นเหตุในการดึงดูดทั้งแหล่งเงินทุน และนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โครงการ เดอะ แฮมป์ตัน ศรีราชา บาย ออริจิ้น แอนด์ ดุสิต จึงเป็นโครงการที่ดุสิตคิดว่ามีความเหมาะสมที่จะร่วมทุนในจังหวะเวลานี้ นอกจากจะเป็นการขยายธุรกิจของดุสิตในการกระจายความเสี่ยงแล้ว ยังเป็นโครงการที่จะสร้างความสมดุลในการเกิดรายได้ และผลตอบแทนในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย

สำหรับ โครงการ เดอะ แฮมป์ตัน ศรีราชา บาย ออริจิ้น แอนด์ ดุสิต (The Hampton Sriracha by Origin and Dusit) ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ บริเวณตรงข้ามตึกคอม ใจกลางศรีราชา โดดเด่นด้วยจุดเด่น 3 ด้าน ได้แก่ 1.ทำเล (Location) ห่างจากสถานีรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สถานีศรีราชาเพียง 3 นาที และอยู่ห่างจากนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังเพียง 10 กิโลเมตร 2.ความหรูหรา (Luxury) พัฒนาโครงการสไตล์ Modern Classic โดยใส่ใจเรื่องทัศนียภาพ ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมองเห็นวิวทั้งภูเขา เมือง และทะเล ได้อย่างเต็มอิ่ม สร้างการอยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หลากหลายด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ทั้งการออกกำลังกาย การพักผ่อน การปลดปล่อยอารมณ์ อาทิ Wine & Cigar Bar, Sky Lounge 3.การบริการ (Service) ผสมผสานคอนโดระดับลักชัวรี่เข้ากับบริการ Service on Demand ที่ได้มาตรฐานแบบครบวงจร เพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับให้กับชีวิต

ตัวโครงการจะมุ่งเจาะตลาดกลุ่มผู้บริหาร ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว สตาร์ทอัพ ตลอดจนชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนและทำงานในพื้นที่ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4/2562 และก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/2564 โดยจะเปิดพรีเซลในเดือน พ.ย.นี้ ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท และจะมีการเปิดเผยข้อมูลตัวเต็มของโครงการ เร็วๆ นี้

ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 65 โครงการ เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) ดิ ออริจิ้น (The Origin) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 103,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแถบ EEC อย่างต่อเนื่อง

โดยมีโครงการที่พัฒนาในศรีราชาและระยองมาแล้วหลายโครงการ ได้แก่ 1.โครงการมิกซ์ยูสออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา 2.โครงการคอนโดมิเนียมไนท์บริดจ์ ดิ โอเชียน ศรีราชา 3.โครงการมิกซ์ยูสออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง รวมมูลค่าโครงการในแถบ EEC เกือบ 2 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC หรือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2491 กลุ่มดุสิตธานี ถือเป็นผู้นำด้านการให้บริการโรงแรมและการบริหารจัดการโรงแรมทั้งในประเทศไทยและในระดับสากล มีกลุ่มธุรกิจหลักอยู่ 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.ธุรกิจโรงแรม 2.ธุรกิจการศึกษา 3.ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 4.ธุรกิจอาหาร และ 5.ธุรกิจอื่นๆ

สำหรับกลุ่มธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทของดุสิต ประกอบไปด้วย 4 แบรนด์ คือ ดุสิตธานี ดุสิตดีทู ดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตเดวาราณา ปัจจุบัน บริหารโรงแรมและรีสอร์ททั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 33 แห่ง โดยบริษัท ยังคงมีแผนในการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 มีรายได้รวมทุกกลุ่มธุรกิจอยู่ที่ 5,560 ล้านบาท