ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

เคล็ดลับ!! การเป็น “นักขายมืออาชีพ” สำเร็จได้ในการแข่งขันบนโลกยุคดิจิทัล


ปัจจุบันไม่ว่ากระแสโลกจะแปรเปลี่ยนไปอย่างไร รูปแบบธุรกิจจะเป็นแบบไหน “การขาย” ก็ยังคงเป็นอาชีพสำคัญและมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้องค์กรมีรายได้และเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะพื้นฐานบนโลกแห่งธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ล้วนต้องมีการซื้อขายกันแทบทั้งนั้น

ชี้ช่องรวย มีบทความน่าสนใจสำหรับผู้ที่มีอาชีพนักขายหรือไม่ใช่นักขายก็สามารถนำหลักการไปปรับใช้และพัฒนาเพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าฝ่ากระแสเศรษฐกิจในช่วงนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ โดยบทความนี้ เป็นบทความของ คุณปรีชา ตรีสุวรรณ President Thailand Tanzania Business Center และประธานสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตไทย (THAI EXPORTER AND MANUFACTURER ASSOCIATION) หรือ TEMA ได้ให้ความรู้และวิธีการพัฒนาตนเองเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพการเป็นนักขาย ดังนี้

หนึ่งในหลาย ๆ อาชีพนั้นก็คือ การขาย ส่วนจะขายอะไร นั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ล่ะท่านจะขาย ในปัจจุบันนั้นเขานิยมขายกันมากที่สุดก็คือ การขายสินค้าออนไลน์ แต่ก็ยังมีสินค้าที่จำเป็นจะต้องใช้บุคคลเป็นพนักงานขาย อยู่เช่นเดิม การขายทั้งหมดทั้งปวงนั้นก็ยังต้องใช้ พนักงานขาย ถึงแม้ว่าในช่วงเวลานี้นั้นอาจจะถึงยุคสุดท้ายของนักขาย ที่ต้องเดินออกไปนำเสนอสินค้าให้กับ ตลาด ของสินค้าแต่ล่ะชนิด ก่อนที่จะเข้าสู่ยุค Digital marketing แบบเต็มตัวที่มีการกล่าวว่าอาชีพ พนักงานขายกำลังจะหมดความสำคัญลงไปทุก วัน ๆ

แต่ถึงกระนั้นก็ยังจำเป็นต้องมีเพราะระดับนานาชาติที่ผู้ประกอบการจะต้องออกเดินทางไปหาตลาด ในต่างประเทศ เพื่อนำเสนอสินค้า แบบ B2B ก็ยังจะต้องใช้พนักงานขาย ระดับมืออาชีพ อยู่ เช่นกัน ดังนั้นจึงมาเล่าสู้ว่าถ้าจะเป็นนักขายมืออาชีพควรจะต้องทำอย่างไรในสายตา และความเห็นส่วนตัว ของผม

Basic ของการที่จะท่านที่จะเป็นนักขายที่ดีนั้น จะต้องมองดูตนเองว่า ท่านเองนั้นมีความพร้อมแล้วหรือยัง ในทุกด้านของท่านดังนี้

1.การเตรียมตัว การเตรียมตัวที่ดีนั้นควรประกอบและตรวจสอบ กิริยามารยาท การแต่งกาย ความพร้อมของบุคลิกภาพ เสื้อผ้า รองเท้า ผม น่าตา ควรจะต้องเรียบร้อยและเหมาะสมกับสินค้าที่ตนเองเป็นผู้รับผิดชอบ

2.ความรู้ การเตรียมการก่อนออกไปพบกับผู้ที่จะต้องการพบนั้นขอเรียนว่า เรื่องความรู้เรื่อง บริษัท หรือองค์กรที่ท่านร่วมงาน สินค้า พร้อมกับรายละเอียดของสินค้า น่าจะมีความรู้ทุกด้านในองค์กรและทุกชนิดของสินค้า

3.คู่แข่ง แน่นอนที่สุดทุกชนิดของสินค้านั้นย่อมต้องมีคู่แข่ง เราควรจะต้องรู้ถึงสินค้าที่เป็นคู่แข่ง และสินค้าของตนเองว่ามีอะไรที่แตกต่าง หรือจุดดี จุดด้อย ระหว่างสินค้าของตนเองและของคู่แข่ง หากมีการทำ SWOT จะทำให้มั่นใจและเข้าลึกถึงรายละเอียดมากขึ้นเป็นการสร้างความชำนาญและความรู้ทุกแง่มุม

4.อุปกรณ์ในการนำเสนอ การนำเสนอสินค้านั้นผมขอแนะนำว่าพนักงานขายมืออาชีพ ควรจะต้องมีอุปกรณ์ประกอบการขายสินค้าของท่านเพื่อทำการนำเสนอให้กับผู้ที่ต้องการจะเสนอสินค้าได้ทราบถึง องค์กรของท่าน สินค้าของท่าน Ingredient ที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลักของท่าน หากมีการทำ Clip สำหรับการนำเสนอ มีความยาวสัก 1-2 นาที เป็น Video clip ก็น่าจะดี

ที่กล่าวมานี้เป็นการเตรียมตัวตนของคนที่จะเป็นนักขายมืออาชีพ สำหรับการเตรียมความพร้อมเมื่อตัวเองมีการเตรียมตัวที่ดี สิ่งที่จะได้ตามมือก็คือความมั่นใจในการทำงานของท่าน เมื่อมั่นใจในการทำงาน ทานจะต้องมั่นใจในอาชีพ ในหน้าที่ ๆ จะทำด้วยเช่นกัน หากท่านไม่มั่นใจในอาชีพนี้แล้วไซร้ ผมขอเรียนว่ามันจะไม่มีทางจะประสบผลสำเร็จแน่นอนเพราะท่ายงไม่เชื่อแล้วท่านจะให้ใครเชื่อถือล่ะครับ ดังนั้นการเตรียมตัวทั้งหมดนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความมั่นใจให้กับท่านที่คิดจะเป็นพนักงานขายแบบมืออาชีพ

1.การสำรวจรายชื่อ หลังจากการเตรียมตัวดีแล้วท่านควรจะต้องเตรียมรายชื่อของบุคคลที่จะไปพบ ทั้งในประเทศ แม้แต่ต่างประเทศ อย่างน้อยท่านควรจะมีเป้าหมายและรายชื่อเสียก่อน เพื่อท่านจะทำการนัดหมาย หรือ เตรียมการเดินทางไปพบถ้าต้องการจะไปเปิดตลาดในต่างประเทศ การเตรียมรายชื่อทำได้สองทางคือ

2.ตลาดภายในประเทศ เราจะต้องจัดเตรียมรายชื่อ ที่อยู่ ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ หรือ ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ ผู้มีอำนาจในการสั่งซื้อ แน่นอนที่สุดจะต้องชื่อ และที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ของหน่วยงานหรือ องค์กรที่จะไปพบ แล้วทำการนัดหมายอย่างเป็นทางการ

3.ตลาดต่างประเทศ ท่านจะต้องมองหาว่าตลาดที่ท่านจะไปนั้นเหมาะสมกับสินค้าของท่านหรือไม่ ความหมายของคำว่าเหมาะสมนั้นจะต้องรวมไปถึง คุณภาพสินค้า บรรจุภัณฑ์ ราคา และ ความต้องการ ของตลาดในแต่ล่ะภูมิภาคนั้น ๆ ตลาดบางแห่งนั้นอาจจะไม่เหมาะสมกับสินค้าของท่าน ก็เป็นได้ ดังนั้น การเข้ารับการสัมมนาทางการตลาดในการเปิดแนวรุกทางการค้า ตลาดใหม่ ๆ ที่ควรจะไป จะเป็นตัวที่ตรวจสอบว่าสินค้าของท่านเหมาะกับตลาดนั้น ๆ หรือไม่ ท่านจะไปในภูมิภาคใด ท่านจะไปในประเทศใด

ทำการนัดหมายและเตรียมการเดินทาง หลังจากเตรียมตัว เตรียมรายชื่อแล้ว ผู้ที่ต้องการเดินทางสิ่งที่ควรจะต้องเตรียม ทำได้ดังนี้คือ

1.ตลาดภายในประเทศ ควรจะต้องทำการนัดหมายเพื่อการขอเข้าพบ เพื่อทำการนำเสนอสินค้า เห็นควรจะต้องมีการนัดหมายหลายแห่งมากกว่า หนึ่งแห่งเพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการออกไปทำงาน ไม่นัดหมายเพียงรายเดียว แล้วเวลาที่เหลือก็จะไม่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เห็นควรนัดหมาย ในเส้นทางที่เราจะเดินทางไป เพื่อจะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นวายไปหลายทิศทางเป็นการประหยัดเวลาและสะดวกต่อการเดินทาง

2.ตลาดต่างประเทศ การจะออกตลาดต่างประเทศ นอกจากจะต้องพร้อมทุก ๆ ด้านแล้วควรจะต้องทำการนัดหมายคัดเลือก เส้นทาง ประเทศเป้าหมาย เห็นควรที่จะต้องมีเป้าหมายหรือมีการนัดหมายไว้ล่วงหน้าเสียก่อนการเดินทางไป เพื่อป้องกันการไปแล้วไม่มีเป้าหมายต้องไปเหวี่ยงแห หรือไปดักรอบเอา ว่าจะมีใครมาพบกับเรา บ้างไหมหนอ ที่มีความต้องการสินค้าที่เรานำพามาแสดงหรือต้องการนำเสนอ นัดหมายก่อนไปพบเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด

-เตรียมตัว เตรียมรายชื่อ เตรียมนัดหมาย แล้วเตรียมการไปพบ ขอให้ทำอย่างมืออาชีพและเรียบร้อย แล้วท่านจะได้ผลที่ออกมาได้สมตามความตั้งใจ แต่หลังจากขบวนการเตรียมตัวแล้ว ต่อมาก็ควรจะเป็นกาสรนำเสนอสินค้าของท่านอย่างมืออาชีพ ต่อจากการเตรียมตัว แต่คงจะนำมาเล่าต่อในตอนต่อไป เพราะยาวมากแล้ว ในตอนนี้ (หากมีผู้สนใจและต้องการ)