ในแต่ละปีหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ตลอดรวมถึงกูรูในด้านต่างๆ จะออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์หรือกระแสทิศทางของธุรกิจในแง่มุมต่างๆ ซึ่งในส่วนของธุรกิจ SMEs นั้นก็มีหลายค่ายออกมาให้ความคิดเห็น โดยในส่วนของ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ได้อ้างอิงถึงข้อมูลจากสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ismed) สรุปเทรนด์ธุรกิจ SMEs ที่จะเกิดขึ้นใน ปี 2020 ไว้ 6 เทรนด์ พร้อมข้อเสนอแนวทางการรับมือเทรนด์ของภาคธุรกิจ SMEs ของปี 2020 ไว้อย่างน่าสนใจไม่น้อย ดังนี้
1.สังคมสูงอายุกำลังมา (Aging Society) – ต้องศึกษาทำความเข้าใจคนกลุ่มนี้แบบเจาะลึก
สังคมผู้สูงวัยเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงในประเทศไทยมาสักพักแล้วเนื่องจากข้อมูลในเชิงสถิติสะท้อนมาให้เห็นอย่างชัดเจนในหลายหน่วยงาน ธุรกิจที่จะปรับตัว ก็ต้องมองและเข้าใจ Insight ของคนกลุ่มนี้ ซึ่งในต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่มีสังคมสูงวัยสมบูรณ์ ทำให้ธุรกิจหุ่นยนต์มีช่องทางเติบโตมากขึ้นเนื่องจากมีการพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงวัย สำหรับในประเทศไทย KKP Advice center ได้เคยนำเสนอมาก่อนหน้านี้ผ่านบทความ “เผย 5 ธุรกิจคว้าโอกาสโตเมื่อไทยเข้าสู่ Aging Society” ซึ่งหากจะแนะเพิ่มเติมคือ ศึกษาการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจ้างผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป เข้าทำงาน
2.กระแสเศรษฐกิจสีเขียวฟีเวอร์ (Greening Economy) – แคมเปญรักษ์โลกที่ธุรกิจต้องมี
จากเหตุการณ์ที่ส่งกระทบต่อสัตว์น้อยใหญ่ในทะเล และภาวะโลกร้อนทำให้เกิดคลื่นรักษ์โลก ทั้งเรื่องการรณรงค์ไม่ใช้ถุงพลาสติก การลุกฮือของกลุ่มคนขึ้นมารวมตัวเรียกร้อง Save the world กระแส Green เลยเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในการทำธุรกิจ เช่น การใช้หลอด หรือภาชนะที่สามารถย่อยสลายได้ งดให้บริการถุงพลาสติกแนวทางอื่นๆ ในการปรับตัวของธุรกิจ เช่น การกำหนดเป็นกลยุทธ์ของธุรกิจ และใช้เป็นจุดขายขององค์กรเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ในธุรกิจ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3.เข้าสู่โลกแห่งดิจิทัล (Digital Lifestyle) – เอาธุรกิจเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์
เทรนด์ Internet of things ได้พูดถึงกันหนาหูก่อเกิดเป็นธุรกิจจำนวนมาก รวมถึงรูปแบบการทำการตลาดของธุรกิจเริ่มเปลี่ยนไป จาก Offline เป็น Online มากขึ้นเพราะคนเสพและใช้เครื่องมือออนไลน์ในชีวิตประจำวันจนเป็นปกติ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะต้องหันมามองธุรกิจของตัวเองว่า ธุรกิจของคุณเข้าไปสู่โลกดิจิทัลแล้วหรือยัง ตัวอย่างเช่น หากคุณมีธุรกิจร้านอาหาร เมื่อรู้ว่าปัจจุบันลูกค้านิยมสั่งอาหารผ่านออนไลน์ ผ่านทาง Application การนำร้านค้าของคุณขึ้นไปอยู่บน Platform ต่างๆ จะช่วยให้เพิ่มช่องทางการขาย และไม่ถูก Disrupt ในยุคดิจิทัลแบบนี้
4.การใช้วิถีชีวิตแบบคนเมือง (Urbanization) – ความง่ายและความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ
หากแนวโน้มการใช้ชีวิตเป็นแบบวิถีชีวิตคนเมืองที่เน้นความสะดวกสบายมาก่อน ซึ่งถ้าคุณเป็นธุรกิจที่มีลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มเป้าหมาย คุณก็ต้องมองกลยุทธ์ให้ขาดในทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน รวมถึงช่องทางการจัดทำหน่ายที่ลูกค้าเข้าถึงหรือบริการจัดส่งถึงที่ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภค
5.ยุคของผู้หญิงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (She-economy) – Message ที่สื่อสารต้องชัดและตรงกลุ่ม
ผู้หญิงจะมีอำนาจและบทบาทมากขึ้นในภาพของผู้นำ จะไม่ใช่เป็นเพียงแม่บ้านที่อยู่แต่ในครัวอีกต่อไป แต่จะเป็นแม่ทัพที่อยู่ในหลายวงการ การปรับตัวของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง เช่น การสื่อสารภาพของผู้หญิงให้เห็นในมุมของผู้นำ ผู้ตัดสินใจ หรือการทำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ Serve ให้กับผู้หญิงกลุ่มนี้โดยเฉพาะก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
6.ระบบโลจิสติกส์ยุคใหม่ รวดเร็ว ฉับไว (Hi-Speed & Coverage Logistics) – ต่อยอดธุรกิจขยายเส้นทางศักยภาพ
ด้วยนโยบายของภาครัฐรวมถึงการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ก็เป็นเหตุให้เทรนด์ธุรกิจนี้เป็นที่จับตามองดังนั้นหากตลาดนี้เริ่มเติบโตขึ้นก็คงจะเป็นประโยชน์กับธุรกิจ SMEs ที่ต้องอาศัยการขนส่งอยู่ไม่น้อยเพราะหากการแข่งขันสูงขึ้น จะทำให้ SMEs ได้รับผลพลอยได้จากต้นทุนที่จะลดลง แต่หากเป็นธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้อยู่แล้ว ก็คงต้องหาทางในการต่อยอดเช่น การหา Partner ในการทำธุรกิจ การหาประโยชน์จากช่องทางการขนส่งที่เพิ่มขึ้น เช่น การขยายเส้นทางในพื้นที่มีศักยภาพ เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : เกียรตินาคินภัทร โดย ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)