มาดู! 4 ขั้นตอนสร้างธุรกิจ ควบคู่กับ “งานประจำ” อีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้รับ New Normal

ในยุคสมัยนี้ การมีรายได้จากงานประจำเพียงอย่างเดียวดูจะไม่เพียงพอเสียแล้วกับภาระค่าใช้จ่ายเพราะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น บางคนมองหารายได้กระเป๋าที่สอง หรือบางคนคิดจะเปิดธุรกิจทำควบคู่กับงานประจำ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคุณเองเหมาะที่จะทำธุรกิจอะไร หรือยังไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไร ชี้ช่องรวย มีข้อแนะนำดีๆ มาบอกค่ะ

1.หาธุรกิจที่ทำควบคู่กับงานคุณได้

เริ่มหาช่องทางสร้างธุรกิจส่วนตัว จากหลังเวลาเลิกงานหลักของเราก่อน เพราะในช่วงแรกๆ งานประจำก็เป็นแหล่งรายได้หลักของเราอยู่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ธุรกิจส่วนตัว มักจะต่อยอดมาจากงานหลักที่เราทำ ลองสังเกตจากรุ่นพี่ที่ทำงานที่ลาออกไป เขาต่อยอดไปทำอะไร ในตลาดยังมีความต้องการอีกเยอะไหม ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น

– คนทำงานสายบัญชี ก็ไปเปิดบริษัทรับทำบัญชี

– คนทำงานสาย IT ก็ไปเปิดบริษัทขายสินค้าด้าน IT

– คนทำงานสาย HR ก็ไปเปิดบริษัทเทรนนิ่ง, บริษัทที่ปรึกษาต่างๆ

ลองมองหาจากสิ่งที่เราถนัดและเชี่ยวชาญ แล้วต่อยอดด้วยการรับ job นอกเวลางานดูก่อน ไม่แน่ว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่มั่นคงในอนาคตก็เป็นได้

2.สำรวจงบประมาณที่มี

อย่างที่เราทราบกันอยู่แล้วว่าการทำธุรกิจสักธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งคุณต้องมีเงินทุน อยากจะทำธุรกิจควบคู่กับงานประจำเราต้องเช็คให้ดีก่อน ว่าเรามีเงินทุนที่จะนำไปลงทุนเท่าไหร่ หรือหากใครที่ไม่มีเงินทุนอาจต้องกู้ธนาคาร หรือช่องทางอื่นๆ จะต้องศึกษารายละเอียดให้ดี และอีกเรื่องที่สำคัญคือ “เงินทุนสำรอง” ควรจะต้องมีอย่างต่ำ 3-6 เดือนเผื่อไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

3.เขียนแผนธุรกิจให้ชัด

สิ่งที่จะทำให้เราเห็นภาพได้ชัดเจน คือ “การเขียนแผนธุรกิจ” เพราะจะช่วยให้เรารู้ว่าขั้นตอนต่อไปเราจะเดินไปอย่างไร ธุรกิจนี้มีความเป็นไปได้แค่ไหน การเขียนแผนธุรกิจนั้นยิ่งเขียนรายละเอียดมากเท่าไหร่ก็ดีมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเขียนลึกเราจะยิ่งเห็นปัญหา และทำให้เรารู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไรบ้าง? นำไปสู่การประเมินกับตัวเองว่า เราพร้อมจะรับผิดชอบหน้าที่ตรงนั้นแล้วหรือยัง

4.เมื่อมั่นใจแล้ว เริ่มทันที

เตรียมตัวพร้อมแล้ว ขึ้นตอนที่สำคัญที่สุด คือ ”เริ่มทำทันที” ให้ถือคติว่า “ไม่ลองลงมือทำ ไม่มีทางรู้” กล่าวคือ หากเราไม่ลงมือทำ ผลลัพธ์ก็จะยังเป็นศูนย์อยู่เช่นนี้ต่อไป แต่ถ้าหากเราลงมือทำ พยายามลองผิดลองถูก ย่อมมีโอกาสประสบผลสำเร็จมากกว่าคนที่นิ่งเฉยไม่พยายามทำอะไรแน่นอน ฉะนั้นเมื่อมั่นใจในความคิด ความฝันของตัวเองแล้ว ก็จงเชื่อมั่นและลงมือทำทันที