โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

เก็บไว้เป็นข้อมูล! อยากเปิด “ร้านกาแฟสด” ต้องเตรียมเงินลงทุนส่วนไหนบ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง

เชื่อว่าอาชีพในฝันของใครหลายคน คือ การเป็นเจ้าของร้านเล็กๆ สักร้านที่ลงทุนไม่มาก ได้เป็นนายตัวเอง ไม่ต้องเดินทางไปทำงาน ต้องตอกบัตรเข้าออกงานและต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัท และ “ร้านกาแฟสด” ก็เป็นหนึ่งธุรกิจในฝันของคุณ

บางคนใช้เวลาในช่วงการเป็นมนุษย์เงินเดือนเก็บหอมรอมริบเพื่อจะได้มีเงินทุนสักก้อนมาลงทุนเปิดร้านกาแฟในฝัน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การที่จะปิดร้านกาแฟสดสักร้านนั้น มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ชี้ช่องรวย วันนี้มีสาระดีๆ เกี่ยวกับการลงทุนเปิดร้านกาแฟสด เพื่อเป็นแนวทางให้คุณได้เตรียมตัว เพื่อที่เวลาเปิดร้านแล้วจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง ดังนี้

1.ต้องใช้เงินลงทุนมากน้อยแค่ไหน?

ขั้นต่ำของเงินลงทุนสำหรับธุรกิจร้านกาแฟสดก็จะอยู่ที่ประมาณเกือบหลักแสน เพราะต้องมีค่าลงทุนในส่วนของชุดอุปกรณ์ วัตถุดิบ และเงินทุนสำหรับหมุนเวียนในร้าน ซึ่งงบประมาณนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเตรียมงบในการลงทุนไว้ที่จำนวนเท่าไร และต้องคำนึงด้วยว่างบประมาณที่จะลงทุนนั้นเหมาะกับร้านรูปแบบไหน วิธีการเตรียมความพร้อมสำหรับต้นทุน = เงิน เงิน เงิน เมื่อคุณมีเงินทุน และคิดว่าพร้อมสำหรับการทำธุรกิจ ให้คุณแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน” ดังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1 คือ เงินสำหรับหมุนเวียนใช้จ่ายภายในร้าน เงินส่วนนี้เรียกได้ว่าเป็นก้อนเงินที่ใหญ่ที่สุด เพราะต้องใช้สำหรับซื้อของเข้าร้าน ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ส่วนที่ 2 คือ เงินฉุกเฉิน ก็ต้องยอมรับว่าถ้าหากยังไม่มีเงินในส่วนนี้เราไม่แนะนำให้คุณเปิดทำธุริกจใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่เพียงทำร้านกาแฟเท่านั้น การทำธุรกิจต้องมีเงินเตรียมไว้สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินที่จำเป็นต่างๆ เสมอ เช่น ซ่อมแซมร้าน หรืออุปกรณ์ ในกรณีที่อาจเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัยต่างๆ

ส่วนที่ 3 คือ เงินสำรอง / เงินอนาคต เงินส่วนนี้ถ้าได้เบิกถอนออกมาใช้จะถือว่าเป็นเรื่องราวดีดี

2.ทำเล และสไตล์ที่คุณต้องการ
เรื่องของการเลือกทำเล หรือจุดที่คุณจะตั้งร้านนั้น เรียกได้ว่าเป็นตัวกำหนดต้นทุนที่แตกต่างกัน อยู่ที่ความพอใจของเจ้าของธุรกิจ เพราะเงินทุนในส่วนนี้จะต่างกันที่ค่าตกแต่งพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ ค่าอุปกรณ์จะไม่แตกต่างกันมากนัก ซึ่งต้นทุนของการตกแต่งร้านสไตล์ต่างๆ มีดังนี้

1.สไตล์ลอฟท์

ดีไซน์ดิบ เท่ โดนใจ โชว์ความเปลือย มักนิยมโชว์ระบบการเดินท่อ ท่อเดินสายไฟฟ้า ฯลฯ เพื่อโชว์ความอาร์ต ซึ่งการลงทุนแต่งร้านสไตล์ลอฟท์ จะอยู่ประมาณที่ 8,000 – 12,000 บาท/ตรม. เช่น พื้นที่ร้าน 30 ตรม.x 12,000 = 360,000 บาท รวมอุปกรณ์ทำกาแฟ และของตกแต่งร้านอีกประมาณ 300,000 บาท รวมทั้งหมดประมาณ 660,000 บาท

2.สไตล์วินเทจ

เป็นสไตล์ที่น้อยแต่มากเรียบแต่โก้ไฮแฟชั่น ผสมผสานความคลาสสิกของยุคก่อน และยุคใหม่ ยิ่งเก่ายิ่ง เน้นสีที่ออกมาดูแล้วสบายตา ค่าทำร้านจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 -13,000 บาท เช่น ร้านขนาด 30 ตรม. x 13,000 = 390,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ทำกาแฟประมาณ 100,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ตกแต่งร้านประมาณ 200,000 (ซึ่งของเก่าบางชิ้นอาจมีราคาสูงมาก หากเป็นของหายาก หรือเลิกผลิตไปแล้ว) รวมค่าใช้จ่ายการทำร้านทั้งหมดประมาณ 690,000 บาท

3.สไตล์ Garden

เอาใจคนรักธรรมชาติเป็นที่สุด จุดเด่นคงหนีไม่พ้นต้นไม้ และสวนหลากหลายสไตล์ ผ่อนคลายไปกับเสียงน้ำตก หรือเสียงใบไม้พริ้วไหว ให้ความรู้สึกเหมือนเรานั่งอยู่ในสวนที่บ้านนั้นเอง ต้นทุนในการทำร้านสไตล์ Garden แบบนี้ การก่อสร้างร้านก็อยู่ที่ประมาณ 9,000 – 12,000 บาท/ตรม. เช่น พื้นที่ร้านขนาด 30 ตรม. x 12,000 บาท = 360,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ทำกาแฟประมาณ 100,000 บาท + ค่าอุปกรณ์ตกแต่งร้านประมาณ 200,000 + ค่าต้นไม้และอุปกรณ์ในการแต่งสวน 70,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 730,000 บาท

ทำเล
การเลือกทำเลที่ตั้งก็สำคัญ การเลือกทำเลหลักของร้านกาแฟ แบ่งได้ตามแหล่งชุมชนหลักๆ ดังนี้

1.ออฟฟิศ

การเลือกเปิดร้านกาแฟแถวออฟฟิศ หรือย่านสำนักงานออฟฟิศที่มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนทำงาน มีการใส่บริการเสริมฟรี เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร มี WiFi ส่วนค่าเช่าพื้นที่ก็มีตั้งแต่ประมาณ 10,000 – 60,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับทำเล ซึ่งย่านที่เป็นแหล่งออฟฟิตก็มีหลายที่ เช่น สาทร, สีลม, อโศก ,เพลินจิต ,รัชดา ,ชิดลม หรือลาดพร้าว เป็นต้น

2.สถานศึกษา

การตกแต่งร้านอาจจะเน้นไปในแนววินเทจ ดูน่าสนใจ เพราะเป็นแนวที่ชื่นชอบในกลุ่มวัยรุ่น หรือจะเพิ่มเติมด้วยการตกแต่งบรรยากาศให้มีมุมถ่ายรูป ส่วนค่าเช่าพื้นที่ก็มีตั้งแต่ประมาณ 6,000 – 40,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับทำเล หากต้องการราคาเช่า ไม่สูงมาก ควรเลือกมหาวิทยาลัยที่อยู่ตามชานเมือง และควรเลือกทำเลที่ใกล้หอพักนักศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างดี

3.Community Mall

ทำเลนี้ก็ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเป็นศูนย์รวมของ เหมาะสำหรับการทำร้านกาแฟที่มีสไตล์ร้านที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ซึ่ง Community Mall เปิดใหม่มากมายหลายแห่ง ค่าเช่าพื้นที่ก็มีตั้งแต่ประมาณ 10,000 – 60,000 บาท/เดือน

4.รถไฟฟ้า BTS / MRT

เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ได้รับความสนใจค่อนข้างสูง เพราะมีผู้คนคนรผ่านไปผ่านมามากถึง 39,600 – 112,600 คน/วัน หากสนใจควรทำร้านที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งราคาเช่าพื้นที่ก็ขึ้นอยู่กับทำเลว่าใกล้กับแหล่งธุรกิจมากแค่ไหน มีราคาตั้งแต่ประมาณ 10,000 – 100,000 บาท / เดือน

ต้นทุนอุปกรณ์ร้านกาแฟ

วิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟที่ดีที่สุดเลือกให้เหมาะกับขนาดธุรกิจและกลุ่มลูกค้า เช่น ถ้าจะขายสัก 30 - 35 บาท ก็เครื่องชงสัก 5 หมื่นก็ได้ ถ้าจะขายสัก 40 - 50 บาทขึ้นไปก็สามารถใช้เครื่องเป็นแสนได้เลย เพราะอย่างน้อยคุณคงมีเงินค่าแต่งร้านอีกหลายแสนอยู่

องค์ประกอบหลักในการทำธุรกิจ คือ เจ้าของร้าน โดยเฉพาะถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่เจ้าของเป็นผู้บริหารเอง จะต้องมีความสุขกับการค้าขาย มีความมุ่งมั่นเป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่งใหญ่ในการที่จะทำธุรกิจ มีความพร้อม และความอดทนที่จะเป็นนายคนอื่น และมีเงินลงทุนที่เพียงพอต่อการทำธุรกิจ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : caffacoffeemaker