ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

5 วิธีจัดการสินค้าค้างสต็อก เพิ่มยอดขาย สร้างกำไร


หนึ่งในปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าที่ทำธุรกิจค้าขาย คือ สินค้าบางตัวที่ขายไม่ออก ทำให้มีสินค้าค้างสต็อก ถึงแม้จะได้ทุนได้กำไรมาบ้างแล้ว แต่บางที่ก็อยากจะขายให้หมดเพื่อให้ได้กำไรเพิ่ม วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะขอนำเสนอ “5 วิธีจัดการสินค้าค้างสต็อก เพิ่มยอดขาย สร้างกำไร” มาให้ลองไปใช้กันดู มาดูกันว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง

1.วางสินค้าค้างสต็อกที่จะขายให้เด่นกว่าสินค้าตัวอื่น

วิธีทำก็คือ หากเป็นสินค้าที่ขายหน้าร้าน ให้วางสินค้าตัวนั้นใกล้ๆทางเข้าร้าน หรือบริเวณจุดชำระเงิน อาจจะมีป้ายกำกับว่า “สินค้าแนะนำ” เพื่อให้ลูกค้าเกิดสะดุดตา เวลาลูกค้าเดินผ่านมาเห็น จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าตัวนี้เป็นสินค้าที่น่าลองเอาไปใช้หรือลองไปรับประทาน สำหรับกลุ่มที่ขายของทางออนไลน์ก็อาจจะใช้วิธีปักหมุดให้สินค้า ให้อยู่ในหน้าแรกของเว็บไซต์หรือบริเวณอยู่ด้านบนสุดของแต่ละหมวดหมู่

2.จัดโปรโมชั่น ลดราคาสินค้าให้ถูกกว่าสินค้าตัวอื่น

เมื่อขายสินค้าชนิดเดิมเป็นระยะเวลาหนึ่งสินค้าจะเริ่มขายออกยากขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย นั่นทำให้เกิดการค้างสต็อกของสินค้า ดังนั้นการจัดโปรโมชั่นถือเป็นทางออกที่ดี เพื่อการระบายสินค้า เพิ่มยาดขาย โดยรูปแบบการจัดโปรโมชั่นก็มีให้เลือกหลากหลายู้ประกอบการก็ลองหาวิธีที่เหมาะสมกับสินค้ากันดู

***เทคนิคทำ “โปรโมชั่น” อย่างไรให้ยอดขายพุ่ง*** https://cheechongruay.smartsme.co.th/content/26423

3.ใช้สินค้าค้างสต็อกเป็นของแถม

วิธีนี้ก็เหมือนการจัดโปรโมชั่น แต่การที่จำวิธีนี้ได้นั้นจะต้องแน่ใจก่อนว่าสินค้าตัวดังกล่าวคุ้มทุนและมีกำไรมากพอสมควรแล้ว วิธีการนี้นอกจากจะดึงดูดลูกค้าให้อยากจะซื้อสินค้าแล้ว ยังจะเป็นวิธีการระบายสินค้าค้างสต็อกได้เป็นอย่างดี

4.ขายในราคาเท่าทุน

วิธีนี้การนี้อาจจะไม่ใช่วิธีการที่ดี แต่เมื่อสินค้าของคุณค้างสต็อกมาเป็นเวลานาน สินค้าจะเริ่มเสื่อมสภาพ จึงจำเป็นจะต้องขายในราคาที่ถูกกว่าปกติ โดยอาจจะขายราคาเท่าทุน หรือต่ำกว่าทุน ซึ่งจะต้องเน้นย้ำก่อนว่าสินค้าตัวดังกล่าว ต้องแน่ใจก่อนว่าสินค้าตัวดังกล่าวคุ้มทุนและมีกำไรมากพอสมควรแล้ว

5.แลกเปลี่ยนสินค้ากับผู้ผลิต

วิธีนี้คือ การติดต่อเพื่อคืนสินค้าหรือแลกเปลี่ยนสินค้าอื่นๆ คุณจะต้องลองคุยกับทางผู้ผลิตสินค้าว่า จะสามารถช่วยแก้ปัญหา สินค้าที่ขายไม่ออกได้หรือไม่ เพราะบางครั้งผู้ผลิตเอง จะช่วยติดต่อหาทางออกให้กับคุณ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า และบริษัทผู้ผลิตสินค้า