โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

8 กลยุทธ์ แก้เกมธุรกิจในช่วงวิกฤติ โควิด 19 ให้เติบโตได้ในทุกสถานการณ์

ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจย่ำแย่ คำถามที่มักเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการหลายต่อหลายท่านคือ “ขายของไม่ดีเลย ทำยังไงดี” วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงมีบทความดีๆ จาก Krungsri Guru เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยประคับประคองธุรกิจในยามเศรษฐกิจไม่ดี แล้ว Krungsri Guru จะมีกลยุทธ์อะไรบ้างที่จะช่วยดันให้ธุรกิจของท่านได้เติบโตโดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไปดูกันเลย

กลยุทธ์ที่ 1 ลงทุนน้อย ให้ได้กำไรมาก

การลงทุนน้อยๆ ให้ได้กำไรมากๆ นั้นเป็นศิลปะของการทำธุรกิจ วิธีการเหล่านี้มีมานานตั้งแต่อดีต สมัยโบราณมาแล้วครับ เวลาที่สองเมืองรบพุ่งกันวิธีการที่จะชนะโดยเสียเสบียงไพร่พลให้น้อยที่สุดจะถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด มาถึงยุคปัจจุบันการทำตลาดด้วยการลงทุนน้อยๆ แต่ให้ได้ผลมากๆ ก็ได้แก่ การทำตลาดผ่าน social network

เพราะในปัจจุบันตัวเลขของลูกค้าที่หันมาใช้โทรศัพท์มือถือ smart phone หรืออุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ต่างๆ เริ่มมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การทำตลาดต้นทุนสูงๆ ในระบบเดิมๆ อาจจะหมดไปในอนาคตครับ ถ้าหากผู้ประกอบการทำได้ถูกจุด-ถูกทาง ก็จะเกิดแรงกระเพื่อมมหาศาล และทำให้สามารถเพิ่มยอดสินค้า-บริการของเราได้แม้ในยามที่เศรษฐกิจฝืดเคือง

กลยุทธ์ที่ 2 ปรับปรุงคุณภาพสินค้าอย่างสม่ำเสมอ

ในยามที่เศรษฐกิจดี เจริญรุ่งเรือง ผู้ประกอบการอาจต้องใช้เวลาแทบจะทั้งหมดไปกับการผลิตสินค้าให้ทันความต้องการของลูกค้า แต่ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ เวลาที่ใช้ในการผลิตลดลง ก็จะเปิดอีกโอกาสหนึ่งให้ผู้ประกอบการได้หันมาพัฒนา และปรับปรุงคุณภาพสินค้า ปรับปรุงระบบการผลิตให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

เพราะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะมาถึงเราไม่วันใดก็วันหนึ่ง แทนที่ผู้ประกอบการจะเครียดกับยอดขายที่ปรับตัวลง ควรใช้เวลาหันมาปรับปรุงสินค้า-บริการของเราให้ดีอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่า เมื่อภาวะเศรษฐกิจกลับมาดีดังเดิมผุ้ที่พร้อมกว่าจึงจะได้รับชัยชนะ นี่ก็คือหนึ่งในกลยุทธ์สำหรับการทำธุรกิจได้ทุกช่วงเวลา

กลยุทธ์ที่ 3 ขายให้ถูกช่วงเวลา

ในยามเศรษฐกิจตกต่ำ บางครั้งการขายสินค้าที่ไม่เหมาะกับกาลเวลา- ไม่เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลาก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจของเรา “สะดุด” เอาง่ายๆ ครับ หากเกิดภาวะที่ฝืดเคือง ผู้ประกอบการอาจจะหันมาทำสินค้าประเภท “ประหยัดเงินในกระเป๋าของลูกค้า” มากขึ้น และลดสินค้าประเภทฟุ่มเฟือยลงเพื่อให้เข้ากับภาวะโดยภาพรวม และหากเศรษฐกิจกลับมาดีอีกครั้งเราก็สามารถปรับเปลี่ยนในทิศทางที่เหมาะกับช่วงเวลา

กลยุทธ์ที่ 4 สงบสยบความเคลื่อนไหว

กลยุทธ์นี้ว่าที่จริงก็มีมาช้านานเช่นกัน เมื่อเกิดสภาวะที่ไม่ดีตลาดฝืดเคือง การขยับขยายอะไรเกินตัวก็อาจทำให้กิจการถึงขั้นหายนะได้ บางทีการอยู่นิ่งๆ เพื่อให้พายุผ่านไปก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่ดี ในสมัยโบราณ “แม่ทัพ” ที่ถอดใจไปก่อนจะสำเร็จการใหญ่ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ความอดทน หรือการสงบสยบความเคลื่อนไหว ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่ดี และไม่ควรมองข้ามยามจำเป็น

กลยุทธ์ที่ 5 สะสมกำลังเสบียงให้พร้อม

ผู้ประกอบการอย่างไรบางที่ก็ไม่มีทางรู้ว่าเศรษฐกิจฝืดเคืองจะกลับมาเมื่อไร แต่การเตรียมพร้อม เก็บเสบียงคลังไว้ใช้ยามฉุกเฉินนั้นจะช่วย “ผ่อนหนักให้เป็นเบา” ได้ครับ เสบียงคลังดังกล่าว ได้แก่ กำไรสะสม เครดิตการค้า แม้แต่ทรัพยากรมนุษย์ กำลังพลก็ถือเป็นสิ่งที่เราต้องเตรียมให้พร้อมเช่นกัน

กลยุทธ์ที่ 6 การวิจัย และพัฒนา

ธุรกิจใดที่หยุดนิ่งเท่ากับธุรกิจนั้นเริ่มนับถอยหลัง การวิจัยและพัฒนาจะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทั้งในช่วงเวลาปกติ และช่วงเวลาที่มีวิกฤตเศรษฐกิจครับ ผู้ประกอบการที่ดีไม่ควรหยุดนิ่ง ควรหมั่นทำการวิจัย และพัฒนา สินค้า และบริการให้ดีอย่างสม่ำเสมอ

กลยุทธ์ที่ 7 กระชับความสัมพันธ์กับลูกค้า

ยิ่งเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เรายิ่งต้องใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น แม้ในยามที่ลูกค้าอาจไม่มีกำลังจับจ่ายสินค้าของเราแต่หากเราดูแล หมั่นกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เมื่อใดที่เศรษฐกิจกลับมาดีลูกค้าก็จะกลับมาหาเรา นึกถึงเราก่อนคู่แข่งนั่นเอง

กลยุทธ์ที่ 8 เตรียมตัวให้พร้อมทุกสถานการณ์

กลยุทธ์สุดท้ายคือการรวมเอาทุกกลยุทธ์ข้างต้นเข้าด้วยกัน ทั้งการดูแลความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า การเตรียมเสบียงให้พร้อม การวิจัย และพัฒนา การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะกับสภาพที่เป็นไปของเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ประกอบการมีความพร้อม “เตรียมตัวพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์” ไม่พลาดพลั้งยามเกิดวิกฤต และสามารถคว้าโอกาสได้ยามที่ทุกอย่างกลับมาดีดังเดิมอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : Krungsri Guru