ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

เคล็ดลับ “การออมเงิน” สำหรับคน Gen Y ออมอย่างไรไม่ให้ลำบากภายหลัง


ในยุคที่เศรษฐกิจกำลังชะลอตัวอย่างนี้ ทำให้ผู้คนมีหนี้สินจำนวนมากและมีแนวโน้มที่จะเป็นหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น จนอาจส่งผลกระทบฐานะความเป็นอยู่ของคนในอนาคต ดังนั้น การเริ่มต้นออมเงินเสียตั้งแต่วันนี้ ก็เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงให้แก่ชีวิต ไม่ให้ลำบากในช่วงบั้นปลายของชีวิต

และในส่วนของกลุ่ม Gen Y ที่ถือว่าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่ภายใต้แวดล้อมของความเจริญด้านเทคโนโลยีหรือยุคดิจิทัล ซึ่งมักจะมีสิ่งล่อตาล่อใจทำให้เงินในกระเป๋าหลุดปลิวไปกับสินค้าฟุ่มเฟือย จนลืมที่จะเก็บออม ก่อเกิดเป็นสาเหตุของการมีหนี้ส่งผลต่อความมั่นคงในอนาคตได้

ชี้ช่องรวย วันนี้จึงอยากจะมาแนะนำวิธีการออมเงินในแบบฉบับของคน Gen Y ที่ง่ายและทำให้มีเป้าหมายที่ชัดเจน และพุ่งเป้าไปไปได้ง่ายขึ้น และมองเห็นภาพแถมยังทำง่าย ไม่เหมือนบังคับหรือฝืนใจกัน ดังนี้ค่ะ

“GEN Y ต้องมีเงินเก็บฉุกเฉิน”

เผื่อชีวิตเกิดดราม่า จะได้ไม่ต้องเข้าไปสู่วังวนหนี้สินที่ยับเยินเพราะดอกเบี้ยเงินกู้แสนแพง เช่น ตกงานกะทันหัน เราก็ไม่เดือดร้อน ยังมีเงินกินข้าว บ้านรถยังอยู่ครบเพราะมีเงินฉุกเฉินที่ตุนไว้มาใช้จ่ายระหว่างรองานใหม่

ควรมีเท่าไหร่ : เตรียมไว้ 3 – 6 เท่าของค่าใช้จ่าย เช่น หนี้สินและใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละ 25,000 บาท ควรมีเงินฉุกเฉินไว้ 75,000 – 150,000 บาท ถ้าตกงานก็ยังมีเงินใช้ต่อลมหายใจไปได้อีก 3 – 6 เดือน

เก็บเงินไว้ที่ไหน : ควรเลือกวิธีเก็บเงินที่เงินต้นอยู่ครบ มีสภาพคล่องสูงทำให้เราถอนใช้ง่ายๆ เช่น ฝากไม่ประจำ ถอนได้ ดอกเบี้ยสูง

“GEN Y ต้องมีเงินเก็บเพื่อความฝัน”

เราต้องการใช้เงินก้อนนี้ไว้ทำอะไร เช่น ท่องเที่ยว ซื้อบ้าน แต่งงาน ทำศัลยกรรม ซื้อรถยนต์ เรียนต่อ เก็บไว้ใช้ในวัยอิสระหลังอายุ 60 ฯลฯ

ควรมีเท่าไหร่ : เรามีเรื่องใช้เงินไม่จำกัด แต่เรามีรายได้แบบจำกัด เราอยากทำทุกความฝันพร้อมกันไม่ได้ เราต้อง “จัดลำดับความสำคัญ” ว่าเรื่องจำเป็นต้องทำก่อน เรื่องที่ไม่รีบไว้ค่อยทำทีหลัง เพื่อจะได้แบ่งเก็บเงินให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่จะใช้เงิน เราแบ่งเป้าหมายความฝันไว้ 3 ช่วงเวลา

ตั้งเป้าหมายความฝัน

– ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี เช่น ไปเที่ยว โดยเก็บเงินไว้ที่รักษาเงินต้น เช่น ฝากไม่ประจำ ถอนได้ดอกเบี้ยสูง

– ระยะกลาง 2-4 ปี เช่น แต่งงาน ดาวน์บ้าน ดาวน์รถ ควรเก็บเงินไว้ที่ความเสี่ยงน้อยถึงปานกลาง ทำให้ให้เงินเติบโตมากขึ้น เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะปานกลาง กองทุนรวมผสม เป็นต้น

– ระยะยาว 5 ปีขึ้นไป เช่น เงินเกษียณ ควรเก็บเงินไว้ที่ความเสี่ยงสูง สร้างความมั่งคั่งหรือรายได้ให้เข้ามาสม่ำเสมอหลังเกษียณ เช่น กองทุนรวมจ่ายปันผล กองทุนรวมหุ้นไทย กองทุนหุ้นต่างประเทศ ทองคำ อสังหาฯ เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :

เงินออมแบบ “เบา กลาง หนัก” ในฉบับ GEN Y ของมันต้องมีก่อน40