โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

ได้เวลาพลิกวิกฤต เป็นโอกาส “ไทยเที่ยวไทย” รับภัย COVID-19

จากผลกระทบการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “COVID-19” ทำให้ธุรกิจภาคการท่องเที่ยวไทยต่างตกอยู่ในภาวะระส่ำระสาย ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไปเรียกว่าเกือบจะ 100 % โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มหลักเพราะมีจำนวนที่เดินทางมาท่องเที่ยวมหาศาลในแต่ละปี เมื่อเกิดวิกฤตเช่นนี้ หนทางที่จะสามารถช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว ไปจนถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็คือ รณรงค์ให้คนไทยหันมา “ท่องเที่ยวไทย”

ในงานเสวนา “ชี้ทางรอดธุรกิจท่องเที่ยว” จัดโดย ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้จัดงาน “SCB เที่ยวไทย ไปด้วยกัน” พร้อมทั้งมีการพูดคุยและถกความคิดเห็นในเรื่องของการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

ไทยช่วยไทย หันมาท่องเที่ยวภายในประเทศ

นางรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้า และการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงหนทางที่พอจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ที่พัก ก็คือ การที่คนไทยหันมาท่องเที่ยวภายในประเทศ และถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่คนไทยจะได้ราคาที่พักที่มีราคาถูก และยังได้รับการบริการที่ดีระดับเวิลด์คลาส โดยทาง ททท.ได้เตรียมแผนรับมือกับ 2 มาตรการ คือ 1.ซ่อมสร้าง โดยให้ผู้ประกอบการใช้โอกาสในช่วงนี้ กลับมาพัฒนาปรับปรุงให้สินค้าและบริการให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยทาง ททท.ได้ร่วมมือกับทางสมาคมโรงแรมไทย ทำเกณฑ์วัดมาตรฐานโรงแรมระดับ 3-5 ดาว พร้อมทั้งตรวจสอบและมอบใบประกาศนียบัตรการันตีถึงคุณภาพของโรงแรมที่พักแต่ละแห่ง รวมไปถึงการทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี 2.กระตุ้น เป็นมาตรการรองมาจากการซ่อมสร้าง ด้วยการกระตุ้นให้คนไทยหันมาท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งเมืองหลักและเมืองรอง โดยมีเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวเรียกว่า “60 เส้นทางความสุข” พร้อมกระตุ้นแคมเปญ ไทยเที่ยวไทย คือ ไทยเท่

วิกฤตดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

ในขณะที่ นายเอกสิทธิ์ โชติกเสถียร เหรัญญิก สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวให้ความเห็นว่า วิกฤตดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยต่างเจอวิกฤตมาอย่างโชกโชน กว่า 20 เรื่องในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม สึนามิ การเมือง โรคซารส์ หรือ ไข้หวัดนก ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมานานจะคุ้นเคยและเตรียมการรับมือแล้วในระดับหนึ่ง แต่มาคราวนี้นับว่าหนักมาก และพยายามประสานงานกับหน่วยงานราชการเพื่อหาทางเยียวยาผู้ประกอบการ ซึ่งมี 3 แนวทาง ได้แก่ 1.ทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการมีรายได้มากขึ้น 2.ลดค่าใช้จ่าย 3.เลื่อนค่าใช้จ่ายออกไป เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการอยู่รอดในช่วงเวลาสั้นๆ โดยคาดว่าภายใน 3 เดือนธุรกิจจะฟื้นคืน ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าประเทศไทยว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยได้ และตอนนี้คิดว่าตลาดที่ดีที่สุดในตอนนี้ คือ ตลาดคนไทยเที่ยวไทย

“ที่ผ่านมาเราได้รับการสนับสนุนดีพอสมควรจากทางภาครัฐและภาคธุรกิจด้วยกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ทุกธุรกิจจะต้องดูแลและทำเพื่อความอยู่รอดก่อน ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำ คือ 1.รัดเข็มขัด 2.ทำธุรกิจร่วมกันในภาคธุรกิจเดียวกัน”

ได้เวลาผู้ประกอบการ “รีโนเวท” ให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ทางฟากฝั่งของ นายสุจินต์ เจียรจิตเลิศ อุปนายกสมาคม ประธานฝ่ายการตลาด และประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมโรงแรมไทย ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างไปให้ความสำคัญกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น หรือมุ่งเน้นแต่รับแต่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเป็นกรุ๊ป เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจึงได้รับผลกระทบมาก โดยเฉพาะโรงแรมที่พัทยาซึ่งมีชาวจีนลงมาก รวมไปถึงกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต จึงค่อนข้างได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ แต่อย่างไรก็ตามที่ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเข้าพักเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว และชาวจีนจะเข้ามาในประเทศไทยช่วงตรุษจีน เมื่อเจอกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนตรุษจีน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลง 3 นโยบายที่คิดว่าจะต้องใช้แน่ๆ คือ ประหยัด หารายได้ และยืดค่าใช้จ่ายออกไป และคิดว่าทุกคนจะต้องใช้มาตรการนี้เป็นขั้นต้นแน่นอน

“ในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาน้อย ผู้ประกอบการควรใช้โอกาสนี้หันมารีโนเวทพัฒนาปรับปรุงโรงแรม ต้องคิดว่ารีโนเวทอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งทางสมาคมฯ ได้ประสานไปยังกระทรวงการคลังเพื่อที่จะขอหักค่าใช้จ่ายในการรีโนเวท และตอนนี้ได้ข่าวดีมาว่าสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 1.5 เท่า และในเรื่องของการสนับสนุนการประชุมสัมมนาภายในประเทศ ตอนนี้กระทรวงการคลังมีการอนุมัติออกมาว่าค่าใช้จ่ายในการประชุมสัมมนาภายในประเทศสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ เมื่อเรามีเงินทุนมารีโนเวทแล้ว จะต้องรีโนเวทให้เหมาะสมกับยุคสมัย มีการเตรียมตัวรับ First Booking ลูกค้าชาวจีนที่จะกลับมาอย่างไรด้วย และส่วนหนึ่งที่เราต้องการนอกเหนือจากนี้ คือ การหาตลาดใหม่ที่จะเข้ามาสนับสนุนในระยะยาว เช่น อินเดีย ที่ปัจจุบันถือเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก”

3 มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ

ทางด้าน นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ SME ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารได้ออก 3 มาตรการช่วยเหลือ คือ 1.ช่วยพัก โดยพักชำระเงินต้นให้กับผู้ประกอบการทีได้รับผลกระทบเป็นระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน เพื่อแบ่งเบาภาระในเบื้องต้นให้กับผู้ประกอบการ 2.ช่วยขาย โดยธนาคารจึงจับมือกับพันธมิตร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และสมาคมโรงแรมไทย (THA) จัดงาน “SCB เที่ยวไทย ไปด้วยกัน” เพื่อช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการกว่า 50 ราย ที่ได้รับผลกระทบ เมื่อวันที่ 25-28กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเสนอขายแพ็กเกจ มอบส่วนลดสูงสุด 60% สำหรับโรงแรม ที่พัก โปรแกรมท่องเที่ยว ร้านอาหาร ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยโดยตรง พร้อมแคมเปญพิเศษจากธนาคาร สำหรับผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของ SCB ใช้คะแนนเท่ายอดซื้อแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%

พร้อมกันนี้ยังเพิ่มโอกาสการขายด้วยการจัด Roadshow สัญจรไปยังสำนักงานองค์กรพันธมิตรต่างๆ ซึ่งมีทั้งกลุ่มพนักงานและลูกค้า 3.ช่วยลดต้นทุน ผ่านการทำ Business Matching ให้ผู้ประกอบการโรงแรมและท่องเที่ยวจับคู่เจรจาธุรกิจกับกลุ่มคู่ค้าทางธุรกิจ อาทิ Online Travel Agents ชั้นนำที่จะช่วยเปิดประตูให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มอื่นๆ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อชดเชยนักท่องเที่ยวจีนที่ รวมทั้งคู่ค้าผู้พัฒนาเทคโนโลยีในการบริหารจัดการธุรกิจซึ่งมีประสิทธิภาพ อาทิ ระบบบริหารจัดการห้องพัก ระบบประหยัดพลังงาน ระบบบัญชี เป็นต้น