นี่คงเป็นอีกปัญหาน่าเบื่อของ พ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ที่ต้องเจอกับลูกค้าที่ชอบสั่งสินค้า แต่ไม่พร้อมโอนเงิน ปล่อยให้ พ่อค้า แม่ค้า รอเก้อแถมไม่ได้เงิน หรือบางคนก็ชอบถามมากมายแต่ก็ยังไม่สั่งซื้อสินค้าซักที วันนี้จะมาดูว่าเรื่องเหล่านี้เกิดจากสาเหตุอะไร เป็นเพราะ คนขาย หรือ เป็นที่ลูกค้า กันแน่ และมาดูกันว่าเราจะมีทางออกให้กับเรื่องนี้ได้อย่างไรบ้าง
1.ตอบคำถามให้ชัดเจน
การตอบคำถามให้ชัดเจนเหมือนเป็นการมัดใจอยู่หมัด ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาทักแชท มักจะมาด้วยการสอบถามราคา เจ้าของร้านที่ดี นอกจากการแจ้งราคาแล้ว ควรต้องอธิบายรายละเอียดข้อดีของสินค้าร้านเราเพิ่มเติมเข้าไปด้วย ให้ลูกค้าเห็นความแตกต่างว่าทำไมต้องซื้อสินค้าร้านเราเท่านั้น
2.ยิ่งไว ยิ่งดี
ตอบยิ่งไว ยิ่งได้ใจ ค่าเฉลี่ยในการตอบแชทลูกค้า ส่วนใหญ่ไม่ควรเกิน 5 นาที ยิ่งตอบได้ไว ลูกค้าก็ไม่หนีหาย เพราะถ้าร้านไหนตอบช้า ช่วงเวลาที่คุณปล่อยให้เสียไป จะช่วยสร้างโอกาสให้ร้านอื่นขายสินค้าแบบเดียวกับคุณได้ทันที
3.ใช้ Auto Message ให้เป็นประโยชน์
การใช้ Auto Message ให้เป็นประโยชน์ ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการขายของใน Facebook ที่จะช่วยตอบคำถามที่ลูกค้าส่วนใหญ่ถามได้อย่างชัดเจน ทำให้ไม่เสียเวลาและโอกาสในการขายของ
4.ระบุราคาสินค้าให้ชัดเจน
หลายครั้งที่เราเห็นว่าร้านค้ามักไม่ใส่ราคาลงไปในภาพสินค้า ซึ่งช่วงแรกคุณมิ้นท์ไม่ยอมใส่ราคาลงไปในภาพ เหตุผลเพราะอยากให้ลูกค้าทักเข้ามาถามราคาเยอะๆ เพื่อเป็นการเปิดทางไปสู่การขาย แต่หารู้ไม่ว่า ลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่แค่มาถามราคา แต่ไม่ตัดสินใจซื้อ ทำให้ช่วงหลังเขาเปลี่ยนไปใส่ราคาไว้อย่างชัดเจน ช่วยสร้างยอดขายได้มากขึ้น เพราะคนที่เข้ามาคือลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าจริงๆ
5.จัดโปรโมชั่นดึงดูดความสนใจ
โปรโมชั่น เป็นตัวปิดการขาย การที่ลูกค้าเห็นโปรโมชั่นของร้าน จะช่วยให้ตัดสินใจซื้อสินค้ามากกว่าที่ตั้งใจไว้แต่แรก เพราะการมีโปรโมชั่น จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่ากับเงินที่ได้เสียไป
6.ระบุช่องทางการชำระเงินให้ชัดเจน
พ่อค้า แม่ค้า ควรจะต้องระบุช่องทางการชำระเงินให้ชัดเจน หรือทำให้ลูกค้าจ่ายเงินง่ายที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีแพลตฟอร์มสำหรับร้านค้ามากมาย สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมือสม ยิ่งจ่ายเงินได้ง่ายเท่าไหร่เงินยิ่งเข้ากระเป๋าเร็วขึ้นเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : kasikornbank
