สำหรับนักขายหรือผู้ที่ทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการขาย เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมนักขายแต่ละคนประสบความสำเร็จหรือปิดการขายสำเร็จไม่เหมือนกัน ชี้ช่องรวย มีคำตอบและขอแนะนำว่าอย่านำมาใช้ ก่อนจะเสียลูกค้าชั้นดีไป ดังนี้
1.นักขายที่ดีต้องพูดแต่เรื่องสินค้าเยอะๆ
ไม่ผิดที่ ”นักขาย” จะรู้และเข้าใจในรายละเอียดหรือสรรพคุณของสินค้าเป็นอย่างดี และมั่นใจในตัวสินค้าของบริษัทหรือองค์กรอย่างมาก แต่การพูดถึงแต่ข้อดีของสินค้าจนเกินพอดีก็จะเป็นเหมือนการโม้หรืออวดอ้างจนเกินจริง เพราะในความเป็นนั้น “ไม่มีลูกค้าคนไหนแคร์สินค้าของคุณ ถึงแม้ว่ามันจะดีแค่ไหนก็ตาม”
แต่สิ่งที่ลูกค้าให้ความสนใจ คือ สินค้าตอบโจทย์ความต้องการของเขาโดยตรงหรือไม่ หรือทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้นอย่างไรต่างหาก
ดังนั้น วิธีแก้ก็คือ คุณต้องถามคำถามที่ดี ถามหาความต้องการที่ซ่อนอยู่ของลูกค้าการถามคำถามลูกค้าจะช่วยให้คุณรับรู้ถึงความต้องการของลูกค้าเพื่อนำไปสู่การตอบโจทย์ได้ง่ายขึ้น ดีกว่ามัวไปพูดถึงรายละเอียดของสินค้า ซึ่งนั่นจะทำให้คุณปิดการขายได้ยากขึ้น
2.นักขายที่ดีต้องพูดจาแบบน้ำไหลไฟดับถึงจะขายของได้
การที่คุณนำเสนอขายสินค้าหรือบริการให้กับคนที่ไม่ต้องการหรือไม่จำเป็นต้องมีและต้องใช้ ก็เหมือนกับการที่ขายน้ำแข็งให้กับชาวเอสกิโม ทั้งที่รู้กันว่าชาวเอสกิโมไม่ได้ต้องการน้ำแข็งหรอก เพราะฉะนั้น หากมีฝรั่งบอกคุณว่า “You’re such a smooth talker, you could sell ice to Eskimos.” แปลว่าโห คุณน่ะพูดเก่งจัง พูดได้ลื่นไหลมาก อย่างกับจะขายน้ำแข็งให้ชาวเอสกิโมเชียวเลยล่ะ (สำนวนนี้มักพบใช้ในกลุ่มอาชีพพนักงานขายหรือพวก Salesman นั่นเอง)
ดังนั้น ในยุคปัจจุบัน การพูดเก่งไม่ได้แปลว่าจะช่วยให้คุณขายของได้ เพียงคุณปรับเปลี่ยนวิธีแค่ขายสินค้าให้กับคนที่ต้องการจริงๆ แค่นั้น
3.นักขายที่ดีต้องโน้มน้าวคนทุกคนที่คุยด้วย
การพูดจาหว่านล้อม หรือโน้มน้าวให้ลูกค้าให้เชื่อถือจนซื้อสินค้าของคุณ แต่บางครั้งไม่แน่ว่าคุณอาจจะโน้มน้าวผิดคน คือ ไปคุยกับคนที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจก็ได้ ทำให้เสียเวลาแล้วยังไม่ได้ยอดขายอีก
ดังนั้น ช่วงเปิดการขาย ควรเริ่มจากการสนทนา ตั้งคำถามที่ดี และถามหาขั้นตอนการซื้อเพื่อทราบว่าใครเป็นผู้ตัดสินใจตัวจริงในเรื่องนี้จะได้ไม่เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย
4.นักขายที่ดีต้องคึกเสมอ อินเนอร์มาเต็ม ตื่นเต้นเข้าไว้
การสร้างความตื่นเต้นด้วยน้ำเสียงท่าทาง หรือประโยคที่กินใจไปถึงผู้ฟัง แม้จะเป็นข้อดีแต่บางครั้งก็อาจดูเหมือนคุณเสแสร้งแกล้งทำ ทำให้ขาดความน่าเชื่อ ดังนั้น วิธีที่ง่ายๆ คือคุณแค่ต้องวางมาดชิลล์ๆ พูดความจริงเกี่ยวกับสินค้าของคุณเท่านั้นเอง คุณจะดูน่าเชื่อถือมากกว่าเดิมเยอะมาก
5.นักขายที่ดีต้องพูดจานุ่มนวล เรียบร้อย
จริงอยู่การพูดจาที่นุ่มนวล พูดไพเราะ สุภาพอ่อนโยน มีความเกรงใจ นอบน้อม เป็นสิ่งดีที่นักขายทุกคนพึงจะกระทำ แต่จริงๆ แล้วลูกค้าไม่ต้องการนักขายที่พูดจาสุภาพ อ่อนโยน เกรงอกเกรงใจจนเกินเหตุ เพราะจะกลายเป็นว่าทำให้คุณดูไม่น่าเชื่อถือ เพราะสิ่งที่ลูกค้าต้องการมีเพียงแค่ “ความจริง”เท่านั้น
ดังนั้น น้ำเสียง บุคลิกมั่นใจแต่ไม่ก้าวร้าวจนเกินไป เหมือนกับคุณคุยกับเพื่อนร่วมงานของคุณที่มีความเป็นกันเอง ไม่ก้าวร้าวหรือนอบน้อมจนเกินเหตุ จะทำให้คุณกับลูกค้าสามารถคุยรายละเอียดได้สะดวกใจด้วยซ้ำ
6.นักขายที่ดีต้องตื๊อเก่ง
หลายคนแค่หลับตาก็มักจะนึกภาพ “นักขาย” ว่าจะต้องตื๊อหรือเซ้าซี้เก่ง สร้างความรำคาญให้กับลูกค้าบางคน ก่อนอื่นคุณต้องแยกแยะให้ออกว่า “ตื๊อ” กับการ “ตามงาน” นั้น แตกต่างกัน ดังนั้น การพูดจาหรือการแสดงท่าทีจะต้องไม่เหมือนการถูกรบกวน การใช้ถ้อยคำที่สุภาพ แต่แอบแฝงไปด้วยข้อจำกัด หรือข้อกำหนด จะทำให้ลูกค้ารู้สึกสูญเสียหากไม่รีบตัดสินใจ หรือรู้สึกว่า ฉันต้องซื้อ ณ ตอนนั้นเลย เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.sales100million.com