กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ลงพื้นที่นำถุงเยียวยามอบร้านค้าโชวห่วยกว่า 10,000 ร้านค้าทั่วประเทศ หวังช่วยร้านค้าลดต้นทุนสินค้า ฝ่าวิกฤตโควิด-19 กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้ขับเคลื่อน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่า ​วิกฤตโควิด-19 และการดำเนินชีวิตใหม่ (New Normal) อาจนำไปสู่การปรับรูปแบบการทำธุรกิจค้าปลีกที่เห็นภาพชัดขึ้น โดยเฉพาะการสร้างมาตรฐานด้านความสะอาดและความปลอดภัยต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความใส่ใจมากขึ้น ควบคู่ไปกับการทำการตลาดออนไลน์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ทั้งด้านสินค้าและคุณภาพการให้บริการ ภายหลังจากที่ผู้บริโภคเกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ จากการกักตัวและทำงาน ที่บ้าน และกลายเป็นพฤติกรรมใหม่ที่เป็นเรื่องปกติ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้วิถีชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคออกมาใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ในฐานะภาครัฐที่ให้การส่งเสริมร้านค้าโชวห่วยมาอย่างต่อเนื่อง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงได้มอบหมายนายสถาพร ร่วมนาพะยา ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ลงพื้นที่ร่วมกับบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (P&G) นำถุงเยียวยาช่วยเหลือร้านค้าโชวห่วยทั่วประเทศ 10,000 ร้านค้า

ซึ่งประกอบด้วยสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของบริษัท มูลค่า 500 บาท เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม จำนวน 2 ถุง ผงซักฟอก จำนวน 2 ถุง แปรงสีฟัน จำนวน 4 ชิ้น ยาสระผมและครีมนวดผม จำนวน 4 ขวด ที่โกนหนวดพร้อมใบมีด 1 ชุด โดยแบ่งการมอบถุงเยียวยาออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก (เดือนมิถุนายน 63) จะมอบให้ร้านค้าทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการสมาร์ทโชวห่วย จำนวน 6,000 ร้านค้า และระยะที่สองจะมอบให้ร้านค้าที่ผ่านการพัฒนาจากกรม จำนวน 4,000 ร้านค้า

การมอบถุงเยียวยาดังกล่าว จะช่วยลดต้นทุนสินค้าให้ร้านค้าโชวห่วยหรือสามารถนำสินค้าที่ได้รับมอบไปบริโภคส่วนตัว เป็นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายของร้านค้า และทำให้ร้านโชวห่วยสามารถนำกำไร ส่วนเกินไปลดราคาสินค้าในร้าน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง

การแจกถุงเยียวยาดังกล่าว จึงถือเป็นโครงการดีๆ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (P&G) ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจฐานรากและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้หลังช่วงวิกฤตโควิด" รองอธิบดีกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแจกถุงเยียวยาดังกล่าว

ทั้งนี้ นอกจากกิจกรรมช่วยลดต้นทุนให้ร้านค้าโชวห่วยแล้ว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ยังมีการยกระดับร้านค้าโชวห่วยให้สามารถแข่งขันได้คือโครงการสมาร์ทโชวห่วย ซึ่งเป็นการพัฒนาภาพลักษณ์ร้านค้าและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีให้กับร้านค้าโชวห่วยทั่วประเทศ ให้สามารถแข่งขันได้และ มีการบริหารจัดการที่ดี มีกำไรเพิ่มขึ้น

ร้านโชวห่วย หรือร้านค้าปลีกขนาดเล็กในชุมชน ที่มีความผูกพันอย่างใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของคนไทยมายาวนาน เเม้จะต้องเจอการเเข่งขันที่สูงเเละมีอุปสรรครอบด้าน ร้านโชวห่วยจะยังคงอยู่กับคนไทยต่อไป และต้องปรับตัวอีกมาก ดังนั้น เพื่อให้ธุรกิจเกิดความยั่งยืน ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวให้ก้าวทันโลก

รวมถึงการหาจุดเด่นเเละจุดด้อยของ "โชวห่วย เพื่อนำไปสู่การถอดบทเรียนในการแก้ปัญหาและการช่วยเหลือที่ตรงจุด ในขณะเดียวกันการส่งเสริมของภาครัฐก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจดั้งเดิมเหล่านี้แข่งขันได้ในยุคดิจิทัล รองอธิบดีกล่าวสรุป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจการค้า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 5986 สายด่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1570 และ www.dbd.go.th