โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

มาดูตลาดนัด “ขนาดเล็ก” และ “ขนาดใหญ่” มีจุดเด่น-จุดด้อย ต่างกันตรงไหน

ตลาดนัด ที่เราคุ้นเคยและมีอยู่ทั่วไปส่วนใหญ่มักจะมีทั้งขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งก็แล้วแต่องค์ประกอบหลายๆอย่าง ที่จะเป็นตัวกำหนดขนาดของตลาด และโดยทั่วไป ผู้ขายก็จะมีมุมมองต่อขนาดตลาดแตกต่างกันไป ชี้ช่องรวย จึงรวบรวมข้อมูลและพอจะสรุปถึงความแตกต่างของตลาดนัดขนาดเล็ก-ใหญ่ แล้วทำไมพ่อค้าแม่ค้าจึงให้ความสนใจที่แตกต่างกัน

1.ตลาดนัดขนาดใหญ่มักจะตั้งติดกับถนนใหญ่ หรืออยู่ในแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งมักจะเป็นเส้นทางผ่านสำหรับผู้สัญจรไปมา ในขณะที่ตลาดนัดขนาดเล็กจะไม่ติดถนนหลวง แต่จะเข้าไปอยู่ในพื้นที่ว่าง ติดกับถนนหมู่บ้าน เป็นในรูปแบบตลาดนัดชุมชน

2.กลุ่มลูกค้าที่มาเดินตลาดนัดขนาดใหญ่จะค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งคนในชุมชน และผู้ที่สัญจรไปมา หลายหลายเพศ หลากหลายวัย และมีความคึกคักมาก ขณะที่กลุ่มผู้ซื้อในตลาดนัดขนาดเล็กส่วนใหญ่จะเป็นคนในชุมชน ที่ไม่ต้องการเดินทางไกล หรือไม่สะดวกซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ

3.การวางล็อคขายสินค้าของผู้จัดตลาดขนาดใหญ่ จะมีโควต้าให้สำหรับผู้ขายสินค้ามากขึ้น อาจจะเป็น 3-4 ล็อคสำหรับสินค้าประเภทเดียวกัน และจะอยู่ห่างกัน ทำให้สามารถกระจายรายได้ให้ผู้ขายได้ และเป็นกระกระจายกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนมากให้มีตัวเลือกในการซื้อสินค้า ในขณะที่ตลาดนัดขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะเป็นแบบตลาดปิด ซึ่งไม่สามารถขายสินค้าซ้ำกันได้ ทำให้สินค้าไม่มีคู่แข่ง ผู้ซื้อตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่าย

4.สินค้าสำหรับตลาดนัดขนาดใหญ่มีความหลากหลาย เนื่องจากผู้ซื้อมีหลากหลายเพศ หลากหลายวัย หลากหลายความต้องการ พ่อค้าแม่ค้าจึงมักจะนำสินค้าแปลกใหม่ มาทดลองตลาด และมีโอกาสขายได้ง่ายกว่า ในขณะที่สินค้าที่เหมาะกับตลาดนัดขนาดเล็ก มักจะเป็นสินค้าประเภท อาหาร ของใช้ เครื่องครัว สินค้าแฟชั่นทั่วไป ที่มีราคาไม่แพงมากนัก

5.ขนาดพื้นที่ของตลาดนัดขนาดใหญ่ มักจะมีผู้ซื้อจำนวนมาก ทำให้ผู้ซื้อยากที่จะจดจำร้านของผู้ขาย ดังนั้นทางผู้ขายเองจึงควรจัดร้านที่ดูมีเอกลักษณ์ มีจุดเด่นที่จดจำง่าย และมีโอกาสสร้างลูกค้าประจำได้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่ตลาดนัดขนาดเล็ก จะมีลูกค้าประจำที่แน่นอน ซึ่งเป็นคนในท้องถิ่น และโดยปกติตลาดนัดชุมชนจะมีแค่อาทิตย์ละ 1 วัน ผู้ซื้อจึง มักจะตั้งตารอเพื่อซื้อสินค้าที่ต้องการในปริมาณที่พอดีสำหรับ 1 อาทิตย์ ทำให้ ผู้ขาย สามารถขายสินค้าได้ครั้งละมากๆ ทดแทนจำนวนผู้ซื้อที่จำนวนจำกัด

6.บรรยากาศของตลาดนัดขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่แต่ละร้านมักจะมีการตกแต่งร้านให้มีเอกลักษณ์เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้มาเลือกชมสินค้าของตัวเอง ในขณะที่บรรยากาศของตลาดนัดขนาดเล็กจะเป็นในรูปแบบที่เป็นกันเอง เพราะกลุ่ม ผู้ขาย และผู้ซื้อ จะเป็นกลุ่มเดิมซ้ำๆ กัน ทำให้คุ้นหน้ากัน

จากที่กล่าวข้างต้นนั้น คงจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของคุณๆ ที่กำลังมีความคิดจะขายของที่ตลาดนัดกันนะคะ ลองเอาข้อมูลดังกล่าวนี้มาประมวลความเป็นไปได้เพื่อจะได้มีลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่คุณวางไว้ อย่างไรก็ตาม การขายถือเป็นงานบริการ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะให้คุณเน้นเรื่องการให้บริการด้วยใจจริง มีหน้าตาที่เป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะส่วนนี้จะช่วยทำให้คุณขายสินค้าแถมอาจจะมีลูกค้าประจำมาใช้บริการหรืออาจจะบอกต่อเพิ่มจำนวนลูกค้าประจำให้กับคุณอย่างคาดไม่ถึงก็ได้ เอาใจช่วยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://kadnad.org/