ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

แนะ 6 สูตร ขนมทำง่าย ทำกินก็ได้ ทำขาย ลงทุนน้อย ได้กำไรแน่นอน


ชี้ช่องรวย วันนี้ขอแนะนำสูตร “ขนมทำง่าย” ที่ลงทุนน้อย ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ทำขายที่ไหนก็ขายได้ โดยเฉพาะตามแหล่งชุมชน ตลาดนัด หน้าสถานศึกษา หรือสถานที่ราชการ ที่รับรองว่าขายได้กำไรแน่นอนมาฝากกันดังนี้ค่ะ

1.ขนมบ้าบิ่น

วัตถุดิบทำขนมบ้าบิ่น

1.มะพร้าวสดขูดหยาบๆ 1 ถ้วยตวง

2.แป้งข้าวเหนียว 3/4 ถ้วยตวง

3.แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง

4.น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง

5.ไข่ไก่ 1 ฟอง

6.หัวกะทิ 1/4 ถ้วยตวง

ขั้นตอนการทำขนมบ้าบิ่น

1. ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งมัน มะพร้าวทึนทึก น้ำตาลทราย เข้าด้วยกัน

2. ใส่หัวกะทิทีละน้อย นวดให้เข้ากัน ประมาณ 5 นาที ใส่กะทิที่เหลือให้หมด

3. ใส่น้ำตาลทราย ไข่ไก่

4. นำกระทะแบนวางบนเตา ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ร้อนแล้วตักขนมหยอด 1 ช้อนโต๊ะ กดให้แบนเล็กน้อย สุกเหลืองแล้วกลับอีกด้าน ให้สุกเหลืองทั้งสองด้าน…!!

2.ขนมโตเกียว

วัตถุดิบและส่วนผสม

1.แป้งสาลีอเนกประสงค์ 60 กรัม

2.ไข่ไก่ 1 ฟอง

3.เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะ

4.ผงฟู 1/2 ช้อนโต๊ะ

5.น้ำเปล่าหรือน้ำปูนใส 40ml

6.น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ

7.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงสำหรับทำไส้

1.รากผักชี

2.กระเทียม

3.ไส้กรอกหมู

4.ไส้หมูผัดให้สุก

5.หมูสับ

6.ซอสหอยนางรม

วิธีการทำขนมโตเกียว

1.ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ 60 กรัม ลงไปในหม้อ และตามด้วยเบกกิ้งโซดาประมาณครึ่งช้อน

2.ใส่ผงฟูประมาณครึ่งช้อน ตามด้วยน้ำตาลทราย 1 ช้อน

3.ตอกไข่ไก่ลงไป 1 ฟอง ตามด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำปูนใส 40 ml

4.ใส่น้ำผึ้งลงไป 1 – 2 ช้อน จากนั้นตีให้เข้ากัน

ขั้นตอนการทำไส้หมูผัด

1.ใส่รากผักชี กระเทียมโขลกละเอียดลงไปผัดในกระทะ ตามด้วยหมูสับ จากนั้นปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม

2.นำไส้กรอกหมู ลงไปผัดให้พอร้อน ๆ

3.ตั้งกระทะโดยใช้ไฟอ่อน ๆ ตักแป้งมาหยอดลงกระทะประมาณครึ่งทัพพี ละเลงเป็นรูปวงรี

4.นำแป้งส่วนนึงใส่ถุงพลาสติกใส ใช้กรรไกรตัดปลายนิดนึง สำหรับบีบเป็นเส้น ๆ พอแป้งเริ่มมีฟองอากาศหยาบๆ แสดงว่าแป้งเริ่มสุกแล้ว
4.ใส่หมูสับ และฮอทด็อกที่เตรียมไว้ลงไป จากนั้นม้วนจากฮอทด็อกขึ้นไปหาหมูสับ
ก็เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับการทำขนมโตเกียว แป้งกรอบ ๆ ที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ และยังทำขายเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลที่มาสูตรและภาพ

http://www.kingsmes.com/2016/01/free-recipe-67.html

3.ขนมครกชาววัง

ส่วนผสมการทำแป้งขนมครก

1.แป้งข้าวเจ้า ใช้ประมาณ 2 1/2 ถ้วยตวง

2.ข้าวหอมมะลิหุงสุกประมาณ 1/2 ถ้วยตวง

3.น้ำตาลทรายประมาณ 1/4 ถ้วยตวง

4.น้ำปูนใสประมาณ 1/2 ถ้วย

5.หัวกะทิประมาณ 1 1/2 ถ้วย

6.หางกะทิประมาณ 1 1/2 ถ้วย

7.เกลือเล็กน้อยประมาณ 2 ช้อนชา

ส่วนผสมการทำหน้าขนมครก

1.หัวกะทิประมาณ 1 ถ้วย

2.หางกะทิประมาณ 1/2 ถ้วย

3.น้ำตาลทรายประมาณ 1/4 ถ้วย

4.เกลือประมาณ 2 ช้อนชา

วิธีทำแป้งขนมครก

-ขั้นตอนแรกเราจะมาเริ่มที่การทำตัวแป้งกันก่อน โดยเราจะใช้เครื่องปั่นในการผสมแป้งเข้าด้วยกัน โดย ให้เรานำส่วนผสมส่วนที่ 1 การทำแป้งขนมครก เทรวมลงในเครื่องปั่นและปั่นให้เข้ากัน (ที่เราต้องใช้เครื่องปั่นนั้นก็เพื่อให้ตัวข้าวสวยนั้นละเอียดและเข้ากันกับแป้งนั่งเอง) เมื่อปั่นเข้ากันได้ที่แล้วให้ตั้งพักไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้แป้งเข้ากันได้ดีและเซ็ตตัว

*** การทำน้ำปูนใส ให้เราใช้ปูนแดงที่ใช้สำหรับกินหมากลงไปละลายกับน้ำ และคนให้ละลาย ทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้นจะตกตะกอน ให้ช้อนเอาแต่น้ำใสๆ ที่อยู่ด้านบนมาใช้ในการผสมแป้ง

วิธีทำหน้าขนมครก

-ขั้นตอนการทำก็ไม่มีอะไรมาก ให้นำส่วนผสมต่างๆ ในส่วนที่ 2 คือ หัวกะทิ หางกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ เทลงมาผสมและคนให้เข้ากัน

-สำหรับส่วนผสมที่เหลือสำหรับโรยหน้าให้เราโรยไปเมื่อเราหยอดหน้าขนมครกลงไปแล้ว

-สำหรับการหยอดขนมครกนั้น ผู้อ่านสามารถประยุกต์ใช้กาน้ำในการหยอดแป้งและหยอดหน้าได้อย่างง่ายดาย เคล็ดลับมีอยู่ว่า ให้คนเนื้อแป้งให้เข้ากันเสมอ อย่าวางให้ตกตะกอน เมื่อหยอดแป้งแล้ว ให้รอสักครู่ ปิดฝาไว้ประมาณ 3-5 นาที และเปิดดู เมื่อเห็นว่าแป้งเริ่มร่อนแล้วให้เทหน้าขนมลงไป ทิ้งไว้ไม่เกิน 2 นาที ให้โรยหน้าลงไปและปิดฝาอีกครั้ง จึงจะแคะออกจากเตาได้เลย

*** หน้าขนมที่โรยลงไป จะมีระยะเวลาสุกไม่เท่ากัน โดยทั่วไปแล้วจะทำให้หน้าที่โรยลงไปสุกเสียก่อน เช่น ข้าวโพดก็จะเป็นข้าวโพดสุก หรือฟักทอง ก็จะเป็นฟักทองที่สุกอยู่แล้ว จะมีเพียงไม่กี่หน้าที่สามารถโรยได้เลย เช่น ผักชี เป็นต้น

ที่มาของสูตร http://ขนมอาหาร.blogspot.com/2015/11/blog-post.html
เครดิภาพจากอินเตอร์เน็ต

ขอบคุณข้อมูล fb Chomphoonut Panomai

4.ปอเปี๊ยะทอด

ส่วนผสม

1.แผ่นโรตีน้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ

2.รากผักชี / กระเทียม /พริกไทยดำ (ตำละเอียด) 2 ช้อนโต๊ะ

3.หมูบด 150 กรัม

4.วุ้นเส้นแช่น้ำแล้ว 200 กรัม

5.เห็ดหูหนูซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ

6.ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

7.น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา

8.กะหล่ำปลี แครอทซอย ถั่วงอก

9.ไข่ขาว 1 ฟอง

10.น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ

1.นำน้ำมันรำข้าวใส่ลงไปในกระทะเล็กน้อย เปิดไฟปานกลาง

2.ใส่รากผักชี กระเทียม และพริกไทยดำที่ตำเตรียมไว้ลงไปผัดให้หอม

3.ใส่หมูบดลงไปผัดจนหมูบดสุกแล้วใส่วุ้นเส้นและเห็นหูหนูซอยตามลงไปผัดให้เข้ากันปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส และน้ำตาลทราย ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีจากนั้นก็ใส่ผักที่เตรียมไว้ เช่น กะหล่ำปลี แครอท และถั่วงอก ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วตักใส่จานวางพักไว้

4.เตรียมแป้งโรตี โดยแผ่แผ่นแป้งแล้วใส่ไส้ที่เราผัดเตรียมไว้ลงไป เกลี่ยให้อยู่ริมขอบของแป้ง แล้วจัดการม้วนปิดทุกด้านเพื่อไม่ให้ไส้ไหลออกมา และส่วนของแผ่นแป้งที่จะประกบด้านสุดท้าย ให้ทาไข่ขาวเพื่อเป็นกาวเชื่อมติดกันตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ท่วม รอให้น้ำมันร้อนแล้วใส่ปอเปี๊ยะลงไปทอดให้เหลืองกรอบตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันแล้วเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มหวานหรือน้ำจิ้มบ๊วย

ขอบคุณภาพและวิดีโอจาก
https://goo.gl/images/diqu1Z
https://goo.gl/images/Rvzzkk
https://goo.gl/images/dpBgB3
Ig.bowberry_jakobsen

5.ขนมรังผึ้ง

สูตรขนมรังผึ้งวิธีทำขนมรังผึ้ง

ขนมรังผึ้งสูตรแบบดั้งเดิมจะไม่มีไส้ตัวแป้งจะมีรสชาติหวานกลมกล่อมและมีกลิ่นหอม ปัจจุบันมีการดัดแปลงสูตรให้มีความน่าสนใจและน่าทานยิ่งขึ้นโดยการทำไส้ต่างๆ เช่นไส้ข้าวโพด หรือไส้ลูกเกด ทำให้เป็นขนมที่เด็กๆชอบทาน เหมาะสำหรับคุณแม่บ้านหรือคนที่สนใจนำไปทำขายเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการนำไปขายบริเวณหน้าโรงเรียนในช่วงเช้าๆและหลังเลิกเรียน ส่วนสูตรและวิธีทำขนมรังผึ้งมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

ส่วนผสมและวิธีทำขนมรังผึ้ง

1.ไข่ไก่ 6 ฟอง

2.แป้งสาลี 2 ½ ถ้วยตวง

3.นมสด 2 ถ้วย

4.น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

5.ผงฟู 3 ช้อนชา

6.เกลือป่น ½ ช้อนชา

7.เนยสด 1 ช้อนชา

วิธีทำขนมรังผึ้ง

1.นำแป้งสาลี ผงฟู และเกลือป่นผสมเข้าด้วยกันแล้วนำไปร่อน 3 ครั้งเพื่อให้แป้งเบาตัว

2.ตอกไข่ใส่ภาชนะ พร้อมน้ำตาลทราบและเนยสด ตีส่วนผสมเข้ากันจนเป็นเนื้อครีม จากนั้นใส่นมสดลงไปคนให้เข้ากัน

3.ค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไปคนเบาๆจนแป้งหมด

4.ทาเนยหรือน้ำมันที่พิมพ์ แล้ววอร์มพิมพ์โดยนำไปตั้งไฟ

5.เมื่อพิมพ์เริ่มร้อนดีแล้วตักส่วนผสมที่ทำไว้ใส่ลงในพิมพ์แล้วปิดฝา ประมาณ 3 นาทีขนมก็จะสุกและเริ่มได้กลิ่นหอมของขนมรังผึ้ง

ทราบสูตรส่วนผสมและขั้นตอนการทำขนมรังผึ้งกันแล้วนะคะ สำหรับคนที่มีพื้นฐานการทำขนมมาก่อนคงไม่ยาก ส่วนมือใหม่หัดทำก่อนทำขายเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจผู้เขียนแนะนำให้ทดลองทำทานโดยปรับลดส่วนผสมลงตามอัตราส่วนก่อนหากมีข้อผิดพลาดจะได้ไม่เสียแป้งหรือส่วนผสมทั้งหมดค่ะ

ขอขอบคุณที่มาของสูตรจาก http://datacatalog.org/ขนมรังผึ้ง/

6.มันทิพย์

ส่วนผสมและสัดส่วน

1.มันสำปะหลัง 1 กิโลกรัม

2.น้ำตาลทราย 250 กรัม

3.หัวกะทิ 1/2 ถ้วย

4.ข้าวโพดต้ม 1/2 ถ้วย

5.เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

1.นำมันสำปะหลังมาปอกเปลือก ตัดแกนกลางออก หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วล้างทำความสะอาด

2.นำมันสำปะหลังมานึ่งในลังถึง โดยรองด้วยผาขาวบางประมาณ 30 นาที หรือจนกว่ามันจะสุก

3.หลังจากมันสุกแล้วให้นำมาบดจนละเอียด จากนั้นนำหัวกะทิ น้ำตาล เกลือ และข้าวโพดมาผสมเข้าด้วยกันจนส่วนผสมละลายทั้งหมด

4.นวดส่วนผสมทั้งหมดจนเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ประมาณ 20 นาที

5.นำส่วนผสมมันมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดพอประมาณ จากนั้นนำมาปิ้งบนเตาจนสุก หรือเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ

6.จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

ขอขอบคุณที่มาของสูตร http://th.openrice.com/th/recipe/มันทิพย์/39
ขอบคุณเจ้าของภาพคุณALDI เว็บ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=voneye&month=11-2013&date=14&group=4&gblog=26
ขอบคุณข้อมูล fb Chomphoonut Pamomai