นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของไทย เมื่อผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรขึ้นชื่อของไทยอย่าง “ลำไย” และ “เห็ดหลินจือ” สายพันธุ์ไทย ได้รับรางวัลระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น 1.ผลิตภัณฑ์ลำไยไซรัปผสมเห็ดหลินจือ ตรา อิมมู ได้รับรางวัลสุดยอดนวัตกรรม Diamond แห่งปี 2019 และรางวัลเหรียญทอง และ 2.ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำเห็ดรวมผสมหล่อฮังก้วย ตรา อิมมู ได้รับรางวัลเหรียญเงิน จากงาน International Invention & Trade Expo ซึ่งเป็นงานประกวดผลงานนวัตกรรมระดับนานาชาติที่จัดขึ้นทุกปี
ปรเมศวร์ สิทธิวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เขาใหญ่ พาโนราม่า ฟาร์ม จำกัด เจ้าของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ เจ้าของฟาร์มเห็ดหลินจือขึ้นชื่อของพื้นที่เขาใหญ่ ได้กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ให้กับทางทีมงาน ชี้ช่องรวย ได้ทราบถึงความเป็นมาซึ่งมีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะจะสามารถต่อยอดและเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย สามารถสร้างงานสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
เกี่ยวกับโปรดักส์ของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้มีที่มาอย่างไร
สำหรับโปรดักส์ที่นำเข้าประกวดมีทั้งหมด 2 ตัว คือ อิมมูไซรัป เราทำตระกูลอิมมู ที่มาจากคำว่า I am Mushroom หรือ อิมมูน ซึ่งหมายถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากนี้ สินค้าอื่นเราก็มีอย่างเช่น สปอร์เห็ดหลินจือ นครินทร์, อิมมูเฟรช ซึ่งหลังจากได้รางวัลแล้วทางเซเว่นอีเลฟเว่นก็ได้นำไปทดลองขายตรงเชลล์สุขภาพภายในในร้าน พร้อมทำการทดลองขายสินค้าเรารวม 7 โปรไฟล์ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล ตลาด อพาร์ทเม้นท์ ที่พัก ออฟฟิศบิวดิ้งสำนักงานต่างๆ เป็นต้น
“หลังจากที่ได้เข้ารับการอบรมโครงการ GS Academy ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เราได้พบกับศาสตราจารย์เภสัชกร ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ (อาจารย์บี๋) ซึ่งเป็นโค้ชอยู่ในโครงการนั้น ตอนนั้นเราถูกเลือกให้เข้าไปอยู่ในห้อง Innovation ซึ่งอาจารย์เป็นผู้สอนและได้แนะนำผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งขึ้นมา คือ อิมมู ซิกเนเจอร์ โดยการนำเอาน้ำเห็ด 7 อย่างมาผสมผสานกัน และจากนั้นก็ได้มีการคัดเลือกผู้ประกอบการจาก 250 ผลิตภัณฑ์คัดเลือกให้เหลือ 30 ผลิตภัณฑ์นำไปแสดงสินค้าที่งาน NRA Show ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา แต่ได้ถูกคัดคัดเลือกจากบริษัท อีสแลนด์ดิสทริบิวเตอร์ คัดเลือกเราให้เป็น 1 ใน 10 บริษัท โดยสินค้าเราจะเป็น อิมมู ซิกเนเจอร์ เราจึงนำสินค้าตัวนี้ไปขึ้นมาตรฐาน Earth Save คอนเซ็ปต์ก็คือ อินทรีย์วิถีไทย โดยประธานมูลนิธิ Earth Save คือ คุณสิทธา จิราธิวัฒน์ ซึ่งได้มอบตรามาตรฐานอินทรีย์วิถีไทย ซึ่งมีจำหน่ายที่ฟาร์มของเราและ TOP Supermarket จากนั้นอาจารย์บี๋ ผม และเพื่อนอาจารย์บี๋อีกท่านหนึ่ง คุยกันว่าน่าจะสามารถนำเอาลำไยกับเห็ดหลินจือมารวมกันได้ โดยมีอาจารย์บี๋ทำการวิจัยให้ กลายมาเป็น ลำไยไซรัป
จุดเด่นของลำไยไซรัปผสมเห็ดหลินจือ คือ คุณภาพและการออกฤทธิ์ โดยลำไยมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูง สามารถลดการอักเสบ ซึ่งจากงานวิจัยระบุว่าโรคที่เกิดส่วนใหญ่ทั้งที่เป็นโรคเรื้อรัง (เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน) และโรคไม่เรื้อรัง (เช่นโรคติดเชื้อ) มีความเกี่ยวข้องกับสารก่อการอักเสบทั้งสิ้น ซึ่งลำไยสามารถลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดการอักเสบได้ จึงสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ยังผสมสารสกัดเห็ดหลินจือที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยลำไยไซรัปผสมสารสกัดเห็ดหลินจือนี้ได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานอีกทั้งลำไยยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีค่า Glycemic Index ต่ำเมื่อเทียบกับสารให้ความหวานเช่นน้ำตาล ดังนั้นจึงให้ประโยชน์ต่อร่างกายโดยปราศจากสารเคมี สารปรุงแต่ง หรือสารกระตุ้นต่างๆ การรับประทานลำไยไซรัปผสมสารสกัดเห็ดหลินจืออย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันโดยไม่มีผลต่อการทำงานของตับและไต ซึ่งจัดว่ามีประสิทธิภาพดีและความปลอดภัยสูง
สำหรับ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำเห็ดรวมผสมหล่อฮังก๊วย ตรา อิมมู เป็นเครื่องดื่มน้ำเห็ดรวมผสมหล่อฮังก้วย ที่มีส่วนผสมของเห็ด 7 ชนิดที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีจากเขาใหญ่เเหล่งโอนโซนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย โดยเห็ดทั้ง 7 ชนิดนี้ มีคุณประโยชน์นานัปการ โดยเฉพาะเห็ดหลินจือจากงานวิจัยแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์และเภสัชกรรมพบสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) มีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้นกันให้ดีขึ้น ทำหน้าที่ป้องกันและขับไล่สิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย ช่วยดักจับสารพิษ เเละโลหะหนักที่ตกค้างจากเคมีการเกษตรจากอาหารที่บริโภคอยู่ในปัจจุบันได้ ส่วนความหวานของผลิตภัณฑ์จะใช้ หล่อฮังก้วย (Luo Han Guo) ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง ให้ความหวานแทนน้ำตาลประมาณ 250-300 เท่าของน้ำตาล แต่ไม่ให้พลังงาน จึงไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดคนเป็นเบาหวานก็สามารถบริโภคได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อร่ายกายเลย จากงานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำเห็ดรวมผสมหล่อฮังก๊วย ตรา อิมมู อย่างต่อเนื่องสามารถเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันและช่วยขับสารพิษให้แก่ผู้บริโภคได้”
หลังจากได้รับรางวัลแล้วมีการวางแผนการดำเนินงานอย่างไรต่อไป
หลังจากนี้เราตั้งใจที่จะทำการตลาดของ อิมมูไซรัป โดยจะขยายสู่ต่างประเทศ เพราะได้มีการพูดคุยกับผู้ช่วยฑูตของประเทศตุรกีซึ่งที่นั่นมีการนำเข้าไซรัปจากประเทศอเมริกา เมื่อเราเอาไซรัปของเราเข้าไปก็คิดว่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพตอบโจทย์ประชาชนที่นั่นได้เพราะมีผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานกันมาก ตอนนี้เราสามารถนำเสนอให้กับคนทั้งโลกได้แล้ว เพราะทั่วโลกยอมรับในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ผลพลอยได้ คือ มันจะสะท้อนกลับและพลิกโฉมวงการเกษตรของไทย เพราะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้เพราะมีตลาดส่งออก โดยที่เราจะจองผลิตผลสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน ทำให้ราคาลำไยปรับตัวสูงขึ้น เพราะทุกวันนี้เกษตรกรถูกกดราคาลำไยให้ถูกมากจากพ่อค้าคนกลาง และยังเจอสภาพอากาศทำให้ผลิตลำไยออกมาน้อย หากเราไปการันตีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากราคาปกติ พร้อมทั้งให้ความรู้ให้ชาวเกษตรกรปลูกลำไยแบบเกษตรอินทรีย์ จะส่งผลดีต่อเนื่อง คือ ลดการใช้เคมี เพิ่มจำนวนเกษตรกรทำการเกษตรแบบอินทรีย์มากขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้าน GDP เพราะการเพาะปลูกลำไย เพียงแค่เราหาตลาดเพิ่มคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้จนส่งผลต่อการจ้างงานด้วย
“นอกเหนือจากตลาดตุรกีแล้ว ยังมีส่งออกไปยังประเทศจีน ไต้หวัน และฮ่องกง นอกจากนี้เราได้ส่งออก อิมมูซิกเนเจอร์ไปยังประเทศสิงคโปร์แล้ว และส่งออกไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา ล็อตแรกจำนวน 18,000 ขวด คาดว่าหลังจากนี้ จะส่งออกตัวไซรัปเข้าสิงคโปร์ด้วย นอกจากนี้ เรามีแผนที่จะนำเข้าไปเปิดตลาดที่ยุโรป อเมริกา และ อิสแลนด์ด้วย”
แผนการดำเนินงานปี 2563 วางไว้อย่างไร
แผนในปีหน้า ผมจะทำตลาดลำไยไซรัปเป็นหลัก รวมทั้งตระกูลอิมมูด้วย ไม่ว่าจะเป็น อิมมูเฟรช เราได้รางวัลสุดยอดนวัตกรรมเห็ดหลินจือ และนำเอาผลิตภัณฑ์ของเราไปวางขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทั้งหมด 7 โปรไฟล์ ไม่ว่าจะเป็น น้ำเห็ด 7 อย่าง โดยส่งขายมากถึงวันละ 6,000 ขวด ลงขายทั้งหมด 7 ร้าน พร้อมทั้งโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีที่สาขาประชาราษฎร์บำเพ็ญ 26 , ประชาอุทิศ 17 , ออลซีซั่น, โรงพยาบาลกรุงเทพ, เมืองไทยภัทร, บางกอกซิตี้ และร่วมฤดีเพลสซิเด้นท์
นอกจากนี้ เรามีแผนการตลาดที่จะทำแบบ Door to Door คล้ายๆ กับสาวยาคูลล์ โดยจะเริ่มที่ปากช่องก่อน โดยการเปิดรับสมัครหนุ่มสาวอิมมูเฟรชเข้ามา พร้อมแบ่งโซนขายบริเวณปากช่องก่อน โดยทดลองให้เขาออกไปขาย หากโมเดลนี้สำเร็จก็จะขยายต่อไป ตอนนี้แบ่งเป็น 10 โซนๆ โซนละ 1 คนในเขาใหญ่ แบ่งขายโซนละ 100 ขวดต่อวัน เท่ากับวันละ 1,000 ขวด หากประสบความสำเร็จก็จะนำโมเดลนี้ไปขยายต่อ โดยขายราคาต่อขวด 25 บาท ขายส่งราคา 15 บาท หากขายได้ 100 ขวดต่อวันเขาจะได้ส่วนต่าง 1,000 บาททันที
ตอนนี้เราได้ส่งออกไปอเมริกา โดยส่งแบบ Prozen แช่แข็งไปล็อตแรกจำนวน 2,400 ขวด อีกผลิตภัณฑ์ที่จะส่งออกอีกตัว คือ นครินทร์ เป็นสปอร์เห็ดหลินจือสายพันธุ์ไทย NG2 ซึ่งใช้วัตถุดิบจากโครงการสวนเกษตรเมืองนาย ซึ่งเป็นของโครงการหลวง และจากโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนาที่เมืองฝาง ซึ่งเห็ดหลินจือสายพันธุ์ NG2 นั้นได้รับอนุญาตให้ทำการเพาะปลูก 2 ที่ คือ สวนเกษตรเมืองนาย และมูลนิธิชัยพัฒนาที่เมืองฝาง ซึ่งเราได้รับอนุญาตให้นำมาผลิตเป็นแบรนด์ของเรา โดยวัตถุดิบจากโครงการนี้แล้วมาผลิตโดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า นครินทร์ ตอนนี้ได้ทดลองส่งไปยังประเทศแถบตะวันออกกลาง และที่อินเดีย โดยผ่านการ Market Resert เรียบร้อยแล้วโดยนำไปให้ทางการแพทย์ที่อินเดียทดลองใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง โดยทานก่อนการให้คีโมวันละ 5 ขวด 5 วัน ปรากฏว่า 100 % ของผู้ทดลองไม่มีอาการแพ้คีโมเลย เพราะเห็ดหลินจือมีคุณสมบัติช่วยลดการแพ้คีโมในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง และได้ตอบรับและการันตีภายใน 2 ปีทำสัญญานำเข้ากับทางบริษัทจำนวน 40,000 กล่อง นอกจากนี้เขายังสนใจผลิตภัณฑ์สแน็ค ประเภท เห็ดกรอบ และเห็ด 3 รสของเรา แต่ต้องทำการรีแพคเกจจิ้งใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับแบบตลาดของประเทศสิงคโปร์
“นอกจากนี้ ในประเทศไทยเอง เราก็มีโครงการ CSR ด้วยการนำเอานครินทร์ไปใช้กับผู้ป่วยที่ไม่มีทุนทรัพย์ในการรักษาด้วยจัดสปอร์เห็ดหลินจือให้รับประทานไปพร้อมๆ กับการให้คีโมปรากฏว่าไม่มีอาการแพ้คีโมเช่นกัน ซึ่งต้องรับประทานในปริมาณที่เรากำหนด”
ภาพรวมการบริหารเป็นอย่างไร
ปีที่แล้ว 2561 รายได้ลดลงประมาณ 5 % เนื่องจากการท่องเที่ยวภายในประเทศลดลง ไทยเจอปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง และในปี 2562 นี้ก็เช่นกัน ดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนแผนการตลาดด้วยการเน้นขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวก็ได้มีการจับมือกับผู้ประกอบการที่เขาใหญ่หลายรายร่วมกันสร้างอัตลักษณ์ของเขาใหญ่ให้คนไทยและต่างชาติได้รับรู้และเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ร่วมมือกันสร้าง หุบเขาแห่งความสุข หรือ Khaoyai The Valley of Happyness ด้วยการจับมือแล้วชูสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของแต่ละแห่งและนำเสนอให้กับชาวไทยและชาวต่างชาติให้รู้ เพราะจุดแข็งของเขาใหญ่ คือ มีความเป็นธรรมชาติ มีอากาศที่บริสุทธิ์และเป็นปอดของประเทศไทย
ทิ้งท้าย อยากฝากอะไรกับผู้อ่าน
ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติไม่มีสารเคมี และเห็ดแต่ละชนิดที่นำมาแปรรูปเป็นเห็ดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะทุกวันนี้ปัญหาบ้านเราก็คือ เคมีเกษตรที่อยู่ในอาหาร เคมีรักษาโรค หากรับประทานติดต่อไปนานๆ ก็จะเกิดผลเสียกับผู้บริโภคเอง เพราะจะไปทำให้ไตเสื่อม การกินยาเคมีติดต่อเป็นเวลานานส่งผลให้ไตทำงานหนักจนก่อให้เกิดไตวายได้ และในตัวของเห็ดนั้นจะมีสารเยนเลเนียนมีคุณสมบัติการจับสารโลหะหนัก สารพิษหรือเคมีเกษตรต่างๆ ซึ่งเรากำลังจับมือกับ ดร.พวงรัตน์ในการทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการขับสารพิษจากเคมีเกษตรได้อย่างไร
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย อยากให้ลองนำสินค้าไปเจาะกลุ่มประเทศใหม่ๆ และลดการรอความช่วยเหลือ แต่ให้กล้าที่จะออกไปเปิดตลาดใหม่ นอกเหนือจากรอทางภาครัฐช่วยเหลือ เราต้องเปลี่ยนรูปแบบเป็นเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลมีฑูตพาณิชย์เราต้องจับมือกับทางฑูตพาณิชย์หรือหาคนกลางที่จะนำเราไปพบกับดิสสิบิวเตอร์หรือผู้จัดงานของแต่ละประเทศ
“พวกเราเปรียบเสมือนนักกีฬาทีมชาติ เป็นตัวแทนของประเทศที่นำสินค้าคุณภาพของไทยออกสู่สายตาต่างชาติ ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงและรายได้คืนกลับเข้าสู่ประเทศ เราไปในนามของประเทศไทย”