ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ไขข้อสงสัย! ทำไม “ร้านกาแฟ” จึงเป็นธุรกิจเนื้อหอม ที่ใครๆ ก็อยากจะเปิด เพราะอะไร ไปดู


หากถามว่าคุณอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองไหม? หลายๆคนคงจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอยาก ในบรรดาธุรกิจที่ใครต่อใครมองหา แน่นอนว่าธุรกิจร้านกาแฟเป็นหนึ่งในคําตอบ หรือแทบจะเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจในฝันและเป็นธุรกิจยอดนิยมที่เป็นตัวเลือกต้น ที่น่าสนใจ สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ ด้วยเงินหลักหมื่น เรียกได้ว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมชนิดหนึ่งที่ไม่จำกัดประเภทของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเพศฐานะหรืออาชีพ

กาแฟสด ถือเป็นเครื่องดื่มที่นิยมชื่นชอบมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภค อีกทั้งขั้นตอนในการเปิดก็ไม่ยุ่งยากจนเกินไป สอดคล้องกับ Life Style ที่เข้ากับโลกในยุคโซเชียลมีเดีย ธุรกิจร้านกาแฟจึงเป็นธุรกิจในฝันที่ใครๆ ก็อยากมีเป็นของตัวเอง

ประเภทของร้านกาแฟที่เปิดแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

1.เป็นร้านที่มีโต๊ะนั่ง

ส่วนใหญ่ที่เราจะคุ้นเคย คือ เป็นร้านขายกาแฟอย่างเดียว กับร้านกาแฟที่มีทั้งเบเกอรี่รวมถึงอาหารมื้อเบาๆ หรืออาหารทั่วไปขายร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังมีร้านขายหนังสือที่มีเคาน์เตอร์กาแฟไว้คอยบริการลูกค้าอีกด้วย เป็นต้น

2.ร้านที่ไม่มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่ง

เช่น ซุ้มกาแฟเล็กๆ (คีออส) กาแฟรถเข็น ซึ่งสามารถแยกออกเป็นรูปแบบ Stand Alone คือร้านกาแฟที่มีพื้นที้เป็นของตัวเอง มีบรรยากาศสงบเป็นเอกเทศแยกออกจากตัวอาคารอื่นๆ ไม่มีช่วงเวลาจำกัดในการเปิดหรือปิด ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ขายเอง หรืออีกรูปแบบหนึ่งคือ ร้านกาแฟเป็น Shop อย่างในห้างสรรพสินค้าโรงพยาบาล อาคารสำนักงานต่างๆ ที่ต้องอาศัยเวลาเปิดปิดหน้าร้านตามอาคารนั้นๆ กำหนดงบประมาณในการลงทุนเปิดร้านกาแฟนั้นมีรูปแบบตัวเลือกดังต่อไปนี้

รูปแบบที่1 เจ้าของเปิดร้านเอง ซึ่งประโยชน์ของการเปิดร้านด้วยตัวเอง คือ สามารถสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองได้ โดยสามารถใส่ความคิด ไอเดียต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงการคิดค้นสูตรชงกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ เลือกวัตถุดิบอย่างเมล็ดกาแฟชนิดต่างได้อย่างอิสระ รวมไปถึงการวางคอนเซ็ปต์ร้านการเลือกอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ กำหนดกลุ่มเป้าหมายลูกค้าว่าต้องการเน้นไปที่กลุ่มไหนเป็นพิเศษ ทำเลที่ต้องการเปิด ออกแบบตกแต่งเองทั้งหมด เรียกได้ว่าต้องดูแลทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบ
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อจำกัดของการเปิดร้านเอง คือ การควบคุมค่าใช้จ่ายได้ยาก หากไม่คำนวณให้รอบคอบ

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรมองข้ามเบื้องต้น ดังนี้

1.ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์ในการชงกาแฟ เช่น เครื่องชงและเครื่องบดกาแฟ มีให้เลือกตั้งแต่หลักหมื่นจนไปถึงหลักแสน ทั้งนี้ ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและปริมาณที่ตั้งเป้าหมายที่จะขาย เป็นต้น

2.วัตถุดิบ เช่น ราคาเมล็ดกาแฟและส่วนผสมอื่นๆ

3.ค่าเช่าสถานที่ ในกรณีที่ต้องเช่าพื้นที่ตั้งของร้านกาแฟ ค่ามัดจำและเงื่อนไขค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามสัญญา ค่าก่อสร้างร้านกาแฟในกรณีที่มีสถานที่อยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายในการออกแบบตกแต่งสถานที่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน และเงินทุนหมุนเวียน

รูปแบบที่ 2 การเปิดแบบแฟรนไชส์ และกำลังเป็นที่นิยมโดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ การเปิดร้านกาแฟแบบแฟรนไชส์นั้นมักจะมีแบรนด์ให้เลือกลงทุนมากมายในท้องตลาด ในงบลงทุนต่ำเพียงแค่หลักพันไปจนถึงหลักแสน เช่น กาแฟแบรนด์พรีเมี่ยมหลายแบรนด์ตามแต่แพ็คเกจที่ต้องการ

จุดเด่นของการเปิดร้านกาแฟแบบแฟรนไชส์ คือ มีความสะดวกสบายสำหรับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ๆ เพราะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในงบประมาณที่ต้องการได้ ไม่ต้องคิดค้นสูตรเอง รวมไปถึงการเลือกซื้ออุปกรณ์ อีกทั้ง การเตรียมวัตถุดิบหรือการออกแบบตกแต่งร้าน เพราะทางเจ้าของแบรนด์จะจัดเตรียมไว้ให้ตามแพ็คเกจให้เลือก

ทั้งนี้ ร้านกาแฟแฟรนไชส์มักจะมีชื่อเสียงอยู่ในระดับหนึ่ง ไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างลูกค้าเอง มีการฝึกอบรมการชงและการขาย เป็นต้น

แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัด เช่น อาจจะต้องแบ่งผลกำไรส่วนหนึ่งให้กับเจ้าของแบรนด์หรือในบางแฟรนไชส์อาจมีการคิดค้นสูตรชงกาแฟใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา การคิดค้นสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ไม่ให้ซ้ำกับที่อื่น

-สำหรับ การออกโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดขายให้พุ่งกระฉูดแซงหน้าคู่แข่ง เช่น โปรโมชั่นลดราคาสำหรับสมาชิกโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 หรือลด 50% สำหรับลูกค้าในเดือนเกิด เป็นต้น

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าร้านกาแฟทุกวันนี้ไม่เพียงแค่ขายกาแฟ แต่มีทั้งการขายเบเกอรี่ ขายอาหาร หรือแม้กระทั่งขายหนังสือพ่วงไปด้วย ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น การเพิ่มไอเดียต่างๆ เข้าไปให้ธุรกิจร้านกาแฟเป็นมากกว่าร้านกาแฟเพื่อตอบโจทย์เรื่อง Life Style ของผู้บริโภคกลุ่มอื่นๆ ก็สามารถทำให้ธุรกิจมีจุดเด่นมากขึ้นได้เช่นกัน เช่น ร้านกาแฟที่เพิ่มมุมสำหรับคนรักสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟสำหรับคนรักสุนัข ร้านกาแฟสำหรับคนรักแมว ที่สามารถเพิ่มยอดขายทั้งกาแฟและยังต่อยอดธุรกิจให้มีความหลากหลสายมากขึ้น เพราะสามารถขายอาหารสำหรับสัตว์พ่วงไปด้วยในที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเหล่านี้มีทางเลือกในการใช้ชีวิตและสามารถทำกิจกรรมกับสัตว์เลี้ยงในวันหยุดพักผ่อนด้วยในตัว

-ด้านการ ออกแบบแพ็คเกจจิ้ง หากแพ็คเกจจิ้งมีความน่าสนใจ มีรูปแบบที่มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ก็เป็นอีกหนึ่งทางดึงดูดใจลูกค้าได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ในยุคที่ สื่อโซเชียลมีเดีย มีผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละวัน การใช้สื่อออนไลน์เพื่อทำการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทุกวัยก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ การใช้สื่อออนไลน์เพื่อสื่อสาร เพื่อโปรโมทแบรนด์สินค้าอยู่สม่ำเสมอ เพราะการใช้สื่อออนไลน์เป็นการทำตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและยังใช้งบประมาณที่ไม่มากนัก แต่ได้ประสิทธิภาพสูง

-การบริการที่ดี ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าเรื่องของรสชาติ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้า Loyalty ต่อแบรนด์สินค้าของคุณ เพราะฉะนั้นควรเน้นให้ความใส่ใจในการบริการที่ดีต่อลูกค้าสม่ำเสมอให้เป็นมาตรฐาน

-การตกแต่งร้าน นอกจากรสชาติกาแฟจะต้องกลมกล่อมตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าแล้ว การตกแต่งร้านเป็นอีกปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึง จะสังเกตุได้ว่าทุกวันนี้ผู้บริโภคให้ความสนใจกับบรรยากาศในร้านไม่น้อยไปกว่ารสชาติ ร้านกาแฟการตกแต่งได้ดีมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมักจะได้เปรียบคู่แข่งในตลาด เพราะสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาในร้านได้มากกว่า

ยิ่งในยุคโซเชียลมีเดียแล้ว Life Style ของผู้บริโภคมักให้ความสำคัญกับบรรยากาศภายในร้านกาแฟมากขึ้น เพราะร้านกาแฟจึงเป็นมากกว่าการซื้อแล้วจากไป แต่กลับกลายเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ พูดคุย หรือแม้กระทั่งการประชุมเล็กๆ อย่างไม่เป็นทางการได้เช่นกัน ดังนั้นผู้ที่สนใจธุรกิจด้านนี้ควรจะมีการวางคอนเซ็ปต์ การออกแบบตกแต่งเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ

-โอกาสในการขยายธุรกิจ เนื่องจากความนิยมชมชอบในรสชาติและความหอมหวานของกาแฟสดทำให้คอกาแฟอย่างพนักงานออฟฟิศและคนรุ่นใหม่ เริ่มมีการเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาบริโภคกาแฟสดกันมากขึ้น และธุรกิจการผลิตกาแฟยังเติบโตอย่างต่อเนื่องนี่เอง ตลาดสำหรับธุรกิจร้านกาแฟจึงยังสามารถขยับขยายได้ โอกาสในการขยายธุรกิจยังมีอนาคตที่สดใสพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจเปิดร้านกาแฟควรศึกษาหาข้อมูลให้รอบคอบ เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยงไม่มากก็น้อยเสมอ มีไม่น้อยเช่นกันที่ผู้ลงทุนกระโจนเข้าไปในตลาดโดยปราศจากการศึกษาข้อมูลให้รอบด้านจึงไม่ประสบความสำเร็จต้องปิดตัวลงในที่สุด โดยมีหลากหลายสาเหตุ เช่น สูตรการชงไม่ได้รสชาติที่กลมกล่อม การเลือกเมล็ดกาแฟหรือส่วนผสมที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำเลที่ตั้งไม่อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดีพอ หรือมีคู่แข่งใกล้เคียงเยอะจนเกินไปและที่สำคัญไม่ศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

ท้ายที่สุดแล้ว ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่น่าสนใจแค่ไหนก็ตาม หากไม่คำนึงถึงสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นก็อาจจะทำให้ผู้ลงทุนเพลี้ยงพล้ำในการดำเนินธุรกิจได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นหากใครสนใจเปิดร้านกาแฟ นอกจากจะต้องดูงบประมาณไม่ให้บานปลายเกินความจำเป็นแล้ว ควรให้ความใส่ใจกับทุกปัจจัยเสี่ยง ต้องปรับตัวให้ทันตามสถานการณ์ทางตลาด ต้องมีกลยุทธ์เพื่อรับมือกับคู่แข่งและที่สำคัญต้องใส่ใจลูกค้าสม่ำเสมอ เพราะลูกค้าคือหัวใจหลักสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจของคุณ