กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ มอบเงินร่วม 29 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์เพื่อช่วยในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19
โดย กัลฟ์ ได้มอบเงินจำนวน 20 ล้านบาท แก่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจและเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (เครื่อง ECMO) เพื่อผู้ป่วย COVID-19 นำโดย นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 3 จากซ้าย) มอบเงินสนับสนุนจำนวน 20 ล้านบาทให้แก่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจจำนวน 5 เครื่อง และเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (เครื่องเอคโม – ECMO) จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งเครื่อง ECMO มีศักยภาพในการทำงานทดแทนปอดและหัวใจได้ ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ปอดหรือหัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือเกิดความผิดปกติขึ้น นับเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญและต้องการเป็นอย่างมากท่ามกลางการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19)
นอกจากนี้ กัลฟ์ ยังได้มอบเงินสนับสนุนแก่โรงพยาบาลราชวิถี 4 ล้านบาท สถาบันบำราศนราดูร 4 ล้านบาท และสถาบันโรคทรวงอก 1 ล้านบาท เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการรักษาผู้ป่วย COVID-19 และผู้ป่วยภาวะการหายใจล้มเหลว เช่น เครื่องช่วยหายใจชนิดอัตราการไหลสูง (High Flow Oxygen Therapy Device) เครื่องช่วยหายใจชนิดแรงดันบวกสองระดับ (BiPAP) เครื่องช่วยหายใจชนิดเคลื่อนย้าย และเครื่องติดตามและเฝ้าระวังสัญญาณชีพผู้ป่วยแบบศูนย์กลาง เป็นต้น
ในการนี้ นายสิตมน รัตนาวะดี ในนามตัวแทน นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางกลุ่มบริษัทกัลฟ์มีความตั้งใจและมีส่วนเข้าไปช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและด้านการแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง เราตระหนักดีว่าขณะนี้หน่วยงานทางการแพทย์หลายแห่งประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ จึงประสงค์ที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ด้านนี้โดยการมอบเงินสนับสนุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอสำหรับผู้ป่วย COVID-19 ที่มียอดเพิ่มขึ้นตามลำดับ
“กลุ่มบริษัทกัลฟ์ขอเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในทุกภาคส่วน ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อยับยั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 กัลฟ์หวังว่าความร่วมมือของทุกคนจะช่วยทำให้ยอดของผู้ป่วย COVID-19 ลดลงในเร็ววัน” นายสิตมน รัตนาวะดี กล่าว
น.พ. อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า ทางสถาบันบำราศนราดูรขอขอบคุณทางกลุ่มบริษัทกัลฟ์เป็นอย่างมาก เงินที่ได้โรงพยาบาลจะไปจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ เพราะถ้าโรงพยาบาลมีเครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นจะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงหนักให้ได้รับการรักษาที่เป็นไปตามมาตรฐานและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตสูง แม้ว่าโรคนี้จะน่ากลัว แต่ก็ป้องกันได้ ถ้าทุกคนร่วมกัน Social Distancing (เว้นระยะห่างทางสังคม) และมี Social Responsibility (ความรับผิดชอบต่อสังคม) ถ้าร่วมมือกันเราก็จะควบคุมสถานการณ์ได้
ด้าน สถาบันโรคทรวงอก น.พ. เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการ กล่าวว่า เนื่องจากอาการของโรคโควิด-19 เป็นอาการที่เกี่ยวกับปอดและทางเดินหายใจ เราจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อที่จะเข้ามารักษา ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมของสถานที่ รวมไปถึงเรื่องของเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ โดยในแต่ละครั้งที่มีคนไข้ติดเชื้อเข้ามารับการรักษา จะต้องใช้เวลาเตรียมการนานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดทั้งทีมแพทย์และคนไข้เอง ซึ่งการที่กัลฟ์บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการซื้อเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ให้กับสถาบันโรคทรวงอกในครั้งนี้เป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อที่เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล และช่วยให้การรักษาของทีมแพทย์เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ทางโรงพยาบาลราชวิถีต้องขอขอบคุณกลุ่มบริษัทกัลฟ์ด้วยใจจริง โดยเงินที่ได้มาจะนำไปจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จะเป็นประโยชน์และได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยอย่างแน่นอน” นางนงนารถ สัตถาผล หัวหน้าฝ่ายการเงินและบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี กล่าว
กัลฟ์ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสนับสนุนโครงการพัฒนาสถานพยาบาลในพื้นที่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้าอีกทั้งยังร่วมสนับสนุนโครงการด้านสุขภาพและสาธารณสุขที่เป็นประโยชน์กับสังคมโดยรวม สำหรับด้านสาธารณสุขนั้นก็สะท้อนผ่านกิจกรรมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผ่านมา เช่น การมอบเงิน 20 ล้านให้แก่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจและเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอดและหัวใจหรือเครื่อง ECMO สำหรับผู้ป่วยโรค COVID-19 การร่วมสนับสนุนการก่อสร้าง พัฒนา และปรับปรุงสถานพยาบาล รวมไปถึงการสนับสนุนด้านการศึกษาแก่นักศึกษาแพทย์เพื่อประโยชน์ในระยะยาว