ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

20 วิธี เริ่มต้นขายของ “ตลาดนัด” ให้รวยเร็ว


หลายคนที่มีอาชีพเปิดท้ายขายของหรือขายของตามตลาดนัด หรือผู้มีประสบการณ์ผ่านงานขายแนวนี้มาอย่างโชกโชน ก็คงดูเป็นไม่เป็นการยากหากจะคิดกลยุทธ์การขายให้ดึงดูดความสนใจของลูกค้า เพราะเคยผ่านทั้งอุปสรรคและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน แต่สำหรับนักขายมือใหม่ หรือผู้ที่กำลังจะมีแผนเปิดท้ายขายของตามตลาดนัดต่างๆ แต่ยังไม่รู้วิธีหรือหลักการขายที่จะสามารถพิชิตใจลูกค้าว่าต้องทำอย่างไร ชี้ช่องรวย มี 20 วิธีเริ่มต้นขายของตลาดนัดให้รวยเร็วมาฝาก ดังนี้

1.อดทน

คุณต้องรู้จักใช้ความอดทนให้เกิดประโยชน์ เช่นคุณจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายตลาดนัดตอนเย็น ก็ต้องมีความอดทนเรื่องของสภาพอากาศ อดทนเรื่องนิสัยของลูกค้าในแต่ละประเภท เพื่อให้ขายของได้กำไรมากที่สุด ดังนั้น ความอดทนจึงเป็นคุณสมบัติที่แม่ค้า พ่อค้าทุกคนควรมี และควรใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองให้มากที่สุด

2.มุ่งมั่น
คนเรามีแค่เป้าหมายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีความมุ่งมั่นร่วมด้วย เพราะถ้าคุณต้องการไปให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการ ต้องมุ่งมั่นและพยายามไปให้ถึง เช่นเดียวกับการขายของตลาดนัดให้รวย ยิ่งต้องใช้ความมุ่งมั่นเหล่านี้เช่นเดียวกัน

3.ตั้งใจ

หากทุกคนมีความตั้งใจบวกกับทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ ดังนั้น สำหรับอาชีพค้าขายถ้ามีความตั้งใจแล้วล่ะก็ “รวย” แน่นอน

4.บริการอย่างเต็มที่

คนที่มีหัวใจในงานบริการ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอาชีพค้าขาย ที่พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายควรฝึกการบริการให้ดี เพราะถ้าคุณบริการดีจนลูกค้าประทับใจ วันๆ หนึ่งคุณขายได้กำไรหลักพันบาทชัวร์

5.หาลูกค้าประจำ

การที่จะหาลูกค้าประจำ อันดับแรกคุณต้องสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ด้วยการบริการที่ดี เป็นมิตรกับลูกค้า เมื่อลูกค้าเกิดความพึงพอใจเขาต้องกลับมาใช้บริการร้านคุณอีกแน่นอน

6.ไม่เป็นพวกใคร

อาชีพค้าขาย โดยเฉพาะแม่ค้า พ่อค้าตามตลาดนัดโดยปกติมักจะมีการเกาะกลุ่มเม้าท์มอยกัน บางร้านถึงขั้นตะโกนพูดคุยข้ามร้านกันเลยทีเดียว ที่สำคัญถ้าร้านไหนถูกแม่ค้าอีกร้านที่มีพวกเยอะกว่าเกียจชัง ร้านนั้นไม่มีทางขายของอย่างมีความสุขแน่นอน ซึ่งทางที่ดีถ้าคุณเป็นหนึ่งในแม่ค้าในตลาดนัดนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเกาะกลุ่มให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการเกียจชัง และเพื่อให้ทำงานอย่างมีความสุข

7.มีน้ำใจ

การมีน้ำใจช่วยเหลือแบ่งปัน เป็นคุณสมบัติที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ ที่สำคัญยามที่คุณมีปัญหาเดือดร้อน ก็จะมีคนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น ตั้งแผงขายของในตลาดนัดแห่งหนึ่ง ข้างๆ ร้านคุณจะมีร้านอื่นๆ ที่ไม่รู้จักตั้งแผงต่อกันเรียงยาว อันดับแรกให้รู้จักแบ่งปัน ชวนร้านข้างๆ กินข้าว/กินขนม ให้กำลังใจต่อกัน เพียงเท่านี้ก็สร้างมิตรภาพได้แล้วล่ะ

8.เอาหูทวนลม

ข้อนี้คล้ายๆ ข้อที่ผ่านมา เพราะทุกคนรู้คุณสมบัติของแม่ค้าดีว่า พูดเก่ง ชอบเม้าท์มอย ถ้าคุณเผลอหลวมตัวไปนั่งเม้าท์มอยกับเขา สักวันคุณตกเป็นเหยื่อที่ถูกเม้าท์มอยเช่นกัน ดังนั้นควรเอาหูทวนลม เออ ออ ไปกับเขาเพื่อไม่ให้เสียมารยาทจนเกินไป

9.ปรับปรุงสินค้า

คำติชมของลูกค้าคือ “ยาวิเศษ” จงนำคำติชมเหล่านั้นมาปรับปรุงและแก้ไขให้ดีขึ้น เพื่อให้ร้านของคุณมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีลูกค้าเข้าร้านต่อเนื่อง

10.ยอมรับความเปลี่ยนแปลง

บางสิ่ง บางอย่าง ที่คุณคิดว่าดีแล้ว อาจยังไม่ถูกใจใครหลายๆ คน ดังนั้น ต้องยอมรับที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และสินค้าให้ดีขึ้น อย่างน้อยคุณก็ยังสามารถรักษาลูกค้าและรายได้ให้คงอยู่สม่ำเสมอ เพราะการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีจะส่งผลให้คุณเจอผลตอบรับที่ดีเยี่ยมแน่นอน

11.ตามกระแสนิยม

อาชีพค้าขายไม่เว้นแต่พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัด ที่ต้องตามกระแสปัจจุบันให้เหนียวแน่น เพราะกระแสนิยมเหล่านี้จะเรียกลูกค้าเข้าร้านได้โดยปริยาย ยิ่งถ้าคุณตามเทรนด์สินค้าต่อเนื่อง นอกจากจะมีลูกค้าให้ความสนใจแล้ว ยังส่งผลให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

12.เลือกทำเล

แม่ค้าพ่อค้ามือใหม่ทุกคนควรรู้จักเลือกทำเลตั้งร้านขายของ โดยต้องดูว่า ทางเดินไหนที่ลูกค้าเดินเข้า-เดินออกมากที่สุด แล้วมุมไหนที่ลูกค้ามองเห็นร้านของคุณได้ชัดเจนที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งรายได้ และผลการตอบรับที่ดี

13.ป้ายหน้าร้านชัดเจน

สิ่งที่จะทำให้ร้านของคุณโดดเด่น และสะดุดตามากที่สุดคือ การตั้งป้ายหน้าร้านขนาดใหญ่ และมีตัวหนังสือชัดเจน โดยเฉพาะบ่งบอกว่าร้านของคุณขายอะไร มีอะไรขายบ้าง และราคาเท่าไหร่ เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าตัดสินใจมาซื้อสินค้าร้านของคุณมากขึ้น

14.เสียงดังเข้าไว้

การใช้เสียงเพื่อเรียกลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะแม่ค้าพ่อค้าในตลาดนัดที่ต้องแข่งกันขาย แข่งกันเรียกลูกค้า นอกจากใช้เสียงเรียกลูกค้าแล้ว ต้องบอกลูกค้าด้วยว่า ร้านของคุณขายอะไร ราคาเท่าไหร่ อร่อยไหม ใช้ดีไหม เพื่อสร้างการตัดสินใจให้ลูกค้าเดินมายังร้านของคุณมากที่สุด

15.ยิ้มแย้มแจ่มใส

ถ้าคุณเป็นลูกค้าแล้วเห็นแม่ค้าหน้าบึ้งตึง คุณจะกล้าไปซักถามแม่ค้าคนนั้นไหมว่า สินค้าชิ้นนี้ใช้ดีไหม? แล้วขายอย่างไร? ซึ่งถ้าสินค้าชิ้นนั้นไม่จำเป็นจริงๆ เชื่อว่าคุณไม่อยากเดินเข้าร้านแน่นอน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะโกรธใครมา ให้ยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เพราะลูกค้าเขาไม่รู้หรอกว่าวันๆ หนึ่งคุณไปเจออะไรมาบ้าง

16.จ๊ะจ๋าให้เป็น

แม่ค้าพ่อค้าที่พูดเพราะมีหางเสียงทุกครั้งที่ตอบคำถามลูกค้า มักจะได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ แน่นอน ซึ่งไม่ว่าคุณจะอยู่ในห้วงอารมณ์ไหนก็ตาม เมื่อทำหน้าที่ค้าขายต้องจ๊ะจ๋าลูกค้าเข้าไว้ พร้อมกับลงท้ายทุกครั้งที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อว่า ขอบคุณค่ะ/ครับ

17.เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน

ร้านค้าข้างแผงลอยคุณก็คือเพื่อนบ้านดีดีนี่เอง ดังนั้น ให้คิดไว้ว่าเขาเป็นเพื่อนบ้านของเรา มีอะไรก็ต้องรู้จักแบ่งปัน ช่วยเหลือกันและกัน ก็ดีเสียกว่าคุณไปสร้างศัตรูอยู่ข้างบ้านตัวเอง

18.สภาพร้านสะอาด

ลูกค้าทุกคนล้วนต้องการกินอาหารที่สดสะอาด ซึ่งไม่ว่าคุณจะป่าวประกาศว่าร้านของคุณอาหารอร่อย สด สะอาดเพียงใด แต่ถ้าภายในร้านหรือบริเวณรอบร้านสกปรกก็ไม่มีใครเขาเชื่อแน่นอน จึงจำเป็นต้องรักษาความสะอาดให้สม่ำเสมอ เก็บของให้เป็นที่เป็นทาง เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นในร้านของคุณ

19.สินค้ามีคุณภาพ

สินค้ามีคุณภาพ คือหัวใจสำคัญของธุรกิจทุกประเภท เพราะใครๆ ก็ต่างต้องการสินค้าที่ดีเหมาะสมแก่ราคาที่จะจ่าย ถ้าใช้แล้วคุ้มค่าโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำมีเปอร์เซ็นสูง แถมถ้าลูกค้าเกิดติดใจสินค้าชิ้นนั้นยังบอกต่อปากต่อปากให้อีกด้วย

20.ราคาไม่แพง

ถึงแม้สินค้าของคุณจะดีจนไม่อยากหยุดใช้ แต่เมื่อพูดถึงราคาแล้วสูงจนไม่กล้าซื้อก็มี ดังนั้น ให้แม่ค้าพ่อค้าทุกคนควรพึงรำลึกไว้ว่า สินค้าที่คุณว่าดีแล้ว ยังมีสินค้าอีกหลายชิ้นที่ดีกว่าคุณแน่นอน แถมยังราคาถูกกว่าอีกด้วย ฉะนั้น ก่อนขายต้องตั้งราคาให้สมเหตุสมผล เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสินค้าและผู้ซื้อมากเกินไป

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : seminardd.com