ในทุกธุรกิน “ทำเล” ก็ถือเป็นปัจจัยหลังที่จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้ เช่นเดียวกันกับ ร้านกาแฟ การมีทำเลที่ก็ถือเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะขายได้ วันนี้ ชี้ช่องรวยจะมาแนะนำถึงทำเลและรูปแบบของร้านกาแฟให้ผู้อ่านหรือคนที่กำลังสนใจจะเปิดร้านได้ลองพิจารณาดูว่ามีอะไรบ้าง
ทำเลที่ดีต้องอย่างนี้
ก่อนอื่นเรามาดูคุณลักษณะของทำเลที่ดีกันก่อนว่าทำเลที่ดีควรจะมีลักษณะดังนี้
- เป็นทำเลที่มีผู้คนสัญจรไปมาตลอดเวลา เช่น ตลาด ย่านการค้าภายในศูนย์การค้า อาคารสำนักงานใหญ่ สถานที่ราชการมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
- เป็นทำเลที่ไม่มีคู่แข่ง เช่น หากในย่านนั้นมีร้านกาแฟอยู่แล้วหากเราไปเปิดแข่งก็เพียงไปแย่งส่วนแบ่งลูกค้าจากร้านที่มีอยู่เดิม ซึ่งอาจไม่มากพอสำหรับร้านของเรา
ลงทุนเท่าไหร่ดี
สำหรับเงินทุน เราควรพิจารณาว่าเราพร้อมที่จะลงทุนเพียงใด เพราะปริมาณเงินที่ใช้ลงทุนมีผลกับรูปแบบร้าน และการกำหนดราคาขายต่อไป เราต้องกำหนดจำนวนเงินที่เตรียมไว้สำหรับลงทุน เพื่อหารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมดิฉันมีตัวอย่างรูปแบบการลงทุนให้ลองเลือกดู
1.บูธหรือเคาน์เตอร์ขนาดเล็กๆ (Small Kiosk) หากเรามีเงินลงทุนไม่สูงเพียงหลักพันหรือหลักหมื่น เราอาจเลือกลงทุนร้านกาแฟแบบเป็นบูธเล็กๆ โดยมีพื้นที่สำหรับวางชุดเก้าอี้เล็กๆ หรือจะไม่มีก็ได้ มักเช่าพื้นที่ตั้งขายในห้างพื้นที่ภายในอาคารสำนักงาน หรือริมถนน
2.ร้านกาแฟคีออส (Coffee Kiosk) รูปแบบนี้มักใช้เงินลงทุนเป็นหลักแสนหรือหลายแสนบาท เพราะต้องสร้างคีออสขึ้นมาและอาจมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเก้าอี้ให้แขกนั่งหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ตั้งของร้าน ร้านกาแฟลักษณะนี้นิยมทำกันในปั๊มน้ำมันมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล หรือส่วนราชการต่างๆ
3.ร้านเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าหรือในอาคาร (Shop) ร้านลักษณะนี้อาจลงทุนหลายแสนบาทถึงหลักล้าน เพราะต้องตกแต่งสถานที่ให้สวยงามโดดเด่น มีทั้งเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ และพื้นที่นั่งของลูกค้าเป็นสัดส่วน มักจะอยู่ในพื้นที่ของห้างสรรพสินค้า หรือภายในอาคารสำนักงาน หรือโรงพยาบาล เป็นการเข้าไปเช่าพื้นที่ ซึ่งร้านลักษณะนี้นอกจากลงทุนสูงแล้วค่าเช่ามักจะแพงมาก โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่
เราจึงต้องวิเคราะห์ทำเลและประเมินว่าทำเลเช่นนี้จะทำรายได้ให้เราได้แน่ๆ เกินเดือนละ 1 ล้านบาท แม้ว่าค่าเช่าจะมหาโหดถึงเดือนละ 200,000 บาทก็ถือว่าค่าเช่าไม่แพง เพราะถ้าหักค่าเช่าและค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วเรายังเหลือกำไรถึงเดือนละ 200,000 บาท แต่หากเปรียบเทียบกับอีกพื้นที่หนึ่ง ค่าเช่าเพียง 30,000 บาท วิเคราะห์แล้วทำเลนี้น่าจะทำรายได้ให้เราได้เพียงเดือนละ 80,000 บาท ค่าเช่าของทำเลนี้ก็ถือว่าแพงเกินไป เพราะหักค่าเช่าและค่าใช้จ่ายอื่นๆไปแล้ว เราอาจขาดทุนหรือเหลือกำไรเพียงไม่กี่พันบาทหรือน้อยกว่านี้ จึงไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ที่จะเช่าพื้นที่นี้
4.ร้านเดี่ยวภายในพื้นที่นอกอาคาร (Stand Alone) อาจเป็นร้านที่อยู่ในพื้นที่ดินของตนเอง แล้วสร้างเป็นร้านขึ้นมาเป็นหลังร้านลักษณะนี้ลงทุนสูงเป็นหลักหลายแสนหรือหลักล้าน ขึ้นอยู่กับการตกแต่งสถานที่ว่าต้องตกแต่งมากน้อยเพียงใดเมื่อเห็นรูปแบบของการลงทุนแล้ว เราจะเลือกลงทุนแบบใดไปกู้ยืมเงินมาลงทุน เราควรลงทุนด้วยเงินทุนที่เรามีอยู่จริง เพราะว่าการกู้มาลงทุน หากเราไม่สามารถมีกำไรเพียงพอไปจ่ายค่าดอกเบี้ยต้องควักเนื้อหรือขาดทุนเพื่อจ่ายดอกเบี้ย มันก็เหมือนเราทำงานฟรีๆแล้วเหนื่อยฟรีจริงไหม
