ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

อยากขายของใน “ห้าง” ต้องรู้อะไรบ้าง ?


ห้างสรรพสินค้า ถือเป้นหนึ่งทำเลที่น่าสนใจ ด้วยจำนวผู้คนที่เข้าออกอยู่ตลอดเวลา ทำให้เป็นที่ต้องการของ พ่อค้า แม่ค้า วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาบอกถึงสิ่งที่ต้องรู้ก่อนที่จะของของในห้างว่ามีอะไรบ้าง และจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร

รูปแบบของการเข้าไปขาย

ก่อนที่จะขายของในห้างสรรพสินค้าควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าควรจะลงทุนในรูปแบบไหน คุ้มหรือไม่ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วห้างสรรพสินค้าจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

  1. ขายฝาก เป็นการตกลงจ่ายค่าส่วนลดให้กับห้างสรรพสินค้า จากราคาปกติประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสินค้าอะไร และทางห้างจะคอยเช็คยอดขายว่าสินค้าเราขายดีแค่ไหน ถ้าขายดีก็อยู่รอดต่อไป ถ้ายอดขายไม่ดีก็เตรียมตัวยกเลิกการขายได้
  2. เช่าพื้นที่ โดยปกติจะมีให้เลือกอยู่ 4 รูปแบบคือ ร้านขนาดใหญ่ , ร้านขนาดกลาง-เล็ก, บูธหรือคีออส , ล็อค ทั้งนี้จะเลือกว่าใช้พื้นที่แบบไหนก็อยู่ที่เจ้าของสินค้าเลือกให้เหมาะสมกับสินค้าและดูเรื่องค่าเช่าพื้นที่เป็นสำคัญด้วย

สัญญา ค่าเช่า และรายละเอียดต่างๆ

พ่อค้าแม่ค้าควรให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก และศึกษาในรายละเอียด เพราะรายละเอียดเรื่องสัญญาเช่าเป็นสิ่งสำคัญ การเช่าพื้นที่มีค่าเช่าเท่าไหร่ กับขนาดพื้นที่ของร้าน การวางเงินประกัน การจ่ายเงินมัดจำในการทำสัญญาเช่าว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ล่วงหน้ากี่เดือน ระยะเวลาสัญญาเป็นแบบรายปี หรือจำนวนเท่าไหร่

มีการขึ้นเข้าเช่าในแต่ละปีอย่างไร หรือการเปลี่ยนรายละเอียดของสัญญา ชื่อสัญญา การเปลี่ยนชื่อผู้เช่า รวมไปถึงค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ๆ สำหรับการเช่าพื้นที่ พ่อค้าแม่ค้าก็ควรพิจารณาและอ่านรายละเอียดให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ

เตรียมข้อมูลสินค้าของตัวเองให้พร้อม

การขายของในห้างสรรพสินค้าไม่ใช่แค่มีสินค้า มีค่าเช่า ก็เข้าไปขายได้เลย ห้างสรรพสินค้ามีกฎระเบียบและขั้นตอนมากมายที่ต้องปฏิบัติตาม และที่สำคัญสินค้าของเราต้องน่าสนใจจริงๆ ทางห้างถึงจะให้เราเข้าไปขายได้

พ่อค้า แม่ค้า จะต้องดึงเอาความโดดเด่นของสินค้ามานำเสนอรวมถึงรูปแบบร้านอาจทำในรูปของ perpective ที่เห็นแบบร่างทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และภายในร้าน นอกจากนี้เอกสารต่างๆ ต้องครบถ้วนเช่นหลักฐานการจดทะเบียน ที่ตั้งบริษัท โรงงาน ภาพกระบวนการผลิตต่างๆ เป็นต้น

ทำเลที่ตั้ง

เรื่องสำคัญอย่างหนึ่งเมื่อตัดสินใจเช่าพื้นที่ นั่นก็คือ ทำเลที่ตั้งของร้าน การจัดพื้นที่ที่ตั้งของร้าน ว่าจะอยู่ชั้นไหน โซนไหน การแบ่งพื้นที่ในการขาย พื้นที่ในการเช่า พื้นที่ในการเช่ากับค่าเช่าว่ามีความเหมาะสมหรือไม่

บางห้างนั้นเป็นห้างที่มีชื่อเสียง ดังนั้น ค่าเช่าพื้นที่ในการขายอาจมีราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับขนาดของพื้นที่ที่จะได้ เพราะหากทำเลที่ดี มีคนสนใจเยอะก็อาจจะมีค่าเช่าสูงขึ้นตามขนาดของพื้นที่ การดูทำเลที่ตั้งของร้านจะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้า สามารถออกแบบร้าน ตกแต่งร้าน และวางแผนสำหรับการขายได้

ต้นทุนที่เราจะต้องเสียกับรายจ่ายต่างๆ

แน่นอนว่าในห้างสรรพสินค้าไม่ได้เสียแต่ค่าเช่าพื้นที่ ยังมี ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง , ค่าที่จอดรถ , ภาษีมูลค่าเพิ่ม , ภาษีรายได้ , ภาษีโรงเรือน , ค่าความร่วมมือในการจัดกิจกรรมต่างๆ สิ่งเหล่านี้คือต้นทุนของร้านค้าที่เราต้องคำนวณเป็นอย่างดี เพื่อจะได้มั่นใจว่างานนี้เราจะไม่เสียเปรียบ ไม่ใช่ยิ่งขายกำไรยิ่งหาย ซึ่งไม่มีประโยชน์ใดๆ หากเป็นแบบนั้น